รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

3 หุ้นเด่นประจำสัปดาห์: Pfizer, Disney, Peloton

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 07/02/2565 13:49
อัพเดท 02/09/2563 13:05

ตลาดลงทุนสหรัฐอเมริกาในสัปดาห์ที่แล้วมีความผันผวนเป็นอย่างมาก ทั้งรายงานตัวเลขการจ้างงานที่เพิ่มขึ้น พร้อมกันกับตัวเลขการว่างงาน และรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่สร้างความตกใจให้กับตลาดลงทุนอยู่พอสมควร 

ไฮไลท์ของสัปดาห์ที่ผ่านมา คงจะหนีไม่พ้นขาลงของหุ้นบริษัทเมต้า (NASDAQ:FB) ที่รวงลงมากถึง 27% ภายในวันเดียว เช่นเดียวกันกับหุ้นของบริษัทเพย์พาล (NASDAQ:PYPL) ขาลงของหุ้นทั้งสอง ถือว่าสวนทางกับการทะยานขึ้น 13.5% ของหุ้นแอมาซอน (NASDAQ:AMZN) เอาชนะตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ไปได้ ในสัปดาห์นี้ นอกจากการรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ที่เป็นหนึ่งในมาตรวัดเงินเฟ้อของธนาคารกลาง การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนก็ยังคงน่าสนใจ แต่จะมีอะไรบ้าง เราจะพาไปดู


1. Pfizer

บริษัทผู้ผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 “ไฟเซอร์” (NYSE:PFE) จะรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 4 ปี 2021 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ ก่อนตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ไฟเซอร์จะสามารถทำกำไรได้ $24,160 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $0.87PFE Weekly TTM

ปี 2021 ที่ผ่านมาถือว่าเป็นปีทองของหุ้นไฟเซอร์อย่างแท้จริง ด้วยผลงานขาขึ้นมากกว่า 60% จากยอดขายวัคซีน mRNA ที่เป็นที่ต้องการเพื่อต่อสู้กับการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก วัคซีนต้านโควิดของไฟเซอร์ถือเป็นที่ยอมรับจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐอเมริกา (FDA) และทั่วโลก ตอนนี้พวกเขากำลังอยู่ระหว่างการทำให้ยาเม็ดต้านโควิดได้รับการอนุมัติจาก FDA ให้ได้

นักวิเคราะห์เชื่อว่า Paxlovid ยาเม็ดต้านโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์จะกลายเป็นกำลังสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 ในปี 2022 ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงระดับบุคคล ให้ไม่ต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล มีรายงานในเดือนพฤศจิกายนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ได้สั่งซื้อยาเม็ดต้านโควิดนี้แล้วคิดเป็นเงินเกือบ $5,300 ล้านเหรียญสหรัฐ อย่างไรก็ตาม ปีนี้หุ้นไฟเซอร์กลับปรับตัวลดลงมาแล้ว 10% ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน มีราคาซื้อขายหุ้นล่าสุดอยู่ที่ $53

2. Disney

บริษัทเจ้าของอาณาจักรมิกกี้เมาส์ (NYSE:DIS) จะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณในไตรมาสที่ 1 ปี 2022 ในวันพุธที่ 9 กุมภาพันธ์หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด นักวิเคราะห์คาดว่าไตรมาสนี้ดิสนีย์จะสามารถทำกำไรได้ $20,270 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นที่ $0.73

DIS Weekly TTM

อุปสรรคมากมายที่เกิดขึ้นในปี 2021 หรือปีแห่งการฟื้นตัวสร้างแรงกดดันต่อการเติบโตให้หุ้นดิสนีย์ เมื่อการรายงานผลประกอบการในเดือนพฤศจิกายน ดิสนีย์รายงานว่ายอดผู้สมัครสมาชิกใช้บริการภาพยนตร์สตรีมมิ่งเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาด สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนในแง่ของอัตราการเติบโตในอนาคต เพราะดิสนีย์มีเป้าตั้งไว้ว่าต้องการมียอดผู้ใช้งานดิสนีย์พลัสให้ได้อีก 260 ล้านคนภายในปี 2024

Bob Chapek ผู้ดำรงตำแหน่ง CEO ของดิสนีย์ได้บอกกับนักลงทุนในเดือนพฤศจิกายนว่ามีโอกาสน้อยมากที่ยอดผู้สมัครสมาชิกดิสนีย์พลัสจะกลับไปเติบโตอย่างรวดเร็ว นักลงทุนอาจจะต้องรอไปจนถึงช่วงไตรมาสที่สามที่สี่ของของปีงบประมาณ 2022 ในปี 2021 มูลค่าของหุ้นดิสนีย์ปรับตัวลดลงมามากกว่า 20% มีราคาปิดเมื่อวานนี้อยู่ที่ $142.02

3. Peloton

บริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับเครื่องออกกำลังกายเพโลตอน (NASDAQ:PTON) อาจจะได้แรงหนุนขาขึ้นดันราคาหุ้นขึ้นมาในการเปิดตลาดซื้อขายวันนี้ หลังจากมีกระแสข่าวรายงานเมื่อวันศุกร์ว่ามีโอกาสที่บริษัทเพโลตอนจะถูกซื้อไปโดยบริษัทยักษ์ใหญ่ ที่กำลังเป็นข่าวอยู่ในตอนนี้มีบริษัทแอมาซอนและไนกี้ (NYSE:NKE)

PTON Weekly TTM

ผู้ที่จุดกระแสข่าวนี้ขึ้นมาคือนิตยสาร Wall Street Journal ในข่าวระบุว่าบริษัทแอมาซอนกำลังเจรจากับที่ปรึกษาถึงความเป็นไปได้ของดีลนี้ หลังจากมีรายงานของ WSJ ออกมา หุ้นเพโลตอนในวันศุกร์ก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นไปได้มากกว่า 30% มีราคาปิดอยู่ที่ $24.60 ซึ่งถือว่ายังต่ำกว่าราคา IