รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ภาพรวมตลาดหุ้นยังไม่ชัดเจน ตลาดพันธบัตรยังไม่ใช่หลุมหลบภัย ความผันผวนยังคงอยู่

เผยแพร่ 27/06/2565 10:33
อัพเดท 02/09/2563 13:05

การแบ่งขั้วของนักลงทุนในสัปดาห์นี้จะยังคงดำเนินต่อไป ฝั่งที่มองโลกในแง่ดีเริ่มให้ความหวังกับการรีบาวด์กลับขึ้นมาของตลาดสินทรัพย์เสี่ยง อ้างอิงจากดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดาวโจนส์ รัสเซล 2000 และแนสแด็กที่สามารถฟื้นตัวกลับขึ้นมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ 5% 4% 7% และ 8.8% ตามลำดับ

ส่วนนักลงทุนที่มองโลกในแง่ร้าย ก็จะหยิบเอาข้อมูลผลงานการวิ่งของดัชนีทั้งสี่ตลอดทั้งครึ่งปี 2022 ออกมาใส่สีตีข่าว กล่าวว่าเป็นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดของตลาดทุนในรอบห้าปี ตั้งแต่เริ่มต้นปีนี้มาจนถึงปัจจุบัน เอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลงไปแล้วเกือบ 18% ในขณะที่ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงในช่วงเวลาเดียวกัน 13% ดัชนีแนสแด็ก 100 หนักที่สุดคือขาลง 25.6% และดัชนีรัสเซล 2000 ที่ปรับตัวลดลงมาทั้งหมด 21.4% 

ในบทความนี้ของสัปดาห์ที่แล้ว เราเคยคาดการณ์ว่าตลาดหุ้นมีโอกาสดีดตัวกลับขึ้นมาเพราะอยู่ใกล้ขอบล่างของกรอบราคาขาลงมากเกินไป และจากภาพการวิเคราะห์ทางเทคนิคของแท่งเทียนตลอดทั้งสัปดาห์ที่แล้ว ก็ดูเหมือนว่าจะเป็นไปตามที่เราคาดการณ์SPX Weekly

จากรูปจะเห็นว่าดัชนีเอสแอนด์พี 500 ดีดตัวกลับขึ้นมาจากบริเวณขอบล่างรอบราคา ถึงแม้ว่าตัวดัชนีจะสามารถสร้างจุดปิดให้สูงขึ้นได้ แต่ก็ยังไม่สามารถขึ้นยืนเหนือจุดต่ำสุดของห้าสัปดาห์ก่อนหน้า ที่กลายเป็นแนวต้านได้ เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้เราวิเคราะห์ว่าการดีดตัวกลับขึ้นมาของราคาอาจสิ้นสุดลงแต่เพียงเท่านี้ ยิ่งไปกว่านั้น มีแนวโน้มที่นักลงทุนฝั่งขายจะเริ่มเพิ่มแรงกดดันจากบริเวณนี้ เพราะยิ่งขึ้นมามากเท่าไหร่ ก็หมายความว่าเข้าใกล้กรอบราคาด้านบนมากขึ้น

โอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวลดลงต่อในสัปดาห์นี้อาจกลายมาเป็นปัญหาสำหรับนักลงทุนอีกครั้ง เมื่อพวกเขาต้องพิจารณาว่าจะหอบเงินหนีไปลงทุนในตลาดไหนได้่บ้าง แต่ที่แน่ๆ แล้วว่าตลาดพันธบัตรยังไม่ใช่ตัวเลือกที่ปลอดภัย เมื่ออ้างอิงจากราคากองทุน Vanguard's Total Bond Market Index Fund ETF Shares (NASDAQ:BND) ที่ปรับตัวลดลงมาแล้วตลอดทั้งปีนี้ 11.7% กลาย้เป็นสถิติขาลงที่หนักที่สุดของตัวดัชนีเองตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2007BND Monthly 2007-2022

การที่ BND วิ่งลงมาถึงจุดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนนับตั้งแต่ปี 2008 นำมาซึ่งคำถามว่ายังมีพื้นที่ให้ BND ปรับตัวลดลงได้อีกหรือไม่?

