เรามีมุมมองเชิงบวกมากยิ่งขึ้นต่อภาพตลาดทุนในระยะสั้น

A clearer path to 1700

SET: เรามีมุมมองเชิงบวกมากยิ่งขึ้นต่อภาพตลาดทุนในระยะสั้นหลังตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐฯเมื่อคืนนี้ ไม่ได้ออกมา Surprise ตลาด และเริ่มเห็นการออกมาส่งสัญญาณของกรรมการ Fed ต่อการชะลอการขึ้น ดอกเบี้ยลงเหลือ 0.25% ชัดเจนมากขึ้น ทําให้เราเชื่อว่าในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ก่อนที่จะถึงรอบการประชุม FOMC จริง นักลงทุนส่วนใหญ่จะอยู่ในโหมดของ Risk on ซึ่งจะเป็นแรง

ขับเคลื่อนทั้งในส่วนของตลาดหุ้นและตลาดตราสารหนี้ต่อไปได้ คาดหวังดัชนี SET ไต่ขึ้นแตะระดับ 1700 จุดในช่วงเวลาดังกล่าว Strategy: ด้วยเหตุนี้ ในเชิงกลยุทธ์ เราแนะนําาถือครองหุ้นเพื่อ Let profit run ได้ต่อไป โดยหุ่นที่เน้นถือครองในช่วงไตรมาส 1 ยังคง ได้แก่ GLOBAL , PLANB , SC , STEC , กลุ่ม PF&REIT , GPSC , JMT , ADVANC , SCC , TISCO ซึ่งล่าสุดให้ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ +2.1% แล้ว • CPI: สหรัฐฯรายงานตัวเลขเงินเฟ้อประจําเดือนธ.ค.ไม่มีอะไร Surprise โดยตัวเลขจริงทั้งฝั่ง Headline และ Core CPI ต่างออกมาขยายตัวเท่ากับ ที่ตลาดคาดการณ์ไว้ที่ 6.5% และ 5.7% ตามลําาดับ ซึ่งจากที่เรากล่าวไป เมื่อวานนี้ว่า หากตัวเลขจริงออกมาใกล้เคียงคาด จะทําให้นักลงทุนเท นํ้าหนักไปยังคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ย Fed ครั้งถัดไปที่ระดับ 0.25% • Reaction: ซึ่งล่าสุดก็เป็นเช่นนั้นจริง เนื่องจากหากตรวจสอบ Fed Funds futures ล่าสุดจะพบว่านักลงทุนให้ความน่าจะเป็นของเหตุการณ์ดังกล่าวที่ ระดับ 93% เข้าไปแล้ว สูงขึ้นจากวันก่อนที่อยู่เพียง 77% เท่านั้น (รูปที่ 1) เป็นผลท่าให้ Bond yield และเงินดอลลาร์สหรัฐฯร่วงลงต่ออีกครั้ง โดย ล่าสุดดัชนี Dollar Index ปรับตัวลงท่าจุดต่าสุดใหม่ของรอบเป็นที่ เรียบร้อย เป็นบวกต่อ Risk appetite และ Fund flow มากขึ้น

Harker: เมื่อมาประกอบกับอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสั่งที่เราแนะน่าให้ติดตามอย่างใกล้ชิดด้วย นั่นก็คือการออกมาแสดงความ คิดเห็นของนาย Patrick Harker ประธาน Fed สาขา Philadelphia ซึ่งเป็น กรรมการที่มีสิทธิ์โหวตในปีนี้ ยิ่งทําให้คาดการณ์ของนักลงทุนในตลาด ได้รับการตอบรับมากขึ้นไปอีก เนี่องจากนาย Harker ได้ส่งสัญญาณ Forward Guidance ในเชิง Dovish อย่างชัดเจน โดยกล่าวว่า “แม้ Fed ยังคงต้องเดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อกดระดับเงินเฟ้อให้ลดลง แต่การ ปรับขึ้นนั้น Fed สามารถที่จะชะลอความเร็วลงได้เช่นกัน โดยส่วนตัวแล้ว มองว่าการขึ้นดอกเบี้ยที่ครั้งละ 0.25% ถือเป็นระดับที่เหมาะสมต่อจากนี้” SETFIN: คาดหุ้นบวกแรงวันนี้ได้แก่กลุ่ม Rate-sensitive อย่าง Finance ซึ่งหากนับตั้งแต่ต้นปี 2022 เป็นต้นมา จะพบว่า Correlation ของ Sector นี้กับ Bond yield สหรัฐฯมีความสัมพันธ์ในทิศทางตรงข้ามใน ระดับสูงกว่า 0.88x ทั้งนี้ หากตรวจสอบหุ้นในกลุ่มนี้เป็นรายตัว จะพบว่า หุ้นที่มีค่า Correlation กับระดับ Bond yield สหรัฐฯในทิศทางตรงกันข้าม มากที่สุดเรียงตามล่าดับจะได้แก่ MTC, SAWAD, HENG, BAM, S11, MICRO, SAK, ASK, CHAYO, TIDLOR

แนวรับ 1,675 แนวต้าน 1,696

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Trinity Securities