เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ ในช่วงที่กองทหารรัสเซียกำลังรวบรวมกำลังตามจุดต่างๆ ของชายแดนยูเครน และความเป็นไปได้ที่รัสเซียจะเปิดฉากโจมตีกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักรได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อธนาคาร ผู้มีอำนาจของรัสเซียและคนใกล้ชิดกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน
เพียงไม่กี่วันหลังจากรัสเซียบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ธนาคารรัสเซียก็ถูกถอดออกจากระบบ SWIFT ซึ่งเป็นระบบการทำธุรกรรมระหว่างธนาคารทั่วโลก นอกจากนี้ ชาติตะวันตกยังได้คว่ำบาตรธนาคารกลางของรัสเซีย เพื่อป้องกันไม่ให้มีการชำระบัญชีเงินสำรองต่างประเทศจำนวน 630 พันล้านดอลลาร์ และถือเป็นการชดเชยการคว่ำบาตรที่เพิ่มขึ้น
จากมาตรการคว่ำบาตรดังกล่าว ทำให้ค่าเงินรูเบิลของรัสเซียทรุดตัวลงระหว่างวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 7 มีนาคม ร่วงลงมากถึง 104.7% เมื่อเทียบเป็น USD/RUB พบว่านั่นคือแตะจุดต่ำสุดตลอดกาลที่ 143.000 การอ่อนค่าของสกุลเงินรูเบิลเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความเปราะบางของสกุลเงินรัสเซีย อันที่จริง การกล่าวสุนทรพจน์ในช่วงเวลานั้นของประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ ได้มีการเยาะเย้ยรูเบิลรัสเซียว่าเงินนั้นถูกลดทอนมูลเป็น "เศษหินหรือก้อนอิฐ" ไปแล้ว
อย่างไรก็ตามสัปดาห์นี้ ดูเหมือนว่าค่าเงินรูเบิลสามารถลบคำสบประมาทเหล่านั้นออกไปได้ รูเบิลได้ขจัดขาลงในช่วงนั้นทั้งหมด และวิ่งกลับสู่ระดับเดิมก่อนการรุกรานของยูเครน หมายความว่าการคว่ำบาตรจากตะวันตกนั้นไม่ได้ผลใช่หรือไม่?
แอนโธนี่ บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า ทางการรัสเซียกำลังทำงานอย่างหนัก วิ่งเต้นอยู่เบื้องหลังฉากการคืนชีพของสกุลเงินรูเบิล พวกเขาเข้าควบคุมกิจการบางอย่าง เพื่อกระตุ้นค่าเงินของประเทศอย่างเกินจริง บลิงเคนกล่าวว่า "ผู้คนกำลังถูกห้ามไม่ให้ขนรูเบิลออก และความจริงของละครฉากนี้จะถูกเผยออกมาในไม่ช้า” อย่างไรก็ตาม คำพูดของบลิงเคนยังไม่สามารถหาแหล่งข่าวยืนยันที่ชัดเจนได้
ค่าเงินรัสเซียจะแข็งค่าขึ้นเรื่อยๆ หรือนี่อาจเป็นเวลาที่ดีที่จะเทขาย? เราไม่สามารถรู้ได้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร แต่จากความเห็นของเรา นี่อาจเป็นโอกาสในการช้อนซื้อ เพราะการเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วถึง 104% ในเวลาประมาณสองสัปดาห์ เทรดเดอร์จึงให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นอย่างมาก ดังนั้นสำหรับตอนนี้เราคาดการณ์ว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นแนวโน้มขาขึ้น สิ่งเหล่านี้สะท้อนออกมาผ่านกราฟในรูปประกอบด้านล่าง
หลังจากที่ USD/RUB ดิ่งลง ราคาก็กลับมาอยู่ในแนวโน้มขาขึ้นตั้งแต่กลางปี 2014 ซึ่งบ่งชี้ว่าอุปสงค์ของเงินดอลลาร์เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเงินรูเบิล นอกจากนี้ ราคากลับสู่ระดับโซนราคาเดิมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2014 เส้นประนั้นแสดงถึงแนวต้านที่แข็งแกร่ง
แต่เมื่ออุปสงค์มีมากกว่าจนล้นอุปทาน นักวิเคราะห์จึงกราฟจะพลิกกลับลงมาเพื่อทดสอบแนวรับ กราฟได้ปรับตัวลดลงต่ำกว่าเส้นประที่ 80.00 แต่ก็ทำได้แค่วันเดียวเท่านั้น แม้ว่าระดับแนวระบ 80 จะรั้งไม่ไหว แต่ราคาก็ได้โอกาสกลับลงมาทดสอบเส้นขาขึ้นระยะยาวอีกครั้ง
หากพิจารณาทั้งสองเส้นรวมกัน (เส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นระยะยาวและเส้นประ) จะเห็นว่าทั้งสองกำลังพยายามสร้างกรอบสามเหลี่ยมลู่ขึ้น (Ascending Triangle) ซึ่งตามตำราแล้ว นี่คือโครงสร้างสำหรับการสร้างขาขึ้น สามเหลี่ยมรูปแบบนี้มักจะเกิดขึ้นตอนอุปสงค์มีมากกว่าอุปทาน ตามทฤษฎีสามเหลี่ยมนี้อาจต้องใช้เวลาพัฒนาอีกหลายเดือน
เหตุการณ์นี้จึงน่าสนใจมากสุดท้ายแล้วกราฟจะออกมาอย่างไร หากรูปแบบของสามเหลี่ยมนี้เป็นไปตามทฤษฎี เท่ากับว่ากราฟ USD/RUB จะสามารถกลับขึ้นทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลได้ ยิ่งไปกว่านั้น การพุ่งทะยานครั้งล่าสุดได้ขึ้นไปชนกรอบราคาขาขึ้นด้านบน ทำให้เพิ่มโอกาสที่ USD/RUB จะกลับขึ้นสู่จุดสูงสุดมากขึ้น ซึ่งอาจสูงกว่า 120 ด้วยซ้ำ
เมื่อพิจารณาที่อินดิเคเตอร์ จะเห็นว่าเส้นค่าเฉลี่ยยังคงรักษาโครงสร้างที่เป็นขาขึ้นเอาไว้ได้ เส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นแต่ละเส้นจะสูงขึ้นกว่าเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาว ซึ่งแสดงให้เห็นว่าราคามีการปรับตัวดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป เส้น 200 วันที่ก่อนหน้านี้ดูเหมือนว่ากำลังจะเปลี่ยนทรง ก็ได้กลับเข้าสู่ลู่ทางที่ควรจะเป็น ยิ่งเป็นการตอกย้ำว่าขาขึ้นครั้งนี้ยังมีความแข็งแกร่ง
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง สำหรับนักลงทุนขาลง พวกเขาจะรอจนกว่าเทรนด์ไลน์ขาขึ้นตั้งแต่ปี 2014 ถูกเจาะ ก่อนวางคำสั่งขาย แต่ถ้ามีการดีดตัวขึ้น ก็จะวางคำสั่งซื้อ และถ้ากราฟหยุดสะสมแรงที่บริเวณเหนือกว่า 80.0000 ก็จะถือว่าเป็นจุดเข้าสำหรับขาขึ้นด้วยเช่นกัน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะเสี่ยงวางคำสั่งซื้อ หากว่าราคาสามารถลงไปถึงระดับราคา 70.0000 หรือขึ้นยืนเหนือ 80.0000 ได้
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งซื้อทันที หากตัดสินใจเช่นนี้เท่ากับว่าต้องเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงมาแล้ว ดังนั้นการบริหารเงินทุนจึงสำคัญ
ตัวอย่างการเทรด (ขาขึ้น)
- จุดเข้า: 75.0000
- Stop-Loss: 74.7500
- ความเสี่ยง: 2500 จุด
- เป้าหมายในการทำกำไร:80.0000
- ผลตอบแทน: 50,000 จุด
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:20