ถ้าจะให้ตอบคำถามนี้ก็ต้องถามตัวนักลงทุนเองก่อนว่าได้มองปัจจัยเศรษฐกิจโดยรอบอย่างรอบคอบแล้วหรือไม่ จริงอยู่ว่าการจะมองว่าการดีดตัวกลับขึ้นมาในสัปดาห์ที่แล้วนั้นเป็นเพื่อการ “ย่อเพื่อลงต่อ” หรือเป็นการ “เริ่มสร้างฐานของขาขึ้นรอบใหม่” ก็เหมือนกับการที่เรามองน้ำในแก้วว่าเป็นน้ำตั้งครึ่งแก้วหรือเป็นน้ำแค่ครึ่งแก้ว

ขาลงที่เกิดขึ้นมาตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในช่วงระยะหลังมานี้เก่งกาจเรื่องการทำให้นักลงทุนตายใจ หลอกให้มีความหวังว่าอาจจะกลับมาเป็นขาขึ้นได้ ก่อนจะถูกเทขายอย่างไร้ความปราณี นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ประกาศออกมาตั้งแต่ต้นปีแล้วว่าจะขึ้นดอกเบี้ยตลอดทั้งปีจนกว่าจะสามารถกดเงินเฟ้อที่สูงที่สุดในรอบ 40 ปี ลงมาได้ ซึ่งการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะหมายถึงต้นทุนการลงทุนที่สูงขึ้น นี่ยังไม่นับโควิดที่ยังไม่จบ เช่นเดียวกันสงครามรัสเซียยูเครน ที่ยังคงสร้างความปวดหัวให้กับภูมิภาคยุโรป

ปัจจัยเดียวที่เราพอจะเห็นว่าเป็นข่าวดีให้กับตลาดหุ้นในระยะสั้นได้คือการรีบาลานซ์กระแสเงินสดของบริษัทเอกชนในสัปดาห์สุดท้ายของไตรมาสที่ 2 ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาที่สถาบันการเงินเอาข้อมูลตัวเลขกระแสเงินสดออกมาดูว่าสภาพคล่องของบริษัทแต่ละแห่งยังดีอยู่หรือไม่ อ้างอิงข้อมูลจากธนาคารเจพีมอร์แกน มีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะปรับตัวขึ้นต่อได้อีก 7% จากเหตุการณ์นี้ และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง ดัชนีเอสแอนด์พี 500 มีโอกาสที่จะปรับตัวกลับขึ้นไปยังจุดสูงสุดของเดือนพฤษภาคม

ภาพรวมของตลาดลงทุนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราจะมาเริ่มต้นที่ตลาดผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีเช่นเคย ซึ่งกราฟอัตราผลตอบแทนฯ ได้ปรับตัวลดลงมาUST 10Y Weekly

การปรับตัวลดลงมาเช่นนี้ทำให้แท่งเทียนดาวตก (Shooting Star) ของสัปดาห์ก่อนหน้ายิ่งดูมีน้ำหนักขึ้นมามาก แต่จุดสังเกตก็คือเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์ได้ตัดเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ขึ้นมาแล้ว ถือเป็นการตัดกันครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนตุลาคมปี 2017 ซึ่งในครั้งนั้น กราฟอัตราผลตอบแทนฯ ได้ปรับตัวขึ้นอีกเกือบ 50% ในปีถัดมาหลังจากการตัดกัน

ส่วนอินดิเคเตอร์นั้นยังต้องจับตาดูกันต่อไป เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นใน MACD กำลังลงมาทดสอบเส้นระยะยาว ในขณะที่เส้นของ ROC ก็กำลังทดสอบเส้นเทรนดไลน์ แต่ยังไม่สามารถตัดลงมาได้ ในขณะเดียวกัน ดัชนีดอลลาร์สหรัฐก็ได้ปรับตัวลดลงมาตามกราฟอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลDollar Weekly

สถานการณ์ทางเทคนิคของกราฟดัชนีดอลลาร์คล้ายกันกับกราฟอัตราผลตอบแทน เมื่อสัปดาห์ก่อนหน้าสัปดาห์ที่แล้ว เกิดแท่งเทียนรูปแบบโดจิเกิดขึ้น และสัปดาห์ที่ผ่านมา กราฟก็ไม่สามารถปรับตัวขึ้นยืนเหนือแท่งของสัปดาห์ก่อนหน้านั้นได้ เมื่อพิจารณาจากเส้นค่าเฉลี่ย ก็พบว่าเส้นระยะสั้นกำลังตัดเส้นระยะยาวขึ้นมา แต่อินดิเคเตอร์นั้นกลับส่งสัญญาณว่ามีโอกาสที่ราคาจะปรับตัวลดลงต่อ

ราคาทองคำปรับตัวลดลงมาเป็นเวลาสองสัปดาห์ติดต่อกันแล้วGold Weekly 2011-2022

กราฟทางเทคนิคของราคาทองคำปรับตัวลดลงมาใกล้กับจุดต่ำสุดของกรอบสามเหลี่ยมสมมาตรแล้ว การวิ่งขึ้นลงไปมาครั้งนี้อยู่ใกล้กับจุดสูงสุดตลอดกาลของปี 2011 ดังนั้นจึงอาจจะมีนักลงทุนขาขึ้นอาศัยจังหวะที่ซื้อและพยายามดันราคาทองคำให้ปรับตัวกลับขึ้นไป

