Tourism still in play / Our take on MPC
ตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบจํากัด แต่ด้วยระดับเงิน สัญญาซื้อขายล่วงหน้าดัชนีดอลล่าห์สหรัฐฯที่ยังคงอ่อนค่าต่อเนื่อง น่าจะเป็นตัวช่วยประคับประคองดัชนี SET และ Fund flow ได้ต่อไป ส่วนในรายของตัวหุ้นนั้น คาดว่ากลุ่มท่องเที่ยว (MINT, CENTEL, ERW, VRANDA, AAV, BA) ยังคงมีโมเมนตัมที่ดี ในระยะสั้น จากการออกมาตรการเราเที่ยวด้วยกันและการปรับเพิ่ม (รายละเอียด MPC & Tourism: กนง.มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 0.25% ระดับ 1.50% ตามคาด โดยกล่าวว่าปัจจัยใหม่ที่เข้ามามีผลกระทบต่อ ประมาณการล่าสุด ได้แก่ นโยบายการเปิดประเทศของจีนที่เร็วกว่าคาด
สมมติฐานตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติของธปท.ล่าสุดรวมถึงการผ่อนคลายมาตรการทางด้านการเงินและมาตรการทางด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์ของจีนส่งผลให้ไทยได้รับอานิสงส์ทางอ้อมจากจํานวนนักท่องเที่ยวที่น่าจะเดินทางเข้ามามากขึ้นกว่าคาดการณ์เดิม ล่าสุดธปท. ตัดสินใจปรับเพิ่มสมมติฐานนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2566 และ 2567 เพิ่มขึ้นเป็น 25.5 และ 34.0 ล้านคน สูงขึ้นจากเดิมที่ 22.0 และ 31.5 ล้านคนตามล่าดับ
• Inflation outlook: ในส่วนทางด้านมุมมองเงินเฟ้อนั้น ธปท.ประเมินว่า เงินเฟ้อทั่วไปของไทยที่ ณ ขณะนี้อยู่ที่ 5.9% YoY จะลงมาสู่กรอบ เป้าหมายที่กรอบ 1-3% ไ ในช่วงปลายปีนี้ (รูปที่ 2) ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อ พื้นฐานมีความเสี่ยงที่จะอยู่ในระดับสูงนานกว่าคาด จากการส่งผ่านต้นทุน ที่อาจเพิ่มขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเผชิญภาวะต้นทุนสูงต่อเนื่อง อีกทั้ง การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว
จะส่งผลให้แรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปสงค์ เพิ่มขึ้น (Demand-pull) จึงต้องติดตามความเสี่ยงเงินเฟ้ออย่างใกล้ชิด Our take: ทั้งนี้ สําหรับการประชุมนโยบายการเงินครั้งถัดไปในวันที่ 29 มีนาคม สัญญาณจากธปท.ล่าสุดดูเหมือนว่าจะยังคงเอนเอียงไปใน ทิศทาง Hawkish ไม่ว่าจะเป็นมุมมองต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ หรือมุมมองต่อ Core inflation ที่น่าจะยังยืนอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ดี ตลาดยังไม่ได้ให้นําหนักต่อการขึ้นดอกเบี้ยครั้งถัดไปมากนัก สะท้อนผ่าน Swap rate ตอนนี้ที่ Price in การขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% อยู่ที่ความน่าจะ เป็นราว 20% เท่านั้น ในส่วนมุมมองของเรา ยังคงมองว่าระดับดอกเบี้ย นโยบายที่ 1.50% นั้นถือเป็นระดับ Natural rate ที่เหมาะสมต่อการฟื้นด้ว ของเศรษฐกิจไทยระยะยาว จึงขอยืนสมมติฐานดอกเบี้ย Terminal rate ปีนี้ของธปท.ไว้ที่เดิม 1.50% ก่อน อย่างไรก็ตาม หากเข้าใกล้ช่วงปลาย เดือนมีนาคมแล้วมีแนวโน้มว่า Terminal rate นี้จะไปต่อ เราจําเป็นต้องมีการปรับลดสมมติฐานตัวคูณ PE ของ SET Index ลงจากเดิมผ่านปรากฏการณ์ PE Contraction ซึ่งจะเป็นปัจจัย กดดันต่อดัชนี SET ในช่วงไตรมาสที่ 2 ได้
บทวิเคราะห์วันนี้
แนวรับ 1,674 แนวต้าน 1,691
• SCC (ขาย ราคาเป้าหมาย 305 บาท) กําไร 4Q22 ท่า New Low ต่ํากว่าที่คาด ผลจาก ขาดทุนด้อยค่า
• OR (ชื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท) คาดกําไรอ่อนตัวเหลือ 255 ล้านบาท ต้นทุน นําเข้าน้ามันสูงขึ้น และค่าจ่ายปลายปี
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities