ตลาดหุ้นโลกยังผันผวนในเช้านี้ จากสหรัฐมีการปรับแก้ตัวเลขเงินเฟ้อและเงินเฟ้อ พื้นฐาน เดือน ธ.ค. 65 จากเดิม -0.1%, +0.3%MoM ตามลำดับ ขึ้นเป็น +0.1% และ +0.4%MoM และรัสเซียเตรียมลดกำลังการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล / วัน ในเดือนมี.ค. 66 รวมถึงจะไม่จำหน่ายน้ำมันให้แก่ชาติที่กำหนดเพดานราคาน้ำมัน หนุนราคาน้ำมันดิบขยับขึ้นทันทีราว 2% พร้อมกับนักลงทุนเฝ้ารอการรายงาน ตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ เดือน ม.ค. 66 ตลาดคาดว่าเติบโต 6.2%YoY (เดือนก่อน เติบโต 6.5%YoY) ถ้าออกมาต่ำกว่าคาดจะเป็นแรงหนุนให้สินทรัพย์เสี่ยงขยับขึ้น ได้ กลับมาในไทยยังเห็นการรายงานงบ 4Q65 ที่ออกมาต่ำกว่าตลาดคาดต่อเนื่อง ในวันศุกร์ อาทิ TOP, SCCC โดยฝ่ายวิจัยฯ รวบรวมหุ้นที่รายงานงบ 4Q65 ทั้งสิ้น 44 บริษัท มีกำไร 6.5 หมื่นล้านบาท (-33%QoQ, -25%YoY) และต่ำกว่าที่ตลาด คาดถึง 21% ถือเป็นเหตุผลหนึ่งที่กดดันให้ต่างชาติขายสุทธิทุกวันในเดือน ก.พ. 65 กว่า 2 หมื่นล้านบาท (mtd) และเป็นการขายสุทธิสูงสุดในภูมิภาคด้วย
กลยุทธ์การลงทุนในยามที่ตลาดหุ้นโลกผันผวน กำไรงวด 4Q65 หลายบริษัทน่า ผิดหวัง ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1650 –1675 จุด แนะนำหุ้น Domestic ผันผวนต่ำ CRC, หุ้นเข้าดัชนี MSCI อย่าง BTG และหุ้นงบ 4Q65 เด่น ปันผลสูง จ่ายปีละครั้ง BAM เป็น Top pick
ความไม่แน่นอนของเงินเฟ้อ กดดันตลาดหุ้นผันผวนช่วงสั้น
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาน้ำมันดิบ Brent พุ่งขึ้นมาราว 2.08% หลังรัสเซียประกาศแผน ลดการผลิตน้ำมัน 5 แสนบาร์เรล/วัน ในเดือนมี.ค. 2566 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 5% ของ ปริมาณการผลิตทั้งหมด รวมถึงจะไม่จำหน่ายน้ำมันให้แก่ชาติที่เกี่ยวข้องกับการกำหนด เพดานราคาน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันของรัสเซีย
ทั้งนี้ปัจจัยทั้งเรื่องราคาน้ำมันที่สูงขึ้น รวมถึงเงินเฟ้อในฝั่งภาคบริการที่ยังคงเพิ่มขึ้น หลัง การเปิดประเทศ อาจจะเข้ามากดดันให้เงินเฟ้อสหรัฐปรับตัวลดลงช้ากว่าคาดการณ์ไว้ ขณะเดียวกันนักลงทุนยังติดตามการประกาศตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐเดือน ม.ค. 66 (วันที่ 14 ก.พ. 2566 ในเวลา 20.30 น.) เพื่อหาทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ Fed ใน ระยะถัดไป โดยตลาดคาดว่าจะขยายตัวราว 6.2%YoY ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ระดับ 6.5%YoY ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) คาดว่าจะอยู่ที่ 5.5%YoY ลดลงจากเดือน ก่อนหน้าเช่นกันที่ระดับ 5.7%YoY ทั้งนี้หากตัวเลข CPI ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาด น่าจะ เป็น Sentiment เชิงลบต่อตลาดหุ้น
อย่างไรก็ตามการที่ Fed ปรับแก้ตัวเลข CPI ของสหรัฐ ในเดือน ธ.ค. 2565 จาก -0.1%MoM เป็น +0.1%MoM รวมถึง Core CPI ของสหรัฐ ในเดือน ธ.ค. 2565 จาก +0.3%MoM เป็น +0.4%MoM ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่กดดันให้ตลาดหุ้นผันผวนในช่วง เช้านี้
สรุป ราคาน้้ามันที่ปรับตัวสูงขึ้น บวกกับการรอประกาศตัวเลขสหรัฐ และการปรับแก้ ตัวเลข CPI Growth รายเดือนของสหรัฐในเดือน ธ.ค. 2565 ที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น อาจท้า ให้นักลงทุนกังวลว่า เงินเฟ้อสหรัฐอาจทรงตัว และปรับตัวลดลงช้ากว่าคาด ซึ่งปัจจัย ดังกล่าวคาดว่าเข้ามากดดันตลาดหุ้นให้เกิดความผันผวนได้ในช่วงสั้น
4Q65 ก้าไรอย่างแบด SET แซดแน่ๆ ... มองกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ 1650-1675 จุด
เดือน ก.พ.66 ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นไทยยังผันผวนต่อเนื่อง หลัง Fund Flow ต่างชาติไหล ออกกว่า 592 ล้านเหรียญฯ (ราว 2 หมื่นล้านบาท) สวนทางกลับประเทศอื่นแถบเอเชีย ส่วนใหญ่ต่างชาติซื้อสุทธิอาทิเกาหลีใต้ +1915 ล้านเหรียญฯ, อินโดนีเซีย +295 ล้าน เหรียญฯ เนื่องจากเป็นช่วงเฝ้ารอดูผลประกอบการ 4Q65 รายหุ้น โดยประเทศเหล่านั้น ประกาศกำไร 4Q65 ออกมาสดใสทั้งในมุมของ Growth และ Surprise ขณะที่ประเทศ ไทย กำไร 4Q65 มี Negative Surprise หรือผิดจาก Consensus คาดการณ์ไว้ถึง 21% โดยมีการรายงานออกมาแล้ว 44 บริษัท (Market Cap 25%) มีกำไรสุทธิรวม 6.5 หมื่น ล้านบาท ลดลง -32.9%QoQ และ -25.4%YoY
และหากนำข้อมูลมารวมกับที่ฝ่ายวิจัยฯทำ Earning Preview ไว้ อีก 44 บริษัทรวมเป็น 88 บริษัท (คิดเป็นสัดส่วน Market Cap 49%) มีกำไรรวม 1.02 แสนล้านบาท ลดลง -23%QoQ และ -29%YoY ซึ่งถือว่าเป็นสัญญาณที่ไม่ดีต่อกำไรงวด 4Q65 และมีโอกาสที่กำไรรวมทั้งปี 2565 อาจต่ำกว่าประมาณการที่ฝ่ายวิจัยฯ คาดไว้ที่ระดับ 1.14 ล้านล้าน บาท
ขณะที่สัปดาห์นี้(13 ก.พ.65 – 17 ก.พ.65) มีหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯทำการศึกษาและประกาศงบ 22 บริษัท อาทิ PTTGC SGC (13 ก.พ.65) VGI (14 ก.พ.65) OR ITC ASK DELTA DCC (15 ก.พ.65) SC LPN PTT (BK:PTT) THANI DRT BBGI (16 ก.พ.65) NER STGT STA PSH GULF TIDLOR TASCO (17 ก.พ.65) เป็นต้น ซึ่งต้องติดตามว่าจะทำให้ทิศทางกำไร 4Q65 จะ เปลี่ยนแปลงไปเช่นไร และ Negative Surprise มากน้อยเพียงไหน โดยฝ่ายวิจัยมีการ Preview 12 บริษัท และมีบริษัทที่คาดกำไร 4Q65 จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY คือ GULF SC ASK และ DRT
สรุป เดือนนี้ถือเป็นบทสรุปของก้าไร 4Q65 ว่าจะเป็นเช่นไร และจะส่งผลต่อก้าไรสุทธิ ปี 2566 หรือไม่? คาดท้าให้ SET Index แกว่งผันผวนในกรอบแคบ รอดูผลลัพธ์จาก ประเด็นดังกล่าว โดยวันนี้มองกรอบการเคลื่อนไหวที่ระดับ 1650-1675 จุด ส่วนหุ้น Top picks เลือก BAM BTG CRC
บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities