Economic Highlight
ไฮไลท์สำคัญที่ควรติดตาม ได้แก่
1) รายงานอัตราเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ ในเดือนมกราคม
2) รายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) รวมถึง ถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด และ
3) รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ โดย S&P Global (Manufacturing & Services PMIs) ของฝั่งสหรัฐฯ ยุโรป รวมถึงญี่ปุ่น
นอกเหนือจากปัจจัยดังกล่าว ควรติดตามความเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ (Geopolitical Risks) ในช่วง 22-24 ก.พ. ที่ทางรัสเซียอาจเปิดฉากบุกโจมตียูเครนระลอกใหญ่อีกครั้งได้
**ราคาทองคำ = สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเดือน เม.ย.
FX Highlight
ในระยะสั้นนี้ เงินบาทยังขาดปัจจัยหนุนฝั่งแข็งค่า ทำให้เงินบาทมีแนวโน้มแกว่งตัว sideways Up และมีโอกาสที่เงินบาทจะอ่อนค่าทดสอบแนวต้าน 34.80-34.90 บาทต่อดอลลาร์ ได้ไม่ยาก โดยเฉพาะ หากตลาดยังคงอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off)
ทั้งนี้ ตลาดการเงินมีแนวโน้มผันผวนสูงอยู่ โดยเฉพาะในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานเงินเฟ้อ PCE สหรัฐฯ รวมถึงรายงานการประชุมล่าสุดของเฟดและถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่เฟด
นอกจากนี้ ความเสี่ยงสงครามรัสเซีย-ยูเครนที่อาจร้อนแรงขึ้นในสัปดาห์นี้ ก็อาจกดดันให้ตลาดอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง ซึ่งอาจหนุนการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ กดดันให้เงินบาทผันผวนอ่อนค่าลงได้
อย่างไรก็ดี หากราคาทองคำสามารถรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง (ซึ่งความเสี่ยงสงครามก็อาจช่วยหนุนราคาทองคำขึ้นได้บ้าง) ก็อาจช่วยชะลอการอ่อนค่าของเงินบาทได้
ในเชิงเทคนิคัล ทั้งสัญญาณจาก RSI และ MACD อาจยังคงชี้ว่า เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่าลงได้ ทว่า จากการประเมินมูลค่าของเงินบาท เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทในรอบนี้ หากไม่ได้มีปัจจัยกดดันฝั่งอ่อนค่าเพิ่มเติม เงินบาทอาจอ่อนค่าได้มากสุดไม่เกินระดับ 35.50-35.75 บาทต่อดอลลาร์
Gold Highlight
ราคาทองคำยังคงอยู่ในช่วงปรับฐาน แต่โดยรวมผู้เล่นในตลาดยังทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว
ในระยะสั้น ราคาทองคำอาจยังไม่สามารถพลิกกลับมาปรับตัวขึ้นได้ จนกว่าตลาดจะคลายกังวลแนวโน้มเฟดขึ้นดอกเบี้ย ซึ่งต้องเห็น รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าคาด หรือ อัตราเงินเฟ้อต้องชะลอลงชัดเจน
อนึ่ง เรามองว่า หากตลาดการเงินปิดรับความเสี่ยงจาก ปัจจัยเสี่ยงภูมิรัฐศาสตร์ อย่าง การบุกยูเครนระลอกใหม่ของรัสเซีย ก็อาจช่วยหนุนให้ราคาทองคำรีบาวด์ขึ้นมาได้บ้าง แต่การปรับตัวขึ้นจะถูกจำกัดด้วยความกังวลแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด
ในเชิงเทคนิคัล ราคาทองคำมีโอกาสย่อตัวลงต่อ แต่เราเริ่มเห็นสัญญาณที่อาจสะท้อนว่า การปรับตัวลงของราคาทองคำ อาจชะลอลง โดยเฉพาะหาก RSI เกิดสัญญาณ Divergence
เราคงมุมมองเดิมว่า หากราคาทองคำย่อตัว ก็อาจเป็นการพักฐาน เพื่อปรับตัวขึ้นต่อ โดยมีเป้าราคาทองคำในปีนี้ที่ระดับ 2,000 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ซึ่งผู้เล่นในตลาดอาจรอจังหวะ Buy on Dip ใกล้โซนแนวรับ
อนึ่ง เราจะประเมินสถานการณ์ใหม่อีกครั้ง หากราคาทองคำปรับฐานหนัก หลุดกรอบแนวรับเทรนด์ขาขึ้น แถว 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (Zone Fibonacci Retracement 50%)