สรุป หลังจากวันศุกร์ที่ผ่านมาราคาทองคําปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 4.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อ Buy the dip ทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความ วิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย(Recession) ประกอบกับ เกิดแรงเทขายสกุลเงินปลอดภัย หลังจากนักลงทุนกลับมาเปิดรับความเสี่ยง (Risk an) เห็นได้จากดัชนีดาว โจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นมากกว่า 800 จุดในวันศุกร์ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันให้ดัชนีดอลลาร์ปิดอ่อนค่าลง 0.21% จนเป็นปัจจัยหนุนให้ราคาทองคําพุ่งขึ้นจาก ระดับต่ําสุดในระหว่างวันปิดตลาดในแดนบวก ส่วนในวันนี้ราคาทองคํามีการขยับตัวขึ้นจากช่วงเช้าของวันจากนั้นแกว่งตัว Sideway ออกข้างในกรอบ 1,826.10-1,839.07 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยมีแรงหนุนมาจากรัสเซียผิดนัดชําระหนี้สกุลเงินต่างประเทศเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ศตวรรษ หรือนับตั้งแต่ปี 2461 ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ชาติ ตะวันตกประกาศคว่ําบาตรรัสเซีย ซึ่งรวมถึงการปิดช่องทางการชําระหนี้ให้กับกลุ่มเจ้าหนี้ต่างประเทศ เพื่อตอบโต้รัสเซียที่ใช้กําลังทหารรุกรานยูเครน อีกทั้ง นายบอริส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เตือนว่า หากรัสเซียเข้ายึดครองยูเครนได้สําเร็จ ทั้งโลกจะเผชิญกับ “หายนะอย่างแน่นอน" พร้อมกับเรียกร้องให้ชาติตะวันตกเดินหน้า สนับสนุนยูเครนขณะที่สงครามยังคงยืดเยื้อต่อไป อย่างไรก็ตามทองคําก็มีแรงกดดันด้วยเช่นกันจากตลาดหุ้นฝั่งเอเชียอย่างตลาดหุ้นโตเกียวและตลาดหุ้นฮ่องกงต่างเปิด อยู่แดนบวกวันนี้ ตามทิศทางดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดพุ่งขึ้นกว่า 800 จุดเมื่อวันศุกร์ เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลเกี่ยวกับแผนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) คืนนี้แนะนําให้ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ มีการเปิดเผยยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ค.และยอดทําสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายเดือนพ.ค.
คําแนะนํา ปิดสถานะซื้อหากยืน $1,818-1,811
จุดทํากําไร ขายเพื่อทํากําไร $1,848
ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสถานะซื้อหากหลด $1,811
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th