สรุป ราคาทองคําวันศุกร์ที่ผ่านมาปิดปรับตัวสติลง -21.51 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แม้ราคาทองคําจะเกิดการฟื้นตัวในวันก่อนหน้า แต่เป็นอีกครั้งที่ราคาทองคําไม่สามารถรักษาช่วงบวกไว้ได้ โดย ราคาทองคําเผชิญกับปัจจัยลบต่างๆ ได้แก่
(1.) การแข็งค่าต่อเนื่องของดัชนีดอลลาร์หลังสหรัฐเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค(CPI) ออกมาร้อนแรงเกินคาดในวันพฤหับสดี ขณะที่วันศุกร์ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคของม.มิชิแกนปรับตัวขึ้นเกินคาดสู่ระดับ 59.8 ในเดือนต.ศ. นอกจากนี้ ผู้บริโภคยังคาดการณ์อีกว่าเงินเฟ้อในช่วง 1 และ 5 ปีข้างหน้าจะปรับตัวสูงขึ้นแตะ 5.1% และ 2.9% ตามลําดับ โดยสูงกว่าผลการสํารวจในเดือนก.ย. ที่ระดับ 4.7% และ 2.75% ตามลําดับ ซึ่งปัจจัยดังกล่าวจะยิ่งสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐ(เฟต)เดินหน้าปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างแข็ง กร้าวต่อไป สะท้อนจาก Money markets ที่คาดว่าอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะแตะระดับสูงสุดที่ 4.95% ภายในเดือนมี.ค. 2023 ซึ่งถือว่าเพิ่มขึ้น 25 bps จากการคาดการณ์ในช่วงก่อนการเปิดเผย ตัวเลข CPI
(2.) เงินปอนด์ร่วงลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ หลังนางลิช ทรัสต์นายกรัฐมนตรีของอังกฤษสั่งปลดนายควาซี ควาร์เต็ง รัฐมนตรีคลังยังกฤษออกจากตําแหน่ง และ
(3.) แรงขายทองคํา ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย หลังประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินแห่งรัสเชีย เปิดเผยในวันศุกร์ว่า ไม่มีความจําเป็นที่จะต้องทําการโจมตีครั้งใหญ่ครั้งใหม่ในยูเครน พร้อมทั้งระบุว่า รัสเซียไม่ได้จ้อง ที่จะทําลายยูเครน ซึ่งตลาดตีความว่าประธานาธิบดีปูตินที่ท่าที่ที่อ่อนลง สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดในรอบ 2 สัปดาห์ที่ 1,540 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ด้าน กองทุน SPDR ถือครองทองคําลดลง -3.18 ตัน สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาคการผลิต (Empire State Manufacturing Index)
ราคาอ่อนตัวลงเข้ากรอบราคาด้านล่างแม้ว่าจะเกิดแรงซื้อทำกำไรสลับเข้ามาบ้าง แต่การปรับตัวขึ้นยังคงจำกัด หากราคา ไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,667-1,671 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ทำให้ราคายังคงมีโอกาสขยับลงเพื่อทดสอบแนวรับ บริเวณ 1,631-1,614 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา เปิดสถานะขาย $1,667-1,671
จุดทํากําไร ซื้อคืนเพื่อทํากําไร $1,631-1,614
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะขายหากผ่าน $1,688
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th