รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

จับตาการประกาศดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อตัวที่ 3 ของสหรัฐในคืนนี้

เผยแพร่ 28/10/2565 19:29
อัพเดท 09/07/2566 17:32

จับตาการประกาศตัวเลขดัชนี Core PCE ซึ่งเป็นอัตราเงินเฟ้อตัวที่ 3 ของสหรัฐ ซึ่งอาจทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีความผันผวนเป็นอย่างมาก!!!

บทวิเคราะห์ว่า...การประกาศตัวเลขดัชนี PCE และดัชนี Core PCE ในคืนนี้ จะส่งผลต่อตลาดอย่างไรบ้าง

ในคืนนี้จะมีการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญของหลายประเทศออกมาหลายตัวเลยนะครับ

ในเวลา 19:00 จะมีการประกาศอัตราเงินเฟ้อ หรือ ดัชนี CPI ของเยอรมนีประจำเดือนตุลาคม ซึ่งจะส่งผลต่อตลาดหุ้นยุโรป ทองคำ รวมไปถึงสกุลเงินยูโร EUR เป็นอย่างมาก

ในกรณีที่ดัชนี CPI ออกมาสูงกว่าคาดการณ์ จะทำให้ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลง สกุลเงินยูโรอ่อนค่า และราคาทองคำจะมีการปรับตัวลง

และอีก 30 นาทีต่อมา...

ในคืนนี้เวลา 19:30 สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล หรือ ดัชนี PCE ประจำเดือนกันยายน และดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐาน หรือ ดัชนี Core PCE ประจำเดือนกันยายน ซึ่งถือว่าเป็นตัวเลขอัตราเงินเฟ้อตัวที่ 3 ของสหรัฐ ต่อจาก ดัชนีราคาผู้บริโภค หรือ ดัชนี CPI และดัชนีราคาผู้ผลิต หรือ ดัชนี PPI

โดยตัวเลขเงินเฟ้อตัวนี้จะมีการประกาศออกมาทั้งหมด 4 ตัวในเวลาพร้อมๆกัน ดังนี้

1. ดัชนี PCE เมื่อเทียบปีต่อปี

2. ดัชนี PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน

แต่เราจะไม่สนใจตัวเลข 2 ตัวดังกล่าวนะครับ เนื่องจากเฟดจะจับตามองดัชนี Core PCE มากกว่า และจะนำมาประกอบการตัดสินใจนโยบายทางการเงินในการประชุมครั้งถัดไปในเดือนหน้า โดยเฟดมองว่าดัชนี Core PCE นั้นจะบ่งบอกถึงพฤติกรรมในการใช้จ่ายของผู้บริโภคได้มากกว่า และมีความยืดหยุ่นมากกว่าดัชนี CPI และ Core CPI นั่นเอง

3. ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบปีต่อปี

ตลาดคาดว่าจะออกมา 5.2% เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 4.9% หรือคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นตามดัชนี CPI ที่เพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ในช่วงกลางเดือนที่ผ่านมานั่นเอง!!!

4. ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน

ตลาดคาดว่าจะออกมา 0.5% ชะลอตัวลงจากครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 0.6% หรือคาดการณ์ว่าเงินเฟ้อในส่วนนี้จะออกมาชะลอตัวนั่นเอง!!!

และยังมีตัวเลขสำคัญอีก 2 ตัวที่จะประกาศออกมาพร้อมๆกันด้วยนะครับ ซึ่งเราจะต้องจับตากันด้วย นั่นคือ

5. ดัชนีรายได้ส่วนบุคคล เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน

ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 0.3% เท่ากับตัวเลขในครั้งก่อนที่ตัวเลขออกมาอยู่ที่ 0.3% หรือคาดว่าผู้บริโภคจะยังคงมีรายได้สูงอยู่ ซึ่งหมายถึงผู้บริโภคยังคงมีกำลังซื้ออยู่ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้ออาจจะยังลดลงได้ไม่มาก!!!

6. ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน

ตลาดคาดว่าจะออกมาที่ 0.4% เท่ากับตัวเลขในครั้งก่อนที่ออกมาอยู่ที่ 0.4% หรือคาดว่าผู้บริโภคยังคงมีการออกมาใช้จ่ายสูงอยู่ และอาจทำให้ราคาสินค้ายังคงลดลงได้ไม่มาก เป็นต้นเหตุที่ทำให้เงินเฟ้ออาจจะยังลดลงได้ไม่มากเช่นกัน!!!

เราจะจับตาตัวเลขทั้ง 4 ตัวนี้เป็นหลักนะครับ โดยจะให้น้ำหนักไปที่ดัชนี Core PCE เมื่อเทียบเดือนต่อเดือน และเมื่อเทียบปีต่อปี

และตัวเลขที่จะออกมาจะมีอยู่ 4 แบบด้วยกัน ดังนี้ครับ

1. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาแดงทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อลดลงมากกว่าคาดทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลดีมากๆต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC นะครับ

เนื่องจากเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เท่าเดิม และจะยังไม่มีการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณเริ่มชะลอตัวลง

และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD อ่อนค่าลง และกดดัน Bond Yield สหรัฐให้ร่วงลงอีกด้วย

2. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาแดงมากกว่าเขียว หรือไม่มีเขียวเลย ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อออกมาลดลงมากกว่าคาดทั้งหมด หรือ เงินเฟ้อไม่ได้สูงไปกว่าที่คาดไว้เลย ก็จะส่งผลดีต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC เช่นกัน

เนื่องจากเฟดอาจจะขึ้นดอกเบี้ยในอัตราที่เท่าเดิม และจะยังไม่มีการเร่งขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อมีสัญญาณเริ่มชะลอตัวลงเช่นเดียวกัน

และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD อ่อนค่าลง และกดดัน Bond Yield สหรัฐให้ร่วงลงอีกด้วย

3. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาสูงกว่าที่ตลาดคาดการณ์ไว้ทั้งหมด หรือตัวเลขออกมาเขียวทั้งหมด ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดทั้งหมด แบบนี้จะส่งผลเสียมากๆต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC นะครับ

เนื่องจากจะทำให้เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงออกมาสูงกว่าคาดการณ์และยังออกมาสูงกว่าครั้งก่อนอีกด้วย

และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้น และหนุน Bond Yield สหรัฐให้พุ่งขึ้นอีกด้วย

4. ถ้าตัวเลขทั้ง 4 ตัว ออกมาเขียวมากกว่าแดง หรือไม่มีแดงเลย ซึ่งหมายความว่า เงินเฟ้อออกมาเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดทั้งหมด หรือ เงินเฟ้อไม่ได้ลดลงเท่าที่คาดการณ์ไว้เลย ก็จะส่งผลเสียต่อทั้งตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC เช่นกัน

เนื่องจากจะทำให้เฟดอาจเร่งขึ้นดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์ เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังคงออกมาสูงกว่าคาดการณ์และยังออกมาสูงกว่าครั้งก่อนอีกด้วยเช่นกัน

และจะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ USD แข็งค่าขึ้น และหนุน Bond Yield สหรัฐให้พุ่งขึ้นอีกด้วย

และในเวลา 19:30 จะมีการประกาศตัวเลข GDP ประจำเดือนสิงหาคมของแคนาดาออกมาด้วยเช่นกัน

ในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาสูงกว่า 0.1% จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แคนาดามีการแข็งค่าขึ้น หนุนให้ราคาน้ำมันมีการฟื้นตัวขึ้น และหนุนให้ราคาทองคำอาจจะยังลงได้ไม่มาก

ในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาต่ำกว่า 0.1% โดยเฉพาะในกรณีที่ตัวเลข GDP ของแคนาดาออกมาถึงขึ้นติดลบ จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์แคนาดามีการร่วงลง กดดันให้ราคาน้ำมันมีการปรับตัวลงต่อ และกดดันให้ราคาทองคำร่วงลงได้เช่นกัน

และในเวลา 21:00 จะมีการประกาศตัวเลขคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้า และในระยะ 5 ปีข้างหน้า จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน รวมไปถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอีกด้วย

ในกรณีที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาดีกว่าคาด ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าออกมาสูงกว่า 5.10% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 5 ปีข้างหน้าออกมาสูงกว่า 2.90%

แบบนี้จะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีการปรับตัวลงอีกครั้งครับ

ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY และ Bond Yield สหรัฐจะมีการปรับตัวขึ้นอีกครั้งเช่นกัน

ในกรณีที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคออกมาแย่กว่าคาด ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 1 ปีข้างหน้าออกมาต่ำกว่า 5.10% และตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อในระยะ 5 ปีข้างหน้าออกมาต่ำกว่า 2.90%

แบบนี้จะทำให้ตลาดหุ้น ทองคำ และ BTC มีการปรับตัวขึ้นได้อีกครั้งครับ

ในขณะที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ DXY และ Bond Yield สหรัฐจะมีการย่อตัวลง

อย่าลืมติดตามการประกาศตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญที่จะมีการประกาศออกมาหลายๆตัวพร้อมกันในคืนนี้กันด้วยนะครับ!!!

นี่คือโฆษณาของบุคคลที่สาม ไม่ใช่ข้อเสนอหรือคำแนะนำจาก Investing.com ดูการเปิดเผยข้อมูลที่นี่หรือ หรือลบโฆษณา

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย