จับตาการประกาศตัวเลขดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อตัวที่ 3 ของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีความผันผวนเป็นอย่างมาก!!!
บทวิเคราะห์ว่า...การประกาศตัวเลขดัชนี PCE และดัชนี Core PCE ในคืนนี้ จะส่งผลต่อตลาดอย่างไรบ้าง
ในคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของหลายประเทศออกมาหลายตัวเลยนะครับ
ในเวลา 19:00 จะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อ หรือ ดัชนี CPI ของเยอรมนีประจำเดือนตุลาคม ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นยุโรป ทองคำ รวมไปถึงสกุลเงินยูโร EUR เป็นอย่างมาก
ในกรณีที่ดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ จะทำให้ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง สกุลเงินยูโรอ่อนค่า และราคาทองคำจะมีการปรับตัวลง
และอีก 30 นาทีต่อมา...
ในคืนนี้เวลา 19:30 สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ ดัชนี PCE ประจำเดือนกันยายน และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน หรือ ดัชนี Core PCE ประจำเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อตัวที่ 3 ของสหรัฐ ต่อจาก ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ดัชนี CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ ดัชนี PPI
โดยตัวเลขเงินเฟ้อตัวนี้จะมีการประกาศออกมาทั้งหมด 4 ตัวในเวลาพร้อมๆกัน ดังนี้
1. ดัชนี PCE เมื่อเทียบปีต่อปี
2. ดัชนี PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
แต่เราจะไม่สนใจตัวเลข 2 ตัวดังกล่าวนะครับ เนื่องจากเฟดจะจับตามองดัชนี Core PCE มากกว่า และจะนำมาประกอบการตัดสินใจนโยบายทางการเงินในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนหน้า โดยเฟดมองว่าดัชนี Core PCE นั้นจะบ่งบอกถึงพฤติกรรมในการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากกว่า และมีความยืดหยุ่นมากกว่าดัชนี CPI และ Core CPI นั่นเอง
3. ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบปีต่อปี
ตลาดคาดว่าจะออกมา 5.2% เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 4.9% หรือคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นตามดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานั่นเอง!!!
4. ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ตลาดคาดว่าจะออกมา 0.5% ชะลอตัวลงจากครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 0.6% หรือคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในส่วนนี้จะออกมาชะลอตัวนั่นเอง!!!
และยังมีตัวเลขสำคัญอีก 2 ตัวที่จะประกาศออกมาพร้อมๆกันด้วยนะครับ ซึ่งเราจะต้องจับตากันด้วย นั่นคือ
5. ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 0.3% เท่ากับตัวเลขในครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 0.3% หรือคาดว่าผู้บริโภคจะยังคงมีรายได้สูงอยู่ ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้ออยู่ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้ออาจจะยังลดลงได้ไม่มาก!!!
6. ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน
ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 0.4% เท่ากับตัวเลขในครั้งก่อนที่ออกมาอยู่ที่ 0.4% หรือคาดว่าผู้บริโภคยังคงมีการออกมาใช้จ่ายสูงอยู่ และอาจทำให้ราคาสินค้ายังคงลดลงได้ไม่มาก เป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินเฟ้ออาจจะยังลดลงได้ไม่มากเช่นกัน!!!
เราจะจับตาตัวเลขทั้ง 4 ตัวนี้เป็นหลักนะครับ โดยจะให้น้ำหนักไปที่ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และเมื่อเทียบปีต่อปี
และตัวเลขที่จะออกมาจะมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน ดังนี้ครับ
1. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาแดงทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อลดลงมากกว่าคาดทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลดีมากๆต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC นะครับ
เนื่องจากเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เท่าเดิม และจะยังไม่มีการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณเริ่มชะลอตัวลง
และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD อ่อนค่าลง และกดดัน Bond Yield สหรัฐให้ร่วงลงอีกด้วย
2. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาแดงมากกว่าเขียว หรือไม่มีเขียวเลย ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อออกมาลดลงมากกว่าคาดทั้งหมด หรือ เงินเฟ้อไม่ได้สูงไปกว่าที่คาดไว้เลย ก็จะส่งผลดีต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC เช่นกัน
เนื่องจากเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เท่าเดิม และจะยังไม่มีการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณเริ่มชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน
และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD อ่อนค่าลง และกดดัน Bond Yield สหรัฐให้ร่วงลงอีกด้วย
3. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาเขียวทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลเสียมากๆต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC นะครับ
เนื่องจากจะทำให้เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงออกมาสูงกว่าคาดการณ์และยังออกมาสูงกว่าครั้งก่อนอีกด้วย
และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้น และหนุน Bond Yield สหรัฐให้พุ่งขึ้นอีกด้วย
4. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาเขียวมากกว่าแดง หรือไม่มีแดงเลย ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดทั้งหมด หรือ เงินเฟ้อไม่ได้ลดลงเท่าที่คาดการณ์ไว้เลย ก็จะส่งผลเสียต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC เช่นกัน
เนื่องจากจะทำให้เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงออกมาสูงกว่าคาดการณ์และยังออกมาสูงกว่าครั้งก่อนอีกด้วยเช่นกัน
และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้น และหนุน Bond Yield สหรัฐให้พุ่งขึ้นอีกด้วย
และในเวลา 19:30 จะมีการประกาศตัวเลข GDP ประจำเดือนสิงหาคมของแคนาดาออกมาด้วยเช่นกัน
ในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาสูงกว่า 0.1% จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แคนาดามีการแข็งค่าขึ้น หนุนให้ราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวขึ้น และหนุนให้ราคาทองคำอาจจะยังลงได้ไม่มาก
ในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาต่ำกว่า 0.1% โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาถึงขึ้นติดลบ จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แคนาดามีการร่วงลง กดดันให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงต่อ และกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงได้เช่นกัน
และในเวลา 21:00 จะมีการประกาศตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้า และในระยะ 5 ปีข้างหน้า จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมไปถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอีกด้วย
ในกรณีที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีกว่าคาด ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าออกมาสูงกว่า 5.10% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 5 ปีข้างหน้าออกมาสูงกว่า 2.90%
แบบนี้จะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีการปรับตัวลงอีกครั้งครับ
ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY และ Bond Yield สหรัฐจะมีการปรับตัวขึ้นอีกครั้งเช่นกัน
ในกรณีที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาแย่กว่าคาด ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าออกมาต่ำกว่า 5.10% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 5 ปีข้างหน้าออกมาต่ำกว่า 2.90%
แบบนี้จะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีการปรับตัวขึ้นได้อีกครั้งครับ
ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY และ Bond Yield สหรัฐจะมีการย่อตัวลง
อย่าลืมติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะมีการประกาศออกมาหลายๆตัวพร้อมกันในคืนนี้กันด้วยนะครับ!!!