รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

แวดล้อมด้วยข่าวดีทางเศรษฐกิจ 

เผยแพร่ 01/02/2566 10:14
อัพเดท 09/07/2566 17:32

ตลาดหุ้นเช้านี้ถูกปกคลุมด้วยสัญญาณบวกทางเศรษฐกิจ เริ่มจากการที่ IMF ปรับ เพิ่มประมาณการ World GDP Growth ปี 2566 จาก 2.7% เป็น 2.9% โดยปรับ เพิ่มประมาณการทั้ง สหรัฐ ยุโรป และ จีน แต่ปรับลด UK ลง ส่วนบ้านเรา คง ประมาณการที่ 3.7%YoY สำหรับจีน มีรายงานตัวเลข PMI เดือน ม.ค.66 พบว่า ดีดตัวขึ้นมาสูงกว่า 50 จุด ทั้งภาคการผลิต และภาคบริการ สำหรับบ้านเราตัวเลข ดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ธ.ค. 65 กลับมาเป็นบวกถึง 1,102 ล้าน USD โดยกลับมา เป็นบวกทั้งดุลการค้า และดุลบริการ ภาพเศรษฐกิจดังกล่าวส่งสัญญาณที่ดีขึ้นมา ต่อเนื่อง ขณะที่การปรับขึ้นดอกเบี้ยก็มีแรงกดดันที่น้อยลง องค์ประกอบดังกล่าว น่าจะเป็นภาพบวกต่อตลาดหุ้น แต่อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าตลาดหุ้นในช่วงเวลานี้ ยังมีแรงกดดันจากผลประกอบการงวด 4Q65 ซึ่งดูอ่อนแรงกว่าที่คาด

SET Index มีโอกาสปรับตัวสูงขึ้น โดยมีการฟื้นตัวเศรษฐกิจเป็นแรงหนุน แต่ก็มี แรงกดดันจากผลประกอบการ 4Q65 และ ความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ คาดอยู่ใน กรอบ 1660 – 1680 จุด หุ้น Top Pick เลือก MAJOR, CPN และ STEC

ความกังวลเรื่อง RECESSION ผ่อนคลายระดับหนึ่ง แต่ความเสี่ยงยังไม่หมดไป

เศรษฐกิจโลกมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น หลังธนาคารกลางหลายประเทศทั่วโลกเริ่มดำเนิน นโยบายการเงินที่เข้มงวดน้อยลง บวกกับอัตราเงินเฟ้อที่ไม่ได้ทำจุดสูงสุดใหม่ รวมถึงบาง ประเทศมีปัจจัยบวกเฉพาะตัว และจีนมียุติมาตรการ Zero-Covid กลับมาเปิดประเทศ หนุนให้ IMF มีมุมมองเชิงบวกต่อเศรษฐกิจโลกมากกว่าเมื่อเดือนต.ค. และได้ปรับประมาณ การ GDP อีกครั้ง (ข้อมูล ณ วันที่ 31 ม.ค. 66) โดยในปี 2566 คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะ ขยายตัว +2.9%YoY (เดิมคาด +2.7%YoY) สำหรับ GDP สหรัฐปรับเพิ่มขึ้น +1.4%YoY (เดิมคาด +1.0%YoY) ฝั่งยุโรปปรับเพิ่มขึ้น +0.7%YoY (เดิมคาด +0.5%YoY) ส่วนจีน เติบโตถึง +5.2%YoY (เดิมคาด +4.4%YoY) ขณะที่ไทยยังคาดการณ์เท่าเดิมที่ระดับ +3.7%

อย่างไรก็ตามแม้ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยจะเริ่มผ่อนคลายลงไปบ้าง แต่ความเสี่ยง ดังกล่าวยังไม่ได้หมดไป จึงยังคงต้องติดตามปัจจัยที่อาจถือเป็น Downside อย่างใกล้ชิด ทั้งอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่สูงขึ้นมีผลต่อการเพิ่มต้นทุนทางการเงินให้กับประชาชนและ ผู้ประกอบการ รวมถึงความเสี่ยงเชิงภูมิรัฐศาสตร์ที่มีแนวโน้มทวีความรุนแรงมากขึ้นใน กรณีสงครามรัสเซีย-ยูเครน และความตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลี ขณะที่ล่าสุดยังความ กังวลเข้ามาเพิ่มเติมในเรื่อง Tech War ระหว่าง 2 ประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่าง สหรัฐ-จีน หลังปธน.โจ ไบเดน เตรียมสั่งห้าม Suppliers ทั้งหมดของสหรัฐอเมริกาขาย สินค้าให้กับ Huawei บริษัทเทคโนโลยีโทรคมนาคมยักษ์ใหญ่ของจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และ Supply chain อาจหยุดชะงัก โดยประเด็นเหล่านี้ล้วน กดดันการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะถัดไปได้เช่นกัน

