ทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ อาจเป็นปัจจัยกดดันทองคำ

สรุป ราคาทองคําระหว่างวันแกว่งตัวในกรอบ 1,814.80-1,823.15 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยทองคํามีการเคลื่อนไหวในทิศทางไซด์เวย์ขาลง หลังจากเมื่อวานนี้ราคาทองคําได้ ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาถึง 14.30 ดอลลาร์ต่อออนซ์ จากแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและชาติตะวันตก นอกจากนี้ยังได้รับแรง หนุนจากแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ ขณะที่วันนี้ราคาทองคํามีปัจจัยบวกจากรัฐแคลิฟอร์เนียเตรียมยุติมาตรการบังคับให้ประชาชน ต้องสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ภายในอาคาร ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ. เป็นต้นไป หลังยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ลดลงมากในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ประกอบกับดัชนีความเชื่อมั่น ธุรกิจภาคบริการของญี่ปุ่นลดลงในเดือนม.ค.เป็นครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ด้านธนาคารกลางจีน (PBOC) เปิดเผยว่า การชําระเงินแบบไม่ใช้เงินสดผ่านธนาคารต่างๆ ในช่วง เทศกาลตรุษจีน เพิ่มขึ้น 16.2% เมื่อเทียบปีต่อปี รวมถึงตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวขึ้นจากแรงซ้อนซื้อของนักลงทุน ขณะจับตาตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐในสัปดาห์นี้ เพื่อดูทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประเด็นที่กล่าวมานี้อาจเป็นปัจจัยที่มากดดันราคาทองคําได้ สําหรับวันนี้แนะนําให้นักลงทุนติดตาม ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐ มีการเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของธุรกิจขนาดย่อมเดือนม.ค.จากNFIB,ดุลการค้าเดือนธ.ค.และการสํารวจความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจาก IBD/TIPP ทั้งนี้หากราคาไม่หลุด 1,810-1,806 ดอลลาร์ต่อออนซ์แนะนําเปิดสถานะซื้อ ทั้งนี้ควรติดตามการเคลื่อนไหวของราคา โดยหากราคาดีดตัวขึ้นจนสร้างระดับสูงสุด ใหม่จากวันก่อนหน้าได้สามารถถือสถานะซื้อต่อเพื่อรอทํากําไรบริเวณแนวต้าน 1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา เปิดสถานะซื้อ 1,810-1,806

จุดทํากําไร ขายทํากําไร $1,834

ตัดขาดทุน ตัดขาดทุนสกานะซื้อหากหลด $1,788

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th