วันนี้ (27 ก.พ.) ราคาทองคําปรับฐานลงแกว่งตัวในช่วงแคบระหว่าง 1806.68-1814.21 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (16.20 น.) ท่ามกลาง ปริมาณการซื้อขายที่ลดลงจากวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ก.พ.) ทั้งนี้ ในวันศุกร์ดังกล่าว สหรัฐได้มีการเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาการใช้จ่าย- ด้านการบริโภคพื้นฐานส่วนบุคคล (Core PCE) เดือนม.ค. ที่ปรับตัวพุ่งขึ้นสูงกว่าคาดการณ์ เมื่อเทียบกับทั้งรายปีและรายเดือน บ่งชี้ถึง ระดับเงินเฟ้อในสหรัฐที่ยังคงตัวอยู่ในระดับสูง นักลงทุนจึงทวีความวิตกกังวลต่อประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) พร้อมปรับเพิ่มน้ําหนักของความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือนมี.ค. นี้ ค่าเงินดอลลาร์และ อัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐจึงปรับตัวสูงขึ้นตอบรับแนวโน้มดังกล่าว โดยดอลลาร์พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ กดดันให้ ราคาทองคําปรับตัวร่วงลงแตะระดับต่ําสุดใหม่ในรอบ 2 เดือน อย่างไรก็ดี แม้ในวันนี้ราคาทองคําจะฟื้นตัวขึ้นมาได้บ้างจากแรงซื้อทาง เทคนิคและการย่อตัวลงของดอลลาร์ แต่เนื่องด้วยประเด็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่ยังคงหนุนค่าเงินดอลลาร์ ราคาทองคําจึงยัง ถูกกดดันให้เคลื่อนไหวในทิศทางขาลงต่อ นอกจากนั้น นักลงทุนยังคงชะลอการซื้อขาย พร้อมจับตาตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ โดยคืนนี้ เวลา 20.30 น. สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขยอดคําสั่งซื้อสินค้าคงทน เดือนม.ค. รวมถึงการติดตามถ้อยแถลงของนายฟิลลิป เจฟเฟอร์สัน หนึ่งในผู้ว่าการเฟด เวลา 22.30 น. เพื่อประเมินระดับความแข็งกร้าวในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดต่อไป
คําแนะนํา
• แนะนําเปิดสถานะขายเพื่อทํากําไรระยะสั้น หากราคาไม่ผ่านแนวต้านที่ 1,826-1,830 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะขายตัดขาดทุน หากราคาผ่านแนวต้าน 1,830 อลลาร์ต่อออนซ์
• รอปิดสถานะขายทํากําไร หากการราคาอ่อนตัวลงสามารถยืนเหนือโซนแนวรับ 1,800-1,784 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th