Highlight ปัจจัยพื้นฐาน
ราคาทองคําในวันนี้ (19 ม.ค.) แกว่งตัวเหนือระดับ 1,900 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (16.30 น.) โดยมีแนวโน้มปิดตัวบวกต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า ทั้งนี้ การเปิดเผยตัวเลขทาง เศรษฐกิจเดือนธ.ค. ของสหรัฐ ในคืนวานนี้ (18 ม.ค.) อย่าง ยอดค้าปลีกที่หดตัวลง 1.1% โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจะปรับตัวลงเพียง 0.8% จากการลดลง 1.0% ในเดือนพ.ย. ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมโดยรวมลดลง 0.7% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากกว่าเดือนพ.ย. นอกจากนั้น ตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่สําคัญอย่าง ดัชนีราคาผู้ผลิตทั่วไป (PPI) และ ดัชนีราคาผู้ผลิตพื้นฐาน (Core PPI) ได้ออกมาชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน โดยตัวเลข PPI เพิ่มขึ้น 6.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ต่ํากว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ระดับ 6.8% หลังจาก เพิ่มขึ้น 7.3% ในเดือนพ.ย. ขณะที่ตัวเลข Core PPI เพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี โดยชะลอตัวลงจากระดับ 4.9% ในเดือนพ.ย. จากตัวเลขที่ออกมาทั้งหมดบ่งชี้ถึง ภาวะชะลอตัวลงของเศรษฐกิจสหรัฐ ส่งเสริมให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ลดความเข้มงวดในการดําเนินนโยบายการเงินลง สอดคล้องกับข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME Group ที่ระบุว่า นักลงทุนให้น้ําหนัก 95.3% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.50-4.75% ในการประชุมเดือนก.พ. หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ําหนัก 76.7% ซึ่งแนวโน้มดังกล่าวได้กดดันให้ค่าเงินดอลลาร์และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐปรับตัวลง ส่งผลให้เกิดแรงหนุนต่อราคาทองคํา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ เฟดยังคงสนับสนุนให้เฟดเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป เพื่อรักษาเป้าหมายการดําเนินงานที่จะนําตัวเลขเงินเฟ้อกลับเข้าสู่เป้าหมายที่ 2% ซึ่งนักลงทุนจึงต้องติดตาม ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐต่อไป ขณะที่ในวันนี้ ติดตามถ้อยแถลงของคริสเตียน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะสะท้อนมุมมองต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และอาจรวมไปถึงแนวโน้มการดําเนินนโยบายการเงินที่จะเกิดขึ้นในปี 2023 นี้
คําแนะนํา
• เปิดสถานะซื้อ หากราคาไม่หลุดแนวรับ 1,894-1,891 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สถานะซื้อตัดขาดทุนหากราคาหลุดระดับ 1,873 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• สําหรับการขายทํากําไรอาจพิจารณาบริเวณ 1,922-1,928 ดอลลาร์ต่อออนซ์
• หากรับความเสี่ยงได้สูง อาจพิจารณาปิดสถานะซื้อที่แนวต้านโซน 1,947 ดอลลาร์ต่อออนซ์
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th