หลังจากร่วงลงไปจนหลุด $18,000 ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2020 บิทคอยน์ดูเหมือนว่าจะสามารถกลับมายืนเหนือ $20,000 และยังพยายามทรงตัวอยู่เหนือระดับราคานี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นก็ตามBTC/USD Daily

แม้จะไม่รู้ว่าขาลงครั้งใหญ่นี้จะสิ้นสุดลงตรงนี้แล้ว หรือยังไม่โอกาสปรับตัวลงต่อ แต่ก็ต้องยอมรับว่าการไซด์เวย์อยู่เหนือ $20,000 ของบิทคอยน์นั้นยังไม่ปลอดภัย ยังมีนักวิเคราะห์หลายคนเชื่อว่ามีโอกาสที่บิทคอยน์จะลงไปได้มากที่สุดถึงต่ำกว่า $10,000 ในขณะที่บางคนบอกว่าขาลงครั้งนี้อาจจะสิ้นสุดลงที่ $12,500

สุดท้าย ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แรงกดดันจากรูปแบบ Evening Star ถือว่าทำหน้าที่ได้ดีOil Weekly

ขาลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วกลบราศีของรูปแบบสามทหารเสือขาขึ้นที่เกิดมาก่อนหน้านั้น ที่สำคัญ ยังเป็นการยืนยันไปให้ตัวด้วยว่าที่บริเวณแนวต้าน $124 ต่อบาร์เรล ไม่ใช่จุดที่ราคาน้ำมันจะปรับตัวขึ้นผ่านไปได้ง่ายๆ แต่สัปดาห์นี้ สิ่งที่นักลงทุนขาลงจะได้เจอคือ นักลงทุนขาขึ้นที่ดักรอซื้อ ณ บริเวณเหนือสามเหลี่ยมที่ราคาได้หลุดขึ้นมา

ข่าวเศรษฐกิจสำคัญประจำสัปดาห์ (เวลาทั้งหมดคำนวณเป็น EDT)

วันจันทร์ 

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทนพื้นฐาน: คาดว่าจะปรับตัวลดลงจาก 0.4% เป็น 0.3%

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยที่รอการจำนอง: คาดว่าจะลดลงจาก -3.9% เป็น -4.0%

 

วันอังคาร

04:30 (ยูโรโซน) ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลางยุโรปนางสาวคริสตีน ลาการ์ด

10:00 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขความเชื่อมั่นของผู้บริโภคจาก CB: คาดว่าจะลดลงจาก 106.4 เป็น 100.9

21:30 (ออสเตรเลีย) รายงานตัวเลขยอดค้าปลีก: คาดว่าจะลดลงจาก 0.9% เป็น 0.4% 

 

วันพุธ

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะคงที่อยู่ ณ -1.5%

09:30 (สหราชอาณาจักร) ถ้อยแถลงจากประธานธนาคารกลาง

09:30 (สหรัฐฯ) ถ้อยแถลงของประธานธนาคารกลาง

10:30 (สหรัฐฯ) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลัง: ครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 1.956 ล้านบาร์เรล

21:30 (ประเทศจีน) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะลดลงจาก 49.6 เป็น 48.6

 

วันพฤหัสบดี

02:00 (สหราชอาณาจักร) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะคงที่ 8.7% YoY และ 0.8% QoQ

03:55 (เยอรมัน) รายงานตัวเลขอัตราการว่างงาน: คาดว่าตัวเลขจะลดลงจาก -4K เป็น -6K

08:30 (สหรัฐฯ) รายงานตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรก: คาดว่าจะลดลงจาก 229K เป็น 227K

08:30 (แคนาดา) รายงานตัวเลข GDP: คาดว่าจะลดลงจาก 0.7% เป็น 0.3% MoM

19:50 (ญี่ปุ่น) ดัชนีที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาคการผลิตขนาดใหญ่จาก Tankan: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 9 เป็น 14

21:45 (ประเทศจีน) ดัชนี PMI ภาคการผลิตจากมหาลัยไซซิน: ครั้งก่อนออกมาอยู่ที่ 48.1

 

วันศุกร์

03:55 (เยอรมัน) ดัชนี PMI ภาคการผลิต: คาดว่าจะคงที่ 52.0 

05:00 (ยูโรโซน) ดัชนีราคาผู้บริโภค: คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจาก 8.1% เป็น 8.3% YoY

10:00 (สหรัฐฯ) ดัชนี PMI ภาคการผลิตจาก ISM: คาดว่าจะปรับตัวลดลงจาก 56.1 เป็น 55.0

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย