จากสถานการณ์สงครามระหว่างรัสเซียยูเครน ที่นำมาสู่การคว่ำบาตรที่หนักที่สุดจากชาติตะวันตกได้ทำให้ราคาทองแดงในช่วงห้าวันล่าสุดทะยานขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลได้ ความต้องการแร่ทองแดงที่มีมากขึ้นสอดคล้องกับระดับปริมาณทองแดงคงคลังในตลาดแลกเปลี่ยนแร่โลหะลอนดอน (LME) ที่ลดลงเหลือ 69,825 ตัน ถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2005
ในตอนนี้ ทองแดงไม่ใช่สินทรัพย์เดียวที่มีราคาเพิ่มขึ้น แต่สินทรัพย์โภคภัณฑ์อื่นๆ อย่างเช่นน้ำมัน นิกเกิล พาลาเดียม ข้าวสาลี ฯลฯ ก็กำลังมุ่งหน้าขึ้นทดสอบจุดสูงสุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินในปี 2008
ที่มา skcharting.com
ประเด็นน่าสนใจคือมีรายงานจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กออกมา ที่ระบุว่าทองแดงมีความแตกต่างจากสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ เพราะหากมองลึกลงไปจริงๆ จะพบว่ารัสเซียไม่ใช่ผู้ผลิตทองแดงหลัก พวกเขามีสัดส่วนอยู่ในผู้ผลิตทองแดงทั่วโลกประมาณ 3.5% ซึ่งถือว่าน้อยกว่านิกเกิลที่รัสเซียมีสัดส่วนการผลิตคิดเป็น 7% แต่ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่ผู้ผลิตหลัก แต่รัสเซียกลับครอบครองแร่ทองแดงเอาไว้ประมาณ 40% เมื่อสงครามเริ่มต้นขึ้น จึงสามารถเข้าใจได้ว่าทำไมราคาทองแดงบนตลาด COMEX เมื่อวันจันทร์จึงสามารถขึ้นสร้างจุดสูงสุดที่ $3,417 ต่อออนซ์ได้
บลูมเบิร์กได้ไปดูข้อมูลของประเทศที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้ผลิตทองแดงหนึ่งในสี่ของโลกอย่างชิลี ซึ่งก็พบบันทึกการส่งออกทองแดงในเดือนมกราคมว่ามีระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่ปี 2011 ถึงกระนั้นสำนักข่าวรอยเตอร์ก็รายงานว่าเพราะรัสเซียมีทองแดงสำรองเอาไว้มาก เมื่อมีสงครามเกิดขึ้น ราคาทองแดงจึงปรับตัวขึ้นตามสินค้าโภคภัณฑ์อื่นๆ ไปด้วย
ถึงแม้ว่าปริมาณการส่งออกทองแดงจากชิลีในตอนนี้จะลดลงจากเดือนมกราคมปี 2021 ประมาณ 7.5% แต่ประธานสมาคมทองแดงของประเทศชิลียังคงเชื่อมั่นว่าระดับการผลิตทองแดงจะฟื้นตัวกลับมาอยู่ในระดับเดียวกันกับปีที่แล้วได้ในไม่ช้า ข้อมูลนี้สอดคล้องกับการวิเคราะห์ของนายดิเอโก เฮอนันเดส CEO ของ Sonami หนึ่งในยักษ์ใหญ่ของแร่ทองแดงในชิลี ที่เชื่อว่าระดับการส่งออกทองแดงจากชิลีที่ลดลงเป็นเพียงปัจจัยชั่วคราวเท่านั้น
คำถามสำคัญสำหรับนักลงทุนในตลาดทองแดงตอนนี้จึงมีอยู่สองประเด็นใหญ่ๆ ด้วยกัน คำถามแรกคือปัจจัยอะไรที่จะเป็นตัวทำให้การผลิตของทองแดงกลับขึ้นมาอยู่ในระดับเดียวกันกับปี 2021 ได้? และถ้าหากสงครามรัสเซียยูเครนยืดเยื้อไปนานจนฉุดให้เศรษฐกิจทั้งโลกตั้งเข้าสู่สภาวะถดถอย เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อราคาทองแดงอย่างไร?
มาร์ก ฮัลเบิร์ก นักวิเคราะห์จาก MarketWatch ให้ความเห็นเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่าแม้ทองแดงจะมีส่วนกับการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ในตลาดหุ้นอเมริกาในช่วงปี 1984 และ 2020 แต่มูลค่าการเคลื่อนไหวในช่วงเวลาเดียวกันนั้นก็ยังถือว่าน้อยกว่าเมื่อเทียบกับความเคลื่อนไหวของดัชนีเอสแอนด์พี 500 นอกจากนี้เขายังเชื่อว่าความต้องการทองแดงในช่วงระยะสั้นอาจจะไม่กลับมาอย่างเห็นได้ชัด ตราบใดที่สถานการณ์รัสเซียยูเครนยังไม่สงบ และยังมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากธนาคารกลางทั่วโลก ที่จะชะลอการเติบโตของราคาทองแดง
Julius Baer นักวิเคราะห์จาก Carsten Menke มองไปยังประเทศที่นำเข้าทองแดงมากที่สุดอย่างประเทศจีน และก็พบว่ามีพฤติกรรมน่าสงสัยบางอย่างเกิดขึ้นที่นั่นนับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 เป็นต้นมา รายงานในช่วงกลางเดือนมกราคมของเขาเขียนว่า การลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศจีนหดตัว กิจกรรมการผลิตที่ต้องใช้ทองแดงเป็นจำนวนมากก็ดูเหมือนจะชะลอตัวลงในเดือนธันวาคม นอกจากนี้ ปริมาณทองแดงที่ยังไม่ได้ขึ้นรูปของจีนก็มีตัวเลขเพิ่มขึ้น 9.6% ในช่วงสองเดือนแรกของปี 2022 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปี 2021
ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่กล่าวมานี้ จึงนำมาซึ่งข้อสรุปว่านักลงทุนต้องจับตาดูตลาดทองแดงในช่วงสองสามเดือนนี้อย่างใกล้ชิด เพราะทองแดงอาจจะเป็นสินค้าโภคภัณฑ์ตัวแรกๆ ที่ส่งสัญญาณการชะลอตัวทางเศรษฐกิจออกมา
กราฟรูปนี้คือสัญญาซื้อขายทองแดงล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนพฤษภาคมบนตลาด COMEX ที่สามารถขึ้นไปทดสอบจุดสูงสุดตลอดกาลได้ที่ $4.7050 ก่อนที่จะขึ้นสร้างจุดสูงสุดตลอดกาลใหม่หลังจากนั้นที่ $5.0395 นักวิเคราะห์ทางเทคนิค Sunil Kumar Dixit จาก skcharting.com ให้ความเห็นว่า
“การย่อตัวของราคาทองแดงอาจจะบ่งบอกถึงการขาดแรงสนับสนุนจากขาขึ้นก็จริง แต่การย่อตัวนี้อาจจะเป็นเพียงการไซด์เวย์เพื่อรอขาขึ้นในอนาคตอันใกล้ ขาขึ้นรอบนี้จะต้องแสดงความแข็งแกร่งด้วยการขึ้นยืนเหนือ $5.14 จึงจะมีโอกาสปรับตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้านถัดไปที่ $5.46 หรือระดับ 161.8% ของเครื่องมือ Fibonacci สำหรับตอนนี้ผมเชื่อว่าราคาทองแดงจะวิ่งอยู่ในกรอบระหว่าง $4.65 -$5.00”
“อย่างไรก็ตาม” เขากล่าวต่อ “หากว่าราคาทองแดงไม่สามารถขึ้นยืนเหนือแนวต้านจิตวิทยาที่ $5.00 ได้ และถ้ายิ่งกราฟรายวันมีราคาปิดต่ำกว่า $4.75 นั่นอาจจะเป็นสัญญาณของการพักตัวในระยะสั้น หากลงมาต่ำกว่า $4.75 แล้ว มีโอกาสที่จะได้เห็นราคาทองแดงลงไปถึง $4.60 (บริเวณกึ่งกลางของโบลิงเจอร์ แบนด์) $4.45 และ $4.3 ตามลำดับ หากว่าสัปดาห์นี้ราคาทองแดงมีราคาปิดต่ำกว่า $4.30 ให้เปลี่ยนมุมมองจากการพักตัวเป็นขาลงได้เลย โดยพิจารณาเป้าหมายราคาเอาไว้ที่ $4.04 และ $3.50”