ในโลกของการลงทุน มีคำๆ หนึ่งที่เอาไว้เรียกพฤติกรรมการกลับตัวของแนวโน้มแบบฉับพลันว่า “การกลับตัวแบบตัววี (V-Shape)” ซึ่งตอนนี้ดูเหมือนว่าการกลับตัวแบบตัววีนั้นจะกำลังเกิดขึ้นกับกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติของสหรัฐอเมริกา ที่ได้เปลี่ยนราคาก๊าซธรรมชาติจากขาขึ้นเป็นลงอย่างรวดเร็ว ในการเปิดตลาดซื้อขายก๊าซธรรมชาติล่วงหน้า ที่ราคา ณ ท่าเรือเฮนรี่นั้นแสดงให้เห็นขาลงของก๊าซธรรมชาติตั้งแต่ต้นสัปดาห์มาจนถึงเมื่อวานนี้ 12% ปรับตัวลดลงเพิ่มจากสัปดาห์ก่อน 1.5% และจากขาขึ้นในสัปดาห์ก่อนหน้านั้น 16%
สิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดเกี่ยวกับการสวิงของราคาก๊าซธรรมชาติในครั้งนี้คือกำลังการผลิตก๊าซธรรมชาติ อุณหภูมิที่อุ่นขึ้นส่งผลให้ความต้องการก๊าซธรรมชาติลดลง ทั้งๆ ที่เดือนก่อนหน้านี้อเมริกายังต้องอยู่ภายใต้สภาพอากาศที่หนาวเหน็บ แดน เมเยอร์ นักวิเคราะห์และที่ปรึกษาด้านการลงทุนในก๊าซธรรมชาติจาก Gelber & Associates ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ในตลาดก๊าซธรรมชาติเมื่อวันพุธว่า
“กำลังการผลิตที่ฟื้นตัวกลับมาหลังจากอากาศหนาวจากไปมีส่วนหลักกดดันราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าให้ปรับตัวลดลง 5% หลังจากที่กำลังการผลิตเคยอยู่ในจุดต่ำสุดที่ 88 bcf/d มาในช่วงก่อน การกลับมามีตัวเลข 93 bcf/d สอดคล้องไปกับการกลับตัวแบบตัววีของราคา”
แม้ว่าการวิเคราะห์ของแดนไม่ได้ส่งผลกระทบต่อการรายงานปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังจากสำนักบริหารสารสนเทศพลังงานของสหรัฐอเมริกา (EIA) ที่นับถึงวันที่ 4 กุมภาพันธ์ และเพิ่มขึ้นมาสี่สัปดาห์ติดต่อกัน แต่การวิเคราะห์ของเขากับเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับตัวเลขจาก EIA ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ปรากฎว่าปริมาณก๊าซธรรมชาติคงคลังมีตัวเลขอยู่ที่ -222B เพิ่มขึ้นจากครั้งก่อนที่ -268B และตรงกันกับที่นักวิเคราะห์ของ Investing.com วิเคราะห์ไว้
ที่มา: Gelber & Associates
ตัวเลข 222 bcf ทำให้ตอนนี้มีการดึงก๊าซธรรมชาติออกจากคลังไป 174 bcf เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้า 150 bcf ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยการดึงก๊าซธรรมชาติคงคลังออกในรอบห้าปีล่าสุด (2017-2021) ในสัปดาห์ก่อนหน้านั้นที่นับมาจนถึงวันที่ 28 มกราคม มีการดึงก๊าซธรรมชาติสำรองออกจากคลังไป 268 bcf ถือเป็นปริมาณที่มากที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหน้าหนาวในเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว
การคำนวณที่ถูกต้องของนักวิเคราะห์จาก Investing.com ทำให้ตอนนี้ปรืมาณก๊าซธรรมชาติสำรองทั่วทั้งอเมริกามีตัวเลขลดลงมายัง 2.191 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต คิดเป็นการปรับตัวลดลง 9.3% ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในรอบห้าปี และต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว 17.3%
ในขณะเดียวกัน ข้อมูลสภาพอากาศจาก Refinitiv เผยว่าสัปดาห์ที่แล้วอากาศนั้นถือว่าหนาวมากกว่าปกติ เมื่อเทียบจากตัวเลขการวัดค่าความร้อนต่อช่วงเวลาหนึ่ง (HDD) ที่ออกมา 212 HDD เทียบกับค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปีของช่วงเวลาเดียวกันที่ 190 HDD
ถึงแม้ว่าตัวเลขที่ออกมาถือเป็นเรื่องดี แต่ความคาดหวังของนักลงทุนที่มีต่ออนาคตจะกลายมาเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาก๊าซธรรมชาติล่วงหน้าแทน การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่รวดเร็ว ได้ทำให้ตัวเลขคาดการณ์ความต้องการก๊าซธรรมชาติลดลง 9 bcf ยิ่งช่วงนี้ถือว่าอยู่ใกล้กับช่วงปลายหน้าหนาวแล้ว นักวิเคราะห์ยิ่งคลายความกังวลว่าคงจะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศเป็นหนาวฉับพลันแบบในปี 2021 ขึ้นอีก
ปรากฎการณ์โพลาร์วอร์เท็กซ์ในเดือนกุมภาพันธ์ 2021 เป็นช่วงที่พายุฤดูหนาวและน้ำแข็งที่หนักที่สุดของสหรัฐนับตั้งแต่โพลาร์วอร์เท็กซ์ปี 2014 สร้างผลกระทบอย่างกว้างขวางทั่วทั้งสหรัฐอเมริกา เม็กซิโกตอนเหนือ และบางส่วนของแคนาดา พายุสร้างความหายนะ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเท็กซัส ทำให้เกิดไฟฟ้าดับ ทำให้อ่างน้ำมันและก๊าซเพอร์เมียนบางส่วนแข็งตัว และคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 200 คน เมื่อสัปดาห์ที่แล้วมีความกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ซ้ำในเท็กซัส แม้ว่าความเป็นไปได้จะน้อยมากก็ตาม
“สภาพอากาศที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ในช่วงปลายหน้าหนาวแบบนี้ทำให้ราคาก๊าซธรรมชาติที่ท่าเรือเฮนรี่ลดลงจาก $5 ลงมายังยังจุดต่ำสุดของสัปดาห์ที่แล้วที่ $3.98 การคาดการณ์ก่อนหน้านี้ระบุว่าเราไม่สามารถอ้างอิงทุกอย่างได้จากปี 2013/14 เว้นแต่การคาดการณ์ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคมจะมีอากาศหนาวฉับพลันเกิดขึ้น แต่ถ้าเป็นกรอบห้าปี หรือฤดูหนาวปีนี้ 2021/22 การที่ราคาก๊าซธรรมชาติยังสวิงอยู่ในกรอบนี้ก็ถือว่ายังสามารถยอมรับได้” - แดน เมเยอร์ กล่าวปิดท้าย