อีเทอเรียมยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลอันดับสองในบรรดาสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 19,850 ตัว ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ในวันที่ 16 มิถุนายน อีเทอเรียมมีระดับราคาอยู่ใกล้กับ $1,173 มีมูลค่าตามราคาตลาดอยู่ที่ $140.57 พันล้านดอลลาร์
แม้ว่ามูลค่าตามราคาตลาดของสกุลเงินอีเทอเรียมจะน้อยกว่าครึ่งหนึ่งของบิทคอยน์ แต่ก็ยังสูงกว่าสเตเบิลคอยน์ เธเธอร์ (Tether) ถึงสองเท่า ในช่วงกลางเดือนมิถุนายน 2022 สินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลมีมูลค่ารวมทั้งหมด 950.7 พันล้านดอลลาร์ และมูลค่าของอีเทอเรียมคิดเป็นมากกว่า 15.5% ของตลาดคริปโตทั้งหมด
ถึงอีเทอเรียมจะยังคงเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่โดดเด่น แต่ความเคลื่อนไหวของราคาก็ปรับตัวลดลงมาตั้งแต่ปลายปี 2021 เมื่อ BTC และ ETH สร้างรูปแบบการกลับตัวที่สำคัญในกราฟรายวัน หลังจากนั้นเหรียญ ETH ก็ร่วงลงราวกับมีดที่ตกลงจากที่สูง และตั้งแต่เริ่มนับปี 2022 มาจนถึงสัปดาห์นี้ อีเทอเรียมยังคงร่วงลงราวกับเป็นมีดเล่มนั้น ซึ่งลงเร็วและแรงมากกว่าบิทคอยน์เสียอีก
ภาพรวมตลาดสกุลเงินดิจิทัล
วันที่ 10 พฤศจิกายนปี 2021 ถือเป็นวันที่ดีที่สุดและแย่ที่สุดของนักลงทุนคริปโตฯ เมื่อบิทคอยน์และอีเทอเรียมขึ้นถึงจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่ ก่อนที่จะเริ่มปรับตัวลดลง จุดเริ่มต้นของการย่อเล็กๆ ในวันนี้นำมาสู่ขาลงมหาวิปโยคของตลาดต่อจากนั้นมาอีกหกเดือน
Source: Barchart
กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นสกุลเงินอีเทอเรียมในวันที่มีราคาซื้อขาย ณ จุดสูงสุดที่ $4,865.426 เมื่อปีที่แล้วในวันที่ 10 พ.ย.ก่อนจะปรับตัวลดลงมาวิ่งต่ำกว่า $4,555 แต่การลงต่ำครั้งนั้นกลับส่งผลกระทบอย่างมากต่อราคาของอีเทอเรียมและบิทคอยน์ในเวลาต่อมา แท่งเทียนขาลงในลักษณะเดียวกันเมื่อวันนั้นทำให้อีเทอเรียมต้องลงสู่จุดต่ำสุดที่ $1,077.694 เมื่อวันที่ 14 มิถุนายน
เช่นเดียวกันกับราชาแห่งสกุลเงินดิจิทัลบิทคอยน์ได้ร่วงลงมาถึงจุดต่ำสุดที่ $20,885.96 ในวันที่ 14 มิถุนายน
Source: Barchart
จากกราฟทั้งสองรูปนี้เราจะเห็นว่าอีเทอเรียมร่วงลงมากกว่าบิทคอยน์ ณ จุดต่ำสุดของวันที่ 14 มิถุนายน อีเทอเรียมปรับตัวลดลงมาแล้วจากจุดสูงสุดในวันที่ 10 พฤศจิกายน 77.85% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของบิทคอยน์ ที่ร่วงลงมาทั้งหมด 69.7%
ความหวังเกี่ยวกับ Ethereum 2.0 ยังทำให้คนเข้าซื้อเหรียญ ETH
ตลอดปีที่ผ่านมา มีข่าวลือกมากมายเกี่ยวกับเทคโนโลยีพื้นฐานของอีเทอเรียมที่กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลง เหล่าผู้ศรัทธาในอีเทอเรียมเชื่อว่เวอร์ชัน 2.0 จะใช้กลไกการพิสูจน์ยืนยันธุรกรรมผ่านการ staking เป็นหลัก แทนที่จะเป็นโปรโตคอล Proof-of-Work ในปัจจุบัน
อนึ่ง Proof-of-Work (PoW) คือการแข่งขันระหว่างนักขุดเพื่อไขปริศนาการเข้ารหัสและตรวจสอบธุรกรรมเพื่อรับรางวัลบล็อก PoW เป็นสิ่งที่ใช้พลังงานมาก เมื่อเทียบกับ Proof-of-Stake (PoS) ที่ใช้การสุ่มตรวจสอบความถูกต้อง เพื่อให้แน่ใจว่าธุรกรรมนั้นเชื่อถือได้พร้อมกับการมอบค่าตอบแทนเป็น ETH PoS ว่าด้วยเรื่องของการที่ใครถือเหรียญอยู่ในระบบมากกว่าก็มีสิทธิ์โหวตได้มากกว่า
แผนการของอีเทอเรียมที่จะเปิดตัวเวอร์ชัน 2.0 ซึ่งประกาศในเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว ทำให้เกิดการซื้อ ETH อย่างล้นหลามในช่วงปลายปี 2021 แต่แนวโน้มขาลงได้ทำให้นักลงทุนคริปโตฯ หน้าใหม่ไม่สามารถถือครองเหรียญนี้ในระยะยาว ท่ามกลางสภาวะที่ต้องมองออเดอร์ของตนเองค่อยๆ ปรับตัวลดลงไปเรื่อยๆ ได้
สำหรับนักลงทุนหน้าใหม่ อีเทอเรียมยังคงเป็นตัวเลือกที่ดี
อย่างไรก็ตาม ถ้าไม่นับบิทคอยน์แล้ว สกุลเงินอีเทอเรียมถือได้ว่าพัฒนามาไกลในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และยังคงเป็นตลาดขาขึ้นสำหรับคนที่ถือเหรียญ ETH มาตั้งแต่ก่อนปี 2018
Source: Barchart
กราฟระยะยาวรูปนี้ชี้ให้เห็นถึงวันที่อีเทอเรียมปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 11.13 ดอลลาร์ต่อหนึ่งเหรียญในเดือนพฤษภาคม 2016 โดยยังคงต่ำกว่าระดับ 100 ดอลลาร์ มาจนถึงเดือนเมษายน 2017
ในขณะที่ราคา ETH เพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 1,400 ดอลลาร์ในเดือนมกราคม 2018 ก็ได้ปรับตัวลดลงมายังจุดต่ำสุดที่ 82.408 ดอลลาร์ในเดือนธันวาคม 2018 และ 89.505 ดอลลาร์ในเดือนมีนาคม 2020 ดังนั้นผู้ถือครอง ETH ในระยะยาวยังคงมีเงินอยู่ในสถานะความเสี่ยงที่เกือบ 1,200 ดอลลาร์ต่อโทเค็นในวันที่ 16 มิถุนายน
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา การซื้อ ETH ตอนที่ย่อเป็นแนวทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการลงทุนในอีเทอเรียม เฟสถัดมาของ Ethereum 2.0 มีกำหนดจะเริ่มใช้งานจริงในเดือนสิงหาคม 2022 โดยคาดว่าการเปิดตัวตัวอย่างเป็นทางการจะเกิดขึ้นในปี 2023
ระดับราคาทางเทคนิคสำคัญที่นักลงทุนควรจับตา
เวลาจะเป็นคนบอกเองว่าสุดท้ายแล้วอีเทอเรียม 2.0 จะสามารถพาเหล่าสาวกอีเทอเรียมกลับขึ้นไปประสบความรุ่งเรืองอย่างที่เคยเป็นมาในอดีตหรือไม่
Source: Barchart
กราฟรูปนี้แสดงให้เห็นว่าแนวรับทางเทคนิคที่สำคัญขณะนี้อยู่ที่ 1,000 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับราคาที่ไม่เคยลงถึงมาก่อนตั้งแต่ตั้งแต่มกราคม 2021 แนวต้านทางเทคนิคอยู่ที่จุดสูงสุดในเดือนเมษายน 2022 ที่ 3,579.86 ดอลลาร์
เพราะอีเทอเรียมกำลังอยู่ใกล้แนวรับมากกว่าแนวต้านมาก มันจึงอยู่ในโซนซื้อสำหรับนักลงทุนและเทรดเดอร์ที่กล้าพอจะรับความเสี่ยง เมื่อเทียบกับขาลงในช่วงหกเดือนที่ผ่านมาอย่างน่ากลัว หากถามว่าจุดต่ำสุดของอีเทอเรียมอยู่ที่ไหน คำตอบก็คือจะพบจุดต่ำสุดเมื่อความเชื่อมั่นเปลี่ยนตลาดคริปโตฯ กลับเข้าสู่แนวโน้มขาขึ้น
เรายังคงขอย้ำอยู่เหมือนเดิมว่าการลงทุนใน อีเทอเรียมหรือสกุลเงินดิจิตอลใดๆ ยังคงจะต้องเป็นเงินที่คุณกล้าจะเสีย ความสามารถในการทำกำไรระดับที่จะพลิกชีวิตคุณย่อมมาพร้อมกับความเสี่ยงที่สมน้ำสมเนื้อ แม้ว่าอีเทอเรียมจะเป็นสินทรัพย์สกุลเงินดิจิทัลอันดับต้นๆ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ขาลงในตอนนี้ก็ได้พิสูจน์แล้วว่าจะอดีตหรือปัจจุบัน ตลาดคริปโตฯ ก็พร้อมที่จะลงได้ในระดับเกิน 70% ของขาขึ้นที่สร้างมาอย่างยากลำบากได้เสมอ