สรูป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.62 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ระหว่างวันราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ําสุดที่ลงไปทดสอบในวันศุกร์ โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของ ดัชนีดอลลาร์ ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ได้รับแรงกดดันจาก..
(1.) เงินปอนด์ที่พุ่งขึ้นแตะ 1.1440 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 5 ต.ศ. หลังจากนายเจเรมี ฮันท์รมว.คลังคนใหม่ของอังกฤษได้ ยกเลิกมาตรการปรับลดภาษี 4.5 หมื่นล้านปอนต์ที่เคยสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินในช่วงที่ผ่านมา
(2) แบงก์ ออฟ อเมริกาเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ได้กระตุ้นแรงซื้อ สินทรัพย์เสี่ยงจนบั่นทอนความต้องการตอลลาร์ในฐานะสกุลเงินปลอดภัย และ
(3.) ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์กรายงานว่าดัชนีภาคการผลิต (Empire State Index) ร่วงลงสู่ระดับ - 9.1ในเดือนต.ค. ต่ํากว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ -5.0 สถานการณ์ดังกล่าวกดดันดัชนีดอลลาร์ให้ปิดอ่อนค่าลง 0.99% แตะที่ 112.0320 จนเป็นปัจจัยที่อยู่เบื้องหลังการทะยานขึ้นแตะ ระดับสูงสุดในระหว่างวันบริเวณ 1,688.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ของราคาทองคํา อย่างไรก็ดี ราคาทองคําสตช่วงบวกลงในเวลาต่อมา ส่วนหนึ่งได้รับแรงกดดันจากแรงขายกําไรและแรงขายทาง เทคนิค ประกอบกับอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีปรับตัวสูงขึ้นในวันจันทร์ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางซึ่งกดดันทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ไม่ได้ให้ผลตอบแทนใน รูปแบบของดอกเบี้ย ขณะที่กองทุน SPDR ลดการถือครองทองคําลง -2.03 ตันจึงเป็นปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาทองคําเพิ่มเติม สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยอัตราการใช้กําลังการผลิต การผลิตภาคอุตสาหกรรม และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนต.ศ.จาก NAHB
หากราคาปรับตัวขึ้นไม่สามารถผ่านโซนแนวต้าน 1,664-1,683 ดอลลาร์ต่อออนซ์จะท าให้ราคายังคงมีมุมมองเชิงลบใน ระยะสั้น มีโอกาสที่ราคาอาจอ่อนตัวลงทดสอบกรอบราคาด่านล่างเพื่อท าการสร้างฐานราคา เบื้องต้นประเมินแนวรับระยะ สั้นในโซน 1,631 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และแนวรับส าคัญที่ 1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์(ระดับต ่าสุดของปี 2022)
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,664-1,683
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,631-1,614
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะขายหากผ่าน $1,683
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th