การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสัปดาห์ที่แล้วถูกขโมยซีนไปด้วยสถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซีย-ยูเครน และรายงานตัวเลขเงินเฟ้ออเมริกา ที่ยังคงรักษาสถิติสูงที่สุดในรอบ 40 ปีเอาไว้ได้อย่างเหนียวแน่น
รายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ในเดือนมกราคมหรือหนึ่งในสี่มาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นจาก 7.0% กลายเป็น 7.5% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ การที่ตัวเลขออกมาเช่นนี้สร้างแรงกดดันในตลาดลงทุน ด้วยความกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะต้องเร่งทำนโยบายการเงินให้มีความตึงตัวมากขึ้นกว่าเดิม
ในขณะเดียวกัน สถานการณ์ระหว่างรัสเซียและยูเครนทำท่าว่าจะมีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ นอกจากก่อนหน้านี้ที่สหรัฐฯ ได้ประกาศให้ชาวอเมริกันรีบออกจากยูเครน ตอนนี้หลายๆ ประเทศได้เริ่มออกมาดำเนินการตามสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นอังกฤษ เยอรมนี ญี่ปุ่น ลัตเวีย นอร์เวย์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ ต่างก็สั่งให้ประชาชนอพยพออกจากยูเครนอย่างเร่งด่วนแล้ว ในช่วงเวลาที่ต้องจับตาความเปลี่ยนแปลงในเชิงภูมิรัฐศาสตร์อย่างใกล้ชิด ในบทความนี้ เรายังคงมีหุ้นสามตัวที่น่าสนใจประจำสัปดาห์มาฝากอีกเช่นเคย
1. NVIDIA
บริษัทผู้ผลิตการ์ดจอและชิปประมวลผลยักษ์ใหญ่ ‘เอ็นวีเดีย’ (NASDAQ:NVDA) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณ 2022 ของไตรมาสที่ 4 ในวันพุธที่ 16 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้เอ็นวีเดียจะสามารถทำกำไรได้ $7,410 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.22
เอ็นวีเดียเป็นผู้ผลิตชิปกราฟิกรายใหญ่ที่สุด ที่ใช้ในคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) และการเล่นเกม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา NVDA ประสบความสำเร็จในการปรับเทคโนโลยีให้สามารถใช้งานได้กับตลาดปัญญาประดิษฐ์ กลายเป็นไลน์ธุรกิจใหม่ ที่สร้างมูลค่าเพิ่มคิดเป็นเงินหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ความต้องการสินค้าทางเทคโนโลยีที่ยังคงเพิ่มขึ้นไม่มีหยุด ทำให้สองปีล่าสุดหุ้นเอ็นวีเดียสามารถทะยานขึ้นได้มากกว่า 200% กลายเป็นหนึ่งในยักษ์ใหญ่ของวงการเทคโนโลยีที่มีอิทธิพลที่สุดแห่งหนึ่งของโลก อย่างไรก็ตาม ปีนี้หุ้นเอ็นวีเดียไม่สามารถรักษาขาขึ้นที่เคยทำมาตลอดได้ และต้องปรับตัวลดลง 7% เนื่องจากนักลงทุนย้ายเงินลงทุนจากหุ้นกลุ่มเติบโต ไปยังหุ้นกลุ่มเน้นมูลค่ามากขึ้น ล่าสุดหุ้นเอ็นวีเดียมีราคาซื้อขายอยู่ที่ $239.49
2. Cisco Systems
บริษัทผู้ผลิตฮาร์ดแวร์สำหรับการวางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ‘ซิสโก’ (NASDAQ:CSCO) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณ 2022 ของไตรมาสที่ 2 ในวันเวลาเดียวกันกับเอ็นวีเดีย นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ซิสโกจะสามารถทำกำไรได้ $12,660 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.81
ภายใต้การบริหารของ CEO คนปัจจุบัน Chuck Robbins บริษัทซิสโกได้เปลี่ยนตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ต และเน้นไปที่การขายซอฟต์แวร์แทน ซิลโก้ได้บอกกับนักวิเคราะห์ถึงการคาดการณ์ว่ากำไรจากการทำระบบสมัครสมาชิกรายเดือนจะเพิ่มขึ้นแตะ 50% ได้ภายในปีงบประมาณ 2025
การเปลี่ยนแปลงไปเป็นผู้ให้บริการด้านอินเตอร์เน็ตนั้นรวมไปถึงการวางระบบเครือข่ายสำหรับการใช้งานอินเตอร์เน็ตในอนาคต ทั้งในแง่ของการวางเส้นออปติก ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับ 5G การทำงานผสมระหว่างอนาล็อกและดิจิทัลอย่างเช่น Webex เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เริ่มต้นปี 2022 มาจนถึงปัจจุบัน หุ้นซิสโกปรับตัวลดลงมาแล้วประมาณ 15% มีราคาซื้อขายเมื่อวันศุกร์อยู่ที่ $53.90
3. Airbnb
เว็บไซต์แพลตฟอร์มผู้ให้บริการที่พักอาศัยสำหรับนักเดินทาง ‘แอร์บีเอ็นบี’ (NASDAQ:ABNB) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าตัวเลขผลกำไรของแอร์บีแอนด์บีในไตรมาสนี้จะออกมาอยู่ที่ $1,460 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.044
หากเทียบในแง่ของการฟื้นตัวจากวิกฤตโควิด แอร์บีแอนด์บีถือว่าทำได้ดีกว่าคู่แข่งมาก ถึงนักท่องเที่ยวจะยังไม่กล้าเดินทางไปต่างประเทศมากนัก แต่แอร์บีแอนด์บีก็ยังได้ประโยชน์จากผู้ใช้บริการ ที่เลือกจะเดินทางไปพักผ่อนในสถานที่ใกล้บ้านมากขึ้น บางคนใช้สถานที่พักผ่อนเหล่านี้เป็นที่ทำงานและพักผ่อนไปในเวลาเดียวกัน เมื่อเดือนกันยายน แอร์บีแอนด์บีได้ประกาศต้อนรับผู้คนมากกว่าพันล้านคนกลับเข้าสู่วงการท่องเที่ยวอีกครั้ง
เมื่อความเป็นไปได้ในการทำมาตรการคุมเข้มทางสังคมจากโควิดมีแนวโน้มว่าจะลดลง แอร์บีแอนด์บีจึงเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ผลกำไรในช่วงฤดูใบไม้ผลิ และซัมเมอร์ของตัวเองปีนี้เพิ่มขึ้น ราคาหุ้นของแอร์บีแอนด์บีปีนี้มีการขยับเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และมีราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ $166.53