สรุป ความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอยผ่อนคลายลงไปบ้าง หลังธนาคารกลางหลาย ประเทศทั่วโลกเริ่มชะลอการขึ้นดอกเบี้ย บวกกับเงินเฟ้อไม่ทำจุดสูงสุดใหม่ และจีนเปิด ประเทศยกเลิกมาตรการ Zero-Covid หนุนให้เศรษฐกิจโลกมีโอกาสฟื้นตัวมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีความเสี่ยงที่อาจทำให้มุมมองภาพรวมเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปใน

อนาคต ซึ่งต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ ผลกรทบจากดอกเบี้ยที่มีแน้วโน้มค้างอยู่ใน ระดับสูงเป็นเวลานาน, ความขัดแย้งระหว่างประเทศ ,Tech War ระหว่างจีน-สหรัฐ ฯลฯ

หาหุ้นเด่น CHINA PLAY ในยามเศรษฐกิจจีนเริ่มดีขึ้น

จีนประกาศยกเลิกมาตรการ Zero-Covid หนุนให้ภาคธุรกิจของจีนกลับมาขยายตัวได้ดี ยิ่งขึ้นในเดือน ม.ค. หลังการจับจ่ายใช้สอยคึกคัก (เฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลตรุษจีน) สะท้อนจากดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการที่อยู่เหนือ ระดับ 50 จุด

• ดัชนี PMI ภาคการผลิต (Manufacturing PMI) ของจีนเดือน ม.ค. 66 อยู่ที่ ระดับ 50.1 จุด ปรับตัวขึ้นจากเดือน ธ.ค. ที่ระดับ 47.0 จุด และยังสูงกว่าตลาด คาดที่ระดับ 49.8 และเป็นการกลับมายืนเหนือ 50 จุด ครั้งแรกในรอบ 4 เดือน

• ดัชนี PMI ภาคการบริการ (Non-Manufacturing PMI) ของจีนเดือน ม.ค. 66 อยู่ที่ระดับ 54.4 จุด ปรับตัวขึ้นจากเดือน ธ.ค. ที่ระดับ 41.6 จุด และยังสูง กว่าตลาดคาดที่ระดับ 52.0

ซึ่งปัจจัยบวกเหล่านี้ล้วนเป็นแรงส่งสำคัญต่อการขับเคลื่อนกิจกรรมทางเศรษฐกิจให้เข้าสู่ ภาวะปกติในระยะถัดไป คาดจะช่วยผลักดันเศรษฐกิจจีนปี 2565 ที่เติบโตเฉลี่ยเพียง 3% กลับขึ้นมาอยู่ระดับค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี ที่ระดับ 5.35% ได้

ประเด็นดังกล่าว ถือเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจโลกด้วย เนื่องจากปี 2021 จีนมี GDP อยู่ที่ระดับ 17.73 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็น 18% ของ GDP โลก รองเพียงแค่สหรัฐเพียง เท่านั้น (23.32 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งคิดเป็น 24.16%) รวมถึงประเทศไทย เนื่องจาก จีนเป็นคู่ค้าอันดับ 1 ของไทย ซึ่งจีนมีสัดส่วนมูลค่าการค้ากับไทยราว 17% (มูลค่า 3.686 ล้านล้านบาท) อาจทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้เร็วกว่าที่คาด

ดังนั้น ฝ่ายวิจัยได้คัดเลือกหุ้นเด่นในแต่ละอุตสาหกรรมที่ได้รับอานิสงส์จากเศรษฐกิจจีนที่ กำลังจะเข้าสู่ภาวะฟื้นตัว รวมถึงการเปิดประเทศ

สรุปกระแสจีนเปิดประเทศถือเป็นอีกแรงส่งหนึ่งให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวเด่นด้วยเช่นกัน ทั้งจากสัดส่วนนักท่องเที่ยวจีนสูงสุดเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ 28% รวมถึงเป็น ประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ที่สุดมีสัดส่วนเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆสูงถึง 12% ถือเป็นแรงหนุน ต่อ SET Index ในระยะถัดไป โดย Top pick เลือกหุ้นเด่นแต่ละอุตสาหกรรม AOT (BK:AOT), NER, KCE, SCGP, CBG และ MTC

OUTLOOK ผลประกอบการ 4Q65ใครรอด – ใครร่วง

สัปดาห์นี้ ฝ่ายวิจัยฯ จะมานำเสนอ OUTLOOK ผลประกอบการ 4Q65 รายอุตสาหกรรม โดยแบ่งเนื้อหาของแต่ละอุตสาหกรรม ตามการจัดตารางรายวัน ดังนี้

อังคาร 31 ม.ค.66 กลุ่ม CONS, CONMAT, MEDIA

พุธ 1 ก.พ.66 กลุ่ม AGRI, FOOD, ETRON, FIN, INSUR, PROP

พฤหัสบดี2 ก.พ.66 กลุ่ม ENERG, PETRO, โรงไฟฟ้า

ศุกร์3 ก.พ.66 กลุ่ม ICT, COMM, AUTO, TOURISM

โดยวันนี้เป็นคิวของกลุ่ม AGRI, FOOD, ETRON, FIN, INSUR, PROP โดยมีรายละเอียด

ทางพื้นฐาน ดังนี้

กลุ่มเกษตร-อาหาร : คาดกำไรปกติงวด 4Q65จะลดลง QoQ (แต่ฟื้นตัวชัดเจน YoY) จาก แนวโน้มราคาหมูและไก่เฉลี่ยงวด 4Q65 ปรับลดลง QoQ (แต่เพิ่มขึ้น YoY) และเป็นช่วง low season ของการส่งออกไก่และการเลี้ยงกุ้ง แนะนำซื้อ NER (FV@B9) จากแนวโน้ม กำไรสุทธิ 4Q65 จะเติบโต QoQ จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราเพิ่มขึ้น และ Div yields กว่า 6% ต่อปี

กลุ่มชิ้นส่วนฯ : คาดกำไรสุทธิงวด 4Q65 จะอ่อนตัวลง QoQ (แต่เพิ่มขึ้น YoY) เนื่องจาก เป็นช่วง low season ของธุรกิจ แนะนำซื้อลงทุนระยะกลางถึงยาว KCE (FV@B60) และ SMT(FV@B6.60) จากแนวโน้มกำไรสุทธิปี 2566 จะเติบโตต่อเนื่อง

กลุ่มเช่าซื้อ: คาดกำไรสุทธิงวด 4Q65จะปรับลดลง QoQ (และทรงตัว YoY) จากแนวโน้ม Credit cost สูงขึ้น ผลกระทบจากภาวะเงินเฟ้อ กดดันให้แนวโน้ม NPL/สินเชื่อ ปรับสูงขึ้น ซึ่งมีน้ำหนักมากกว่าแนวโน้มสินเชื่อที่จะเติบโตต่อเนื่องไปได้ทั้งหมด แนะนำซื้อ BAM (FV@B21) จากแนวโน้มกำไรสุทธิงวด 4Q65 จะเติบโตทั้ง QoQ และ YoY เพราะเป็นช่วง high season ของการขาย NPLs และ NPA

กลุ่มประกัน : คาดกำไรสุทธิงวด 4Q65 ของกลุ่มประกัน จะเติบโต QoQ และ YoY จาก แนวโน้มเบี้ยประกันภัยรับเติบโต นอกจากนี้ ยังได้ผลบวกจากทิศทาง Bond yield ที่ปรับ สูงขึ้น ส่งผลบวกต่อธุรกิจลงทุน แนะนำซื้อ BLA (FV@B45) และ TLI (FV@B19)

กลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัย: ทิศทางกำไรปกติของกลุ่มฯ 4Q65 คาดทำจุดสูงสุดของรอบปี โดย เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ตามยอดโอนฯ ที่มีปัจจัยหนุนจาก Backlog ที่รอส่งมอบของ กลุ่มแนวราบ, การเปิดโครงการใหม่จำนวนมากใน 4Q65 โดยเฉพาะสินค้าแนวราบที่มีรอบ ธุรกิจสั้น ทำให้บางส่วนสามารถขายและโอนฯ ทันในไตรมาส 4Q65 ตลอดจนการส่งมอบ ต่อเนื่องของคอนโดฯ ใหม่ที่สร้างเสร็จตั้งแต่ 3Q65 และเสร็จใหม่เพิ่ม 4Q65 นอกจากนี้ การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายส่งท้ายของปี, โค้งสุดท้ายของมาตรการลดค่าธรรมเนียม โอนฯ และจดจำนองเหลืออย่างละ 0.01% สำหรับมูลค่าที่อยู่อาศัยไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงการผ่อนคลายมาตรการ LTV ของธปท. ที่สิ้นสุดลงปี 2565 ล้วนเป็นแรงขับเคลื่อน ต่อการดำเนินงาน สำหรับบริษัทที่คาดมีกำไรปกติเพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ได้แก่ SC, SIRI, ORI, BRI, PSH, ASW, NOBLE และ SENA

บทความนี้จัดทำและเผยแพร่ครั้งแรกบนเว็บไซต์ ASIA Plus Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย