Investing.com - เรื่องราวของ FTX การกระทำที่ผิดกฎหมายและผิดจรรยาบรรณของ Sam Bankman-Fried ดึงดูดความสนใจของสื่อมวลชนในแวดวงการเงินได้มากในขณะนี้ และด้วยเหตุนี้มันได้สะท้อนให้เห็นถึงเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นในชีวิตจริง เกี่ยวกับเรื่องอื้อฉาวแห่งวงการการจัดการเงินทุนระยะยาวอย่าง Enron, Tyco, Lehman Brothers และ Bernie Madoff ทั้งหมดมีเรื่องราวที่เหมือนกัน แม้ว่าจะไม่มีการพูดถึงมากนัก แต่เราก็ได้มาถึงวันครบรอบหนึ่งปีของจุดสูงสุดในคริปโตพอดี
เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว มูลค่าตลาดรวมของ Crypto สูงถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์
ที่มา: TradingView
เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2021 เมื่อ Bitcoin ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 69,000 ดอลลาร์ ตั้งแต่นั้นมาราคาซื้อขายก็ลดระดับต่ำลงและส่งผลต่อผู้ถือครองสินทรัพย์ระยะยาว (Hodlers) เนื่องจากสินทรัพย์ดิจิตอลทั้งหมดตั้งแต่เหรียญหลัก ไปจนถึง altcoins ไปจนถึง stablecoin ได้เข้าสู่ความผันผวนและความไม่แน่นอนสูง ผู้ให้กู้คริปโตหรือบริษัทแลกเปลี่ยนเหรียญดิจิตอลต่างล้มละลาย และนักลงทุนต่างก็สงสัยว่าจะทำอย่างไร และจะเก็บทรัพย์สินของพวกเขาไว้ที่ไหน
ผมมีบทเรียน 5 บทที่เทรดเดอร์สามารถเรียนรู้ได้จากการเคลื่อนไหวของราคาในปีที่ผ่านมาและเรื่องราวขาลงของตลาดคริปโต
1. การปรับขนาดตำแหน่ง
โดยทั่วไปคิดว่ายิ่งสินทรัพย์มีความผันผวนมากเท่าใด คุณควรจัดสรรปันส่วนพอร์ตการลงทุนของคุณน้อยให้ลงเท่านั้น ไม่ว่าจะเป็นคริปโตหรือหุ้น หากความผันผวนโดยนัย (IV) คือ 100% แสดงว่าขนาด 1% นั้นถูกต้อง หาก IV ค่อนข้างต่ำใกล้ 25% ดังนั้นเงินเดิมพันควรจะอยู่ที่ 4% หรือหากว่าคุณอยากจะทำแบบของคุณแต่กฎทั่วไปนี้สามารถช่วยให้คุณนอนหลับในตอนกลางคืนได้และจัดการความเสี่ยงได้ดีขึ้น
2. FOMO เป็นของจริง
ความกลัวตกขบวน (FOMO) นั้นรุนแรงมากในตลาดคริปโตในช่วงปี 2020 และ 2021 เมื่อนักลงทุนกระสันอยากลงทุน คนส่วนใหญ่เพื่อและเซ็งกับการอยู่บ้าน เราก็อดไม่ได้ที่จะสังเกตเห็นคนอื่น ๆ ทำกำไรในหุ้นและคริปโต การสำรวจหนึ่งเปิดเผยว่า 70% ของผู้ถือเหรียญคริปโตที่เริ่มลงทุนในปี 2021 นั้นกลายเป็นผู้ถือสินทรัพย์ไร้ค่า (bagholders) ไปอย่างน่าเสียดาย
3. การซื้อขาย vs การลงทุน
บ่อยแค่ไหนที่คุณซื้อหุ้นและเห็นว่ามูลค่ามันลดลงทันที เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับพวกเราทุกคน ความแตกต่างระหว่างเทรดเดอร์ที่ดีและเทรดเดอร์ที่ตรากตรำคือตัดการขาดทุนในระยะสั้นและไม่ปล่อยให้การซื้อขายระยะสั้นจบลงด้วยการเป็นผู้แพ้ระยะยาวในพอร์ตของตัวเอง การรู้กรอบเวลาของคุณเป็นสิ่งสำคัญ และนั่นก็เป็นเรื่องของทางออกของการซื้อขาย
4. ใช้เลเวอเรจอย่างชาญฉลาด
ให้คุณลองตอบคำถามนี้: หากคุณสามารถซื้อ Amazon (NASDAQ:AMZN) ในราคา IPO ในปี 1997 คุณจะกู้เงินเพื่อเพิ่มผลตอบแทนระยะยาวหรือไม่? สามเท่า? หรือสี่เท่า? หรือมากกว่านั้น? ถ้าทำแบบนั้น คุณจะหมดตัวในช่วง ดอทคอมแคลช ( dot-com crash) เลเวอเรจของสินทรัพย์ที่ผันผวน เช่น bitcoin หรือ ether ต่างก็ล้มระเนระนาดเช่นกัน
5. มีแผนสำหรับเงินสด
ข้อนี้มีประโยชน์กับผมอย่างมาก ผมยอมรับว่าผมมีเงินสดสำรองสูงในปี 2021 เนื่องจากหุ้นและเงินคริปโตที่เพิ่มสูงขึ้น มันรู้สึกแย่มาก ผมเปิดบัญชีสินทรัพย์ทางเลือกสองสามบัญชีเนื่องจากผลตอบแทนของบัญชีออมทรัพย์อยู่ใกล้ 0% สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ แต่ความซับซ้อน ภาระภาษีที่เพิ่มขึ้น และการต้องตรวจสอบบัญชีอื่นเป็นระยะทำให้ดูเหมือนไม่คุ้มค่า นักลงทุนจำนวนมากต่างตรวจสอบยอดคงเหลือในบัญชีและหาที่ลงทุนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากโควิด และรู้สึกว่าต้องทำอะไรบางอย่างกับมัน สุดท้ายไปจบที่การลงทุนกับคริปโต ดังนั้นนี่อาจเป็นการลงทุนที่เกิดจากความเบื่อ มากกว่าการตัดสินใจจัดสรรสินทรัพย์ที่รอบคอบอย่างแท้จริง
บทสรุป
วันครบรอบหนึ่งปีของการทำจุดสูงสุดของคริปโตดันเป็นช่วงเวลาที่โชคร้ายของการระเบิดของ FTX เป็นโอกาสที่ดีที่คุณได้ตรวจสอบแผนการลงทุนและการซื้อขายของคุณ ตั้งกฎเกณฑ์สำหรับตัวคุณเองและคำนึงถึงการตัดสินใจลงทุนอย่างรอบคอบอยู่เสมอ
Disclaimer: Mike Zaccardi ไม่ได้ถือครองสินทรัพย์ใด ๆ ที่เขากล่าวถึงในบทความนี้