หลังจากลงมาสร้างจุดต่ำสุดที่ $1,785 ในวันที่ 16 พฤษภาคม หลังจากนั้นราคาทองคำก็ได้ปรับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ ล่าสุดเมื่อวานนี้ ราคาทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนบนตลาด COMEX มีตัวเลขอยู่ที่ $1,865.40 ต่อออนซ์ ปรับตัวขึ้น $17.60 หรือเกือบ 1% ภายในวันเดียวกัน ก่อนหน้านี้ไม่นาน ก็พึ่งสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบสองสัปดาห์เอาไว้ที่ $1,868.80 สร้างความหวังให้กับนักลงทุนขาขึ้นว่าอาจจะมีโอกาสได้เห็นราคาทองคำที่ $1,900 อีกครั้งหรือไม่ ก่อนหน้าในในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน ทองคำเคยมีกรอบการวิ่งอยู่ระหว่าง $1,976 - $2,079
Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์ทางเทคนิคของ skcharting.com ให้ความเห็นต่อพฤติกรรมราคาทองคำว่า
“ในช่วงสี่วันที่ตลาดลงทุนเปิดทำการ ราคาทองคำที่จะส่งมอบในเดือนมิถุนายนพยายามปิดตัวเองในแดนบวกให้ได้มาโดยตลอด ช่วงเวลาของขาขึ้นนี้ยาวนานที่สุดนับตั้งแต่ขาขึ้นห้าวันติดต่อกันระหว่างวันที่ 7-13 เมษายน แม้จะมีการย่อตัวลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,859 ในวันนี้ แต่นักลงทุนก็ยังเชื่อว่ามีโอกาสที่ราคาทองคำจะสามารถวิ่งขึ้นไปถึง $1,900”
อ้างอิง: skcharting.com
“จากการวิเคราะห์ทองคำในกราฟรายวันและรายสัปดาห์ด้วยอินดิเคเตอร์ Stochastic พบว่าทองคำกำลังวิ่งมุ่งหน้าขึ้นทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย EMA 50 วันหรือระดับราคา $1,884 เส้นค่าเฉลี่ย SMA 100 วันที่ $1,886 และเส้นกึ่งกลางของอินดิเคเตอร์โบลิงเจอร์ แบนด์ในกราฟรายสัปดาห์ที่ $1,890 และจากการวิเคราะห์ราคาทองคำสปอต ก็พบว่าถ้าสามารถยืนเหนือโซนราคา $1,885 - $1,900 ก็มีโอกาสที่จะวอ่งขึ้นไปทดสอบ $1,910” Dixit วิเคราะห์เพิ่มเติม
“แต่การปรับตัวลดลงทำราคาปิดต่ำกว่า $1,850 จะเปิดโอกาสให้กับการกลับไปเป็นขาลง” เขากล่าวปิดท้าย “ถ้าหากเป็นเช่นนั้นจริง มีโอกาสได้เห็นราคาทองคำพักฐานอยู่ในโซนราคาระหว่าง $1,838 - $1,825 หรืออาจจะลงเลยไปถึงเส้นค่าเฉลี่ย SMA 200 วันที่ $1,839 หรือ $1,815”
Ed Moya นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ลงทุนออนไลน์ OANDA มีมุมมองที่คล้ายกัน เขาวิเคราะห์ว่า
“หากว่าราคาทองคำสามารถขึ้นยืนเหนือ $1,885 ได้ มันก็อาจจะได้กลับมาทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์สำรองปลอดภัยในช่วงเงินเฟ้อได้อีกครั้ง นอกจากนี้ การประกาศแผนพร้อมขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ทำให้สกุลเงินยูโรแข็งค่า และกดอัตราผลตอบแทนพันธบัตรก็ได้ปรับตัวลดลงมาเช่นเดียวกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่า”
“นอกจากนี้” เขากล่าวต่อ “ทองคำยังมีปัจจัยสนับสนุนอยู่อีกอย่างเช่นปัญหาเงินเฟ้อ สถานการณ์โควิดในจีนที่ยังไม่มีใครประเมินได้ว่าแท้จริงแล้วรุนแรงแค่ไหน และตราบใดที่นักลงทุนในวอลล์ สตรีทยังคงเป็นกังวลต่อสถานการณ์เหล่านี้ไปเรื่อยๆ ทองคำก็ยิ่งมีโอกาสปรับตัวขึ้น ความเปราะบางทางเศรษฐกิจของอเมริกาอาจมีมากกว่าที่ตลาดจินตนาการเอาไว้”
คำว่า “แย่กว่าที่จินตนาการไว้” มีหลักฐานบ่งบอกออกมาผ่านตัวเลขเศรษฐกิจในแต่ละสัปดาห์ ข้อมูลจากกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาแสดงให้เห็นตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยใหม่ MoM ในเดือนเมษายน ที่ปรับตัวลดลงสู่จุดต่ำสุดในรอบสองปี เช่นเดียวกัน ตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสองในเดือนเมษายนก็ปรับตัวลดลง ในขณะที่อัตราดอกเบี้ย และอัตราดอกเบี้่ยของการจำนองที่ดินกลับปรับตัวสูงขึ้น แม้แต่ข้อมูลจากสมาคมคนสร้างบ้านของสหรัฐฯ ก็ลงไปสร้างจุดต่ำสุดในรอบสองปี
การเคหะและอสังหาริมทรัพย์มีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจสหรัฐฯ ประมาณ 65% ของที่อยู่อาศัยที่ถูกครอบครองนั้นทำให้บ้านเป็นแหล่งความมั่งคั่งในครัวเรือนจำนวนมาก และการก่อสร้างบ้านถือเป็นงานบริการหลักในการจ้างงาน ในวิกฤตการณ์ทางการเงินในปี 2008/09 ก็เกิดมาจากความผิดพลาดในตลาดที่อยู่อาศัย จนนำมาสู่ชื่อยุคของภาวะถดถอยครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เป้นปัจจัยกดดันทองคำในตอนนี้ก็คือธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve) ธนาคารกลางมีแนวโน้มที่จะคงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนมิถุนายน แทนที่จะปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.25%
เมื่อนักลงทุนเริ่มชินกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลงจาก 105 จุดหรือจุดสูงสุดในรอบยี่สิบปี และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีก็ได้ปรับตัวลดลงเกือบ 3.7%
Warren Venketas เขียนในบล็อกบนแพลตฟอร์ม DailyFX ว่า
“ทองคำตอนนี้อยู่ในจุดที่มีปัจจัยหนุนให้ปรับตัวขึ้นไปได้อยู่พอสมควร สิ่งที่ผมให้ความสนใจต่างไปจากนักวิเคราะห์คนอื่นคือตัวเลขพันธบัตรรัฐบาลที่มีการปรับมูลค่าโดยอ้างอิงจากอัตราเงินเฟ้อ อายุ 10 ปี (10-Year TIPS) ได้ปรับตัวลดลงมาสามเดือนติดต่อกัน โดยปกติแล้วสองตลาดนี้จะมีความสัมพันธ์กันในแบบขั้วตรงข้าม การที่ TIPS ลงหมายถึงต้นทุนในการถือครองทองคำก็จะถูกลง ทำให้คนอยากมาถือครองทองคำมากขึ้น”
“อย่างไรก็ตาม” เขากล่าวปิดท้าย “ตอนนี้ขาขึ้นทำเร็จแล้วหนึ่งก้าวในแง่ของการทำราคาปิดยืนเหนือ $1,850 ซึ่งเป็นระดับราคาจิตวิทยา แต่ผมจะยังไม่วางคำสั่งซื้อ จนกว่าราคาทองคำล่วงหน้าจะทำราคาปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย SMA 200 วันได้ นั่นจึงจะเป็นสัญญาณยืนยันการปรับตัวขึ้นต่อของราคาทองคำ”