February investment outlook
• February: สําหรับภาพในเดือนกุมภาพันธ์ คาดตลาดหุ้นไทยแกว่งตัวใน กรอบ 1630-1730 จุด โดยบรรยากาศการลงทุนโดยรวมทั่วโลกน่าจะเคลื่อนไหวไปกับทิศทางของเงิน USD ต่อไป ซึ่งในช่วงต้นเดือน คงจะ ขึ้นอยู่กับท่าทีของ Fed ในการประชุมวันที่ 1 ก.พ. หากมีการขึ้นดอกเบี้ยที่ ระดับ 0.25% ตามตลาดคาดจริง คงต้องติดตามต่อว่า Statement ที่ออกมา รวมถึงการแถลงของนาย Jerome Powell จะมีทิศทางเอนเอียง ไปในเชิง Dovish / Hawkish มากน้อยขนาดไหน ส่วนในช่วงระหว่างเดือน คงต้องตามติดกันต่อไปยังตัวเลขเศรษฐกิจสําคัญของสหรัฐฯ ทั้งตัวเลข การจ้างงานและรายงานเงินเฟ้อ ซึ่งจะส่งผลต่อมายังคาดการณ์ Fed Fund futures ในตลาด โดย ณ ปัจจุบันตลาดยังคงมอง Terminal rate ของ Fed ที่ระดับ 4.75-5.00% หรือ Imply การขึ้นดอกเบี้ยในรอบนี้และรอบ เดือนมีนาคม ครั้งละ 0.25% เท่านั้น
Thai economy: ในส่วนของเศรษฐกิจไทยล่าสุด ธปท.รายงานภาวะ เศรษฐกิจไทยเดือนธ.ค. พบการปรับตัวแข็งแกร่งของการบริโภค ภาคเอกชน (+2.7% YoY / +1.4% MoM) โดยหลักเกิดขึ้นในหมวด บริการเป็นสําคัญ สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ฟื้นตัวต่อเนื่อง
มองเป็นปัจจัยสนับสนุนต่อกลุ่มหุ้นที่เกี่ยวข้องอย่าง ร้านอาหาร โรงแรม และค้าปลีก เป็นต้น ทั้งนี้มีหุ้นหลายตัวในกลุ่มนี้ที่ราคาอยู่ในช่วงพักตัว แต่ ยังคงมี Upside จากเป้าหมายของ Consensus ในระดับ 10% ขึ้นไป และ มี Valuation อยู่ต่ํากว่าค่าเฉลี่ย 5 ปี อย่างเช่น AU, M, ZEN, SHR, VRANDA, COM7, CPALL (BK:CPALL), CRC, GLOBAL, HMPRO มองเป็น ตัวเลือกในการลงทุนที่น่าสนใจ • Strategy: กําหนดแนวรับเดือนนี้ที่ระดับ 1630 จุด ส่วนแนวต้านสําหรับ การ Take profit ให้ไว้ 2 แนวได้แก่ 1700 และ 1730 จุด หากดัชนีไปถึง ระดับ 1700 จุด ให้ใช้บริเวณดังกล่าวในการลดน้าหนักการลงทุนครึ่งหนึ่ง และถือลุ้นในส่วนที่เหลือไปขายท่าหาไรที่บริเวณ 1730 จุด Picks: มองกลุ่มหุ้นที่น่าสนใจประจําเดือนนี้ ได้แก่
1) DTAC โดยแนะนําาซื้อบนธีมการควบรวมกับ TRUE และถือรอ Convert เป็นหุ้นใหม่ ซึ่งหากอ้างอิงจากสัดส่วนการแลกหุ้นและราคาหุ้น ณ ปัจจุบัน DTAC จะดูมีความน่าสนใจมากกว่า TRUE คาดการณ์ว่า ภายหลังจากการควบรวมเสร็จสิ้น จะทําให้บริษัทใหม่มี Synergy เกิดขึ้น ทั้งฐานลูกค้าที่กว้างขึ้น การลดต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ และความร่วมมือในการใช้เครือข่ายร่วมกัน
2) หุ้นกลุ่ม Property ซึ่งราคายังคงปรับลง YTD สวนทางกับประมาณการ กําไรที่ถูกปรับขึ้น ได้แก่ SPALI, WHA
3) หุ้นที่มักมี Track record ในเดือนกุมภาพันธ์ของทุกๆปีอยู่ในเกณฑ์ดี และ Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ได้แก่ AMATA, GLOBAL, INTUCH, JMT
4) หุ้นในกลุ่มบริการที่ได้ประโยชน์จาก Mobility ที่สูงขึ้นต่อเนื่อง ได้แก่ M, VRANDA
5) หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าที่ราคาปรับลงมารับผลประกอบการไตรมาส 4/65 ที่อ่อนแอไปแล้ว และกําไรมีแนวโน้ม Bottom out ต่อจากนี้ ได้แก่ GPSC
แนวรับ 1,662 แนวต้าน 1,688
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities