ปลดล็อคข้อมูลพรีเมียม: ส่วนลดสูงสุดถึง 50% InvestingProรับส่วนลด

จับตา ผลการประชุม ECB และรายงานดัชนี PMI ของเศรษฐกิจหลัก

เผยแพร่ 18/07/2565 07:28
  • สัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดการเงินยังคงผันผวนไปตามมุมมองของตลาดต่อแนวโน้มการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของเฟดและรายงานผลกำไรของบรรดาบริษัทจดทะเบียน
  • ไฮไลท์สำคัญในสัปดาห์นี้ คือ การประชุมของ ECB และควรจับตารายงานดัชนี PMI ของเศรษฐกิจหลัก อาทิ สหรัฐฯ ยุโรป และญี่ปุ่น รวมถึงรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียน อาทิ BofA, Tesla (NASDAQ:TSLA) และ Netflix (NASDAQ:NFLX)

  • ช่วงต้นสัปดาห์ เงินดอลลาร์อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นได้บ้าง หากตลาดผิดหวังกับรายงานผลประกอบการและปิดรับความเสี่ยง นอกจากนี้ ความผันผวนอาจสูงขึ้น ในช่วงการประชุม ECB และรายงานดัชนี PMI โดยเงินดอลลาร์อาจอ่อนค่าลงได้บ้าง หาก ECB พร้อมเร่งขึ้นดอกเบี้ย และดัชนี PMI สหรัฐฯ ลดลงแย่กว่าคาด ส่วนเงินบาทอาจใกล้เจอจุดอ่อนค่าสุดและจะยังไม่อ่อนค่าทะลุ 37 บาทต่อดอลลาร์ หากจีนไม่ได้ใช้มาตรการ Lockdown นอกจากนี้ เรามองว่า การอ่อนค่าของเงินบาทอาจถูกชะลอด้วย แรงซื้อ Buy on Dip หุ้นไทยจากนักลงทุนต่างชาติ และมุมมองของผู้เล่นบางส่วนที่เริ่มกลับมาเก็งกำไรการแข็งค่าของเงินบาท (Long THB) ท่ามกลางความหวังการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวจากต่างชาติ

  • มองกรอบเงินบาทสัปดาห์นี้
    36.30-36.90
    บาท/ดอลลาร์

  • มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก

    • ฝั่งสหรัฐฯ – ตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจสหรัฐฯ ผ่านรายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคการผลิตอุตสาหกรรมและภาคการบริการ (S&P Global Manufacturing & Services PMIs) ในเดือนกรกฎาคม โดยนักวิเคราะห์มองว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ทั้งภาคการผลิตและการบริการมีแนวโน้มขยายตัวชะลอลงต่อเนื่อง สะท้อนผ่านดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการที่จะลดลงสู่ระดับ 52 จุด และ 52.5 จุด ตามลำดับ (ดัชนีสูงกว่า 50 จุด หมายถึง ภาวะขยายตัว) ซึ่งหากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด กอปรกับข้อมูลคาดการณ์เงินเฟ้อระยะกลางในสัปดาห์ก่อนหน้าที่ลดลงต่อเนื่องสู่ระดับ 2.8% ก็อาจทำให้ตลาดปรับลดโอกาสที่เฟดจะเร่งขึ้นดอกเบี้ยรุนแรงถึง 1.00% ซึ่งอาจเป็นปัจจัยที่กดดันเงินดอลลาร์ได้ อนึ่ง ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามรายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน อาทิ Bank of America, Tesla และ Netflix เป็นต้น โดยผลประกอบการที่ออกมาแย่กว่าคาด อาจกดดันให้ตลาดการเงินยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยงและอาจหนุนการแข็งค่าของเงินดอลลาร์

    • ฝั่งยุโรป – ปัญหาเงินเฟ้อสูง ที่ส่วนใหญ่มาจากราคาพลังงานอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจกดดันให้เศรษฐกิจยุโรปชะลอลงหนักได้ โดยเฉพาะในกรณีที่ รัสเซียลดปริมาณการส่งออกแก๊สธรรมชาติ หรือ ยุติการส่งออกแก๊สธรรมชาติสู่ยุโรป หลังครบกำหนดซ่อมบำรุงท่อส่งแก๊ส Nord Stream 1 ในวันที่ 21 นี้ อย่างไรก็ดี แม้เศรษฐกิจยุโรปเผชิญความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะชะลอตัวลงหนัก แต่ตลาดคาดว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย (Deposit Facility Rate) 0.25% สู่ระดับ -0.25% นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตาท่าทีของ ECB ต่อโอกาสในการเร่งขึ้นดอกเบี้ยราว 0.50% ในอนาคต เพื่อคุมปัญหาเงินเฟ้อ ซึ่งอาจขึ้นกับมุมมองของ ECB ต่อภาพเศรษฐกิจยุโรป และนอกเหนือจากการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ตลาดคาดว่า ECB อาจเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับเครื่องมือ Anti-Fragmentation Tool เพื่อควบคุมปัญหาภาระหนี้ของบรรดาประเทศสมาชิก อย่างไรก็ดี ต้องระวังความผันผวนในฝั่งตลาดบอนด์ที่อาจเกิดขึ้น หากสุดท้าย ECB ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดของเครื่องมือดังกล่าวมากนัก ซึ่งอาจยิ่งทำให้บอนด์ยีลด์ระยะยาวในฝั่งยุโรป โดยเฉพาะประเทศที่มีความเปราะบางต่อปัญหาหนี้ อาทิ อิตาลี พุ่งสูงขึ้นได้ ดังจะเห็นได้จากส่วนต่างระหว่างบอนด์ยีลด์ 10 ปี อิตาลี กับเยอรมนี ที่จะปรับตัวสูงขึ้น ส่วนในด้านข้อมูลเศรษฐกิจ ตลาดมองว่า เศรษฐกิจยุโรปมีแนวโน้มชะลอลงต่อเนื่อง ท่ามกลางแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อ โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการอาจลดลงสู่ระดับ 51 จุด และ 52 จุด ในเดือนกรกฎาคม ส่วนในฝั่งอังกฤษ ผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อสูง จะกดดันให้ยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมิถุนายน ยังคงหดตัวกว่า -0.2%m/m และกดดันแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจอังกฤษ

    • ฝั่งเอเชีย – ตลาดประเมินว่า ธนาคารกลางอินโดนีเซีย (BI) จะไม่เผชิญแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อสูงมากเท่ากับธนาคารกลางอื่นๆ ในภูมิภาค ดังจะเห็นได้จากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) ยังอยู่ในระดับต่ำกว่า 3% (ค่ากลางของกรอบเงินเฟ้อ) ทำให้ BI สามารถคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 3.50% ส่วนในฝั่งของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) แนวโน้มการฟื้นตัวเศรษฐกิจที่ยังเผชิญแรงกดดันจากปัญหาเงินเฟ้อและความจำเป็นที่ BOJ ต้องช่วยคุมต้นทุนการกู้ยืมเงินของรัฐบาลและภาคเอกชน ทำให้ BOJ ยังคงใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายสวนทางกับธนาคารกลางหลักอื่นๆ อาทิ การตรึงบอนด์ยีลด์ 10 ปี ไม่ให้เกินระดับ 0.25% (ซื้อบอนด์แบบไม่จำกัด) และคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.10% ซึ่งการดำเนินนโยบายการเงินดังกล่าวอาจกดดันให้เงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ยังมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้ในระยะนี้

    • ฝั่งไทย – ตลาดมองว่า แม้ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงต่อเนื่อง แต่ก็มีส่วนช่วยหนุนให้ยอดการส่งออก (Exports) ในเดือนมิถุนายนยังโตราว +10%y/y ทว่า ราคาสินค้าพลังงานรวมถึงผลจากการอ่อนค่าของเงินบาทกลับยิ่งหนุนให้ยอดการนำเข้า (Imports) เพิ่มสูงขึ้น +19%y/y ทำให้ ดุลการค้ายังคงขาดดุลราว 1.2 พันล้านดอลลาร์ และเป็นอีกปัจจัยที่กดดันดุลบัญชีเดินสะพัดในช่วงนี้

    • Weekahead carlendar

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย