รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

แนวโน้มตลาดน้ำมันปี 2023: การคาดการณ์น้อยลง คำแนะนำมากขึ้น

เผยแพร่ 23/12/2565 10:41
อัพเดท 09/07/2566 17:31
  • สถาบันขนาดใหญ่ปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 2023

  • การยุตินโยบายปลอดโควิดของจีนเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่อาจส่งผลให้ราคาสูงขึ้น

  • ต่อไปนี้คือปัจจัยบางประการที่น่าจะเกี่ยวข้องกับตลาดน้ำมันในปี 2023

ถึงเวลาสำหรับแนวโน้มตลาดน้ำมันในปี 2023 โดยคำนึงถึงกฎประจำตัวของผู้เขียน นั่นคือคาดการณ์น้อยลงและแนะนำมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องจับตามอง

เราได้เห็นสถาบันใหญ่ ๆ ปรับลดการคาดการณ์ราคาน้ำมันในปี 2023 แล้ว ตัวอย่างเช่น Goldman Sachs เพิ่งเปลี่ยนการคาดการณ์ราคาของ น้ำมันดิบเบรนท์ฟิวเจอร์ส ในไตรมาสที่ 1 และไตรมาสที่ 2 ของปี 2023 เป็น 90 ดอลลาร์และ 95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก 115 ดอลลาร์และ 105 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตามลำดับ

ในเดือนพฤศจิกายน Goldman กล่าวว่าราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเฉลี่ยอยู่ที่ 110 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในปี 2023 แต่ตอนนี้กลับคิดว่าราคาจะเฉลี่ยแล้วอยู่ที่ประมาณ 98 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล โดยเป็นราคาที่ Goldman ตั้งไว้ที่จุดสูงสุดของการคาดการณ์ของราคาเฉลี่ย โดยปัจจุบัน EIA คาดการณ์ที่ 92 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และ JP Morgan คาดการณ์อยู่ที่ 90 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล (ลดลงจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 98 ดอลลาร์)

เทรดเดอร์ควรจำไว้ว่าการคาดการณ์ราคาทั้งหมดจากธนาคารและองค์กรระหว่างประเทศจะได้รับการแก้ไขตามความคืบหน้าของปี ด้วยสาเหตุนี้ ด้านล่างคือปัญหาบางส่วนที่อาจเป็นตัวขับเคลื่อนที่สำคัญที่สุดของราคาน้ำมันในปี 2023

ปัจจัยที่สามารถผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้นในปี 2023

  • การสิ้นสุดของนโยบายปลอดโควิด (Zero-COVID) ของจีน

จีนกำลังจะยุตินโยบายโควิดที่เข้มงวดแล้ว แต่ดูเหมือนว่ายังมีความลังเลใจอย่างมากที่จะเปิดเศรษฐกิจตามปกติ ความต้องการใช้น้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี และอาจผลักดันให้ราคาน้ำมันในตลาดโลกสูงขึ้นในช่วงนั้น

  • สหรัฐฯ เติมน้ำมันดิบเข้าคลัง SPR ของตน

หลังจากได้ขายน้ำมันดิบจำนวนมากเป็นประวัติการณ์จากแหล่งสำรองปิโตรเลียมทางยุทธศาสตร์ของสหรัฐฯ ทำเนียบขาวก็กำลังมองหาที่จะเติมน้ำมันเข้าไปใหม่ รัฐบาลต้องการต่อรองราคาที่ราคา 65-70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล นี่อาจเป็นข้อตกลงที่ดีสำหรับบริษัทน้ำมันหลายแห่งที่กลัวว่าราคาจะถูกลงในปี 2023 เมื่อพิจารณาจากปริมาณน้ำมันที่รัฐบาลต้องการซื้อ จึงเป็นไปได้ว่าความต้องการน้ำมันเพิ่มเติม จะสามารถช่วยยกระดับราคาโดยรวมได้

  • การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ที่หยุดนิ่งหรือลดลง

EIA ยังคงคาดการณ์ว่าการผลิตน้ำมันจะสูงถึง 12.34 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2023 แต่บริษัทน้ำมันหลายแห่งระบุว่าพวกเขาไม่น่าจะผลิตน้ำมันได้มากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้

ด้วยข้อจำกัดด้านห่วงโซ่อุปทาน ความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบ ตลาดแรงงานที่ท้าทาย และแรงกดดันจากผู้ถือหุ้นนั้นแทนที่ตลาดจะเห็นการลงทุนในการเพิ่มผลผลิตใหม่ แต่กลับเป็นไปได้มากกว่าที่เราจะเห็นการผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ ชะงักงันหรือลดลงในเวลาเดียวกัน แต่ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกเพิ่มขึ้น สิ่งนี้จะผลักดันราคาน้ำมันให้สูงขึ้น

  • การคว่ำบาตรผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของรัสเซีย

มาตรการคว่ำบาตรเหล่านี้จะมีผลบังคับใช้ในเดือนกุมภาพันธ์และน่าจะทำให้ราคาน้ำมันเบนซินในยุโรปเพิ่มขึ้นในระยะสั้นเป็นอย่างน้อย อย่างไรก็ตาม เนื่องจากน้ำมันดิบของรัสเซียถูกส่งไปยังจีน ตุรกี และอินโดนีเซียเพื่อการกลั่นมากขึ้น ราคาของผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมควรถูกลงเนื่องจากไม่มีการคว่ำบาตรจากสหรัฐอเมริกาหรือยุโรปสำหรับผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่กลั่นจาก น้ำมันดิบ รัสเซียนอกรัสเซีย

  • OPEC+ ลดหรือคงโควตาการผลิต

OPEC+ อาจพยายามขึ้นราคาน้ำมันโดยการลดโควตาการผลิตในปี 2023 หรือรักษาโควตาการผลิตไว้เนื่องจากความต้องการน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น

  • อัตราเงินเฟ้อเพิ่มเติม / เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ที่อ่อนค่าลง

น้ำมันมีราคาเป็นดอลลาร์ และถ้า ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินต่างประเทศ ผู้ผลิตน้ำมันจำเป็นต้องขายน้ำมันของตนในราคาที่สูงขึ้นเพื่อสร้างรายได้เท่าเดิมในสกุลเงินของตน

  • ภัยธรรมชาติหรือสงครามที่ไม่คาดฝัน

ตัวอย่างเช่น ฤดูหนาวที่หนาวเย็นเป็นพิเศษ ภัยพิบัตินิวเคลียร์ หรือพายุเฮอริเคน ปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศอาจรวมถึงการรุกล้ำของจีนในไต้หวันหรือสงครามในตะวันออกกลาง

ปัจจัยที่สามารถกดราคาน้ำมันให้ต่ำลงในปี 2023

  • ภาวะถดถอยทั่วโลก

นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคิดว่าเรากำลังเข้าสู่ภาวะถดถอยทั่วโลก และมีข้อบ่งชี้ว่ายุโรปและสหรัฐอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปี 2023 โดยทั่วไปแล้วราคาน้ำมันจะลดลงในช่วงที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย อย่างไรก็ตาม อุปสงค์น้ำมันเบนซินและอุปสงค์ผลิตภัณฑ์กลั่นยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งขัดแย้งกับสัญญาณอื่น ๆ ของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่กำลังจะเกิดขึ้น

  • OPEC+ เพิ่มกำลังการผลิต

ในกรณีที่เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย มีความเป็นไปได้ที่ OPEC+ อาจเพิ่มการผลิตเพื่อลดภาระทางเศรษฐกิจของประเทศที่ประสบปัญหาทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม ณ จุดนี้ มีเพียงซาอุดีอาระเบีย อิรัก และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เท่านั้นที่มีขีดความสามารถในการเพิ่มผลผลิต ดังนั้น การเพิ่มการผลิตใด ๆ จึงค่อนข้างเป็นไปได้น้อย

  • ความต้องการใช้น้ำมันของจีนต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้

การเปิดพื้นที่เศรษฐกิจอีกครั้งของจีนอาจไม่เป็นไปตามแผนที่วางไว้ และในกรณีนี้ ความต้องการใช้น้ำมันของจีนอาจเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปช้ากว่าที่คาดไว้ ซึ่งสร้างแรงกดดันที่น้อยลงต่ออุปทานน้ำมันทั่วโลก สิ่งนี้สามารถกดราคาลงหรืออย่างน้อยก็ป้องกันไม่ให้เพิ่มขึ้น

  • รัสเซียและสหภาพยุโรปยุติข้อขัดแย้งและดำเนินการค้าพลังงานต่อ

เป็นไปได้ว่าความท้าทายในการดำรงชีวิตโดยปราศจากน้ำมันและก๊าซของรัสเซียจะยากเกินไปสำหรับผู้กำหนดนโยบายของสหภาพยุโรป พวกเขาอาจถูกบังคับให้แก้ไขความขัดแย้งกับรัสเซียในปี 2023 และกลับมาซื้อ ก๊าซธรรมชาติ ราคาถูกของรัสเซียและน้ำมันที่เข้าถึงได้ง่าย สิ่งนี้จะทำให้ราคาน้ำมันลดลงในปี 2023

  • ข้อตกลงนิวเคลียร์สหรัฐฯ/อิหร่าน ยุติการคว่ำบาตรน้ำมัน

การเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านไม่ได้มีความสำคัญสูงสุดสำหรับทำเนียบขาวในเวลานี้ แต่อาจกลายเป็นประเด็นสำคัญของนโยบายต่างประเทศในปี 2023

ภายใต้แรงกดดัน รัฐบาลไบเดนอาจพยายามบรรลุข้อตกลงนิวเคลียร์ฉบับใหม่กับอิหร่านและยุติการคว่ำบาตรต่ออุตสาหกรรมน้ำมัน หากเป็นเช่นนั้น การกลับมาซื้อขายน้ำมันของอิหร่านอย่างโปร่งใสอีกครั้งในตลาดโลกจะทำให้ราคาลดลง

* สุขสันต์วันหยุด *

หมายเหตุ: ผู้เขียนไม่ได้เป็นเจ้าของหลักทรัพย์ใด ๆ ที่กล่าวถึงในบทความนี้

ความคิดเห็นล่าสุด

👍
ขอบคุณคำแนะนำของที่รัก
💖❤️🤟👍🏻🙏
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย