🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ทั้งๆ ที่เงินเฟ้อร้อนแรง แต่เหล่าผู้วางนโยบายการเงินกลับขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

เผยแพร่ 22/03/2565 10:34

เมื่อพูดถึงผลการประชุมอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อที่สูงจนเกือบแตะ 8% YoY แล้ว นักลงทุนบางคนถึงกับบอกว่าการประชุมครั้งนี้เป็นเรื่อง “ไร้สาระ” ผลการประชุมครั้งนี้ได้ทำให้นายแลร์รี่ ซัมเมอร์ อดีตรัฐมนตรีกระทรวงกลังคลัง ที่ใช้เวลาอยู่ที่มหาลัยฮาเวิร์ดมากกว่าอยู่บ้าน ถูกยกย่องให้กลายเป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่ฉลาดที่สุดในเวลานี้ไปแล้ว

“ความไร้สาระในการประชุมครั้งนี้ไม่ใช่การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ตามที่ตลาดคาด แต่ความไร้สาระของผลการประชุมครั้งนี้คือพวกเขาดันมีความคิดว่าการเติบโตของตลาดแรงงานจะช่วยลดผลกระทบของภาวะเงินเฟ้อได้” - แลร์รี่ ซัมเมอร์ พูดประโยคนี้หลังจากที่เคยสบประมาทธนาคารกลางสหรัฐฯ ไปแล้วว่าการกำหนดอตราการว่างงานเอาไว้ที่ 3.5% ภายในระยะเวลา 3 ปีจะช่วยลดเงินเฟ้อได้ เป็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะคิดอะไรเช่นนี้ออกมาได้

แลร์รี่ ซัมเมอร์ เขียนวิเคราะห์ให้กับสำนักข่าววอชิงตัน โพสต์ ว่าวิธีการแก้ปัญหาที่แท้จริงคือการชิงลดอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่ใช่เอาหลักคิดของนักเศรษฐศาสตร์สำนักเคนท์ ที่เชื่อว่าตลาดแรงงานเป็นพื้นฐานสำหรับการคำนวณอัตราเงินเฟ้อมาใช้ เมื่อวอชิงตัน โพสต์แย้งแลร์รี่ว่าแต่การขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ของ FOMC เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เป็นการลดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงด้วยเช่นกัน แลร์รี่ก็ตอบว่า

“การขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างสุภาพทีละ 0.25% ไม่ได้ทำให้นโยบายการเงินของธนาคารกลางไล่เงินเฟ้อทันเลย เหมือนกับตอนนี้คุณกำลังเอารถตำรวจธรรมดาของรัฐไปไล่จับรถซุปเปอร์คาร์ คำว่าชั่วคราวของประธานเฟดคนปัจจุบันอาจจะหมายถึงอีกสามปีข้างหน้ากว่าที่อัตราดอกเบี้ยจะสามารถขึ้นสูงกว่าเป้าหมายอัตราเงินเฟ้อของเฟดปัจจุบันที่ 2% ก็เป็นได้”

อันที่จริงก่อนที่การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) จะเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แลร์รี่ ซัมเมอร์ก็ได้ออกมาเตือนแล้วว่าถ้าเฟดคิดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยแค่ 0.25% นั่นคือการจุดเริ่มต้นของการวางแนวทางแก้ไขปัญหาที่ผิดพลาด

“ผมเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ได้ประเมินข้อผิดพลาดของตัวเองในปี 2021 เลย พวกเขากำลังวางนโยบายทางการเงินในปีนี้ด้วยรูปแบบการทำงานที่ไม่เหมาะสม และเป็นอันตราย เฟดจะต้องขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% เพื่อให้การสกัดกั้นเงินเฟ้อมีประสิทธิภาพมากกว่าที่ควรจะเป็น”

ในความเห็นของแลร์รี่ แทนที่การขึ้นอัตราดอกเบี่ยอย่างค่อยเป็นค่อยไปจะเป็นการช่วยเศรษฐกิจ มันอาจจะทำให้อเมริกาต้องเจอกับปีที่ stagflation อยู่ที่ระดับ 5% และอัตราการว่างงานอยู่ที่ 5% อย่างแย่ที่สุดคืออเมริกาจะเข้าสู่สภาวะเศรษฐกิจถดถอย ในสถานการณ์ที่ดีที่สุดอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะต้องขึ้นแตะ 2%-3% ให้ได้โดยเร็วที่สุด หมายความว่าอัตราดอกเบี้ยที่เป็นตัวเงินจะต้องอยู่ที่ 5%

ไม่ใช่ว่าผู้ที่อยู่ในธนาคารกลางสหรัฐฯ ทุกคนจะเห็นด้วยกับมติการขึ้นดอกเบี้ย 0.25% ในสัปดาห์ที่แล้ว เจมส์ บลูราร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์แย้งว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่าในการต่อกรกับเงินเฟ้อสูง ที่อ้างอิงจากดัชนีราคาการบริโภคส่วนบุคคลพื้นฐานต่อปี ซึ่งมีตัวเลขอยู่ที่ 5.2% หรือ 320 จุดเบสิสสูงกว่าระดับราคาเป้าหมาย 2%

“ธนาคารกลางสหรัฐฯ ใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว การเติบโตของอัตราเงินเฟ้อทุกวันนี้เร็วกว่าดอกเบี้ยนโยบายที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ เหตุการณ์นี้ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่แท้จริงลดลง FOMC จะต้องดำเนินนโยบายทางการเงินที่รวดเร็วกว่านี้ เพื่อลดอัตราเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ในระดับเป้าหมายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ได้เร็วที่สุด” - เจมส์กระตุ้นให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องรีบทำอัตราดอกเบี้ยให้สูงเกินกว่า 3% ภายในสิ้นปีนี้ให้ได้ ไม่ใช่แค่ 1.875% ตามที่คาดการณ์เอาไว้ในการประชุม

เจมส์ บลูราร์ดเชื่อว่าเศรษฐกิจของอเมริกาฟื้นตัวกลับมาได้มากพอที่จะรับผลกระทบจากการขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากกว่า 0.25% ได้แล้ว อย่างไรก็ตาม บิล กลอส อดีตผู้จัดการกองทุนของ Pimco มีความเห็นที่ต่างออกไป และได้ให้สัมภาษณ์กับ Financial Times เอาไว้ว่า

“การขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เกิน 2.5 ถึง 3% อาจเป็นการทำลายเศรษฐกิจอีกครั้ง ชาวอเมริกันกำลังชินอยู่กับสินค้าลดราคา การอยู่บ้านโดยไม่ต้องทำงานเพราะมีเงินรัฐเลี้ยง แล้วอยู่ดีๆ คุณจะมาขึ้นอัตราดอกเบี้ยฉับพลัน อาจจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากกว่าผลดีก็เป็นได้ ต่อให้สิ้นปี 2023 เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมแล้วเป็น 2.8% ตอนนั้นเศรษฐกิจอเมริกาก็อาจจะยังไม่พร้อมก็ได้”

ในขณะเดียวกัน สภาสูงของสหรัฐอเมริกาพึ่งตัดสิทธิ์ซาราห์ บลูม รัสกิ้น ในฐานะผู้มีสิทธิ์เข้าชิงตำแหน่งเก้าอี้รองประธานเฟดไปเป็นที่เรียบร้อย โจ แมนชิน จากพรรคเดโมแครตออกมาคัดค้านการถูกปัดตกของเธอว่าจะถูกกระทำเพียงเพราะสนับสนุนบริษัทพลังงานฟอซซิลไม่ได้ การหายไปของซาราห์ทำให้ตอนนี้เสียงในสภากลับมามี 50-50 เท่ากันแล้ว

นักวิเคราะห์บางคนตั้งข้อสังเกตว่าเป็นเรื่องแปลกที่เธอถอนตัวออกจากการชิงตำแหน่งครั้งนี้ และเปิดโอกาสให้พรรครีพับลิกันคว่ำบาตรเธอ ไม่ให้ได้รับโอกาสถูกเสนอชื่อเข้าชิงตำแหน่งรองประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ อีก ไม่ว่าการเมืองข้างในจะกำลังเล่นลูกไม้อยู่กันอยู่ และไมว่าเรื่องนี้จะเกี่ยวข้องกับเจอโรม พาวเวลล์หรือไม่ ถ้าสุดท้ายแล้วสิ่งที่เจมส์ บลูราร์ดและปลร์รี่ ซัมเมอร์พูดเป็นจริง เส้นทางการเป็นประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ของเจอโรม พาวเวลล์ คงจบไม่สวยแน่นอน    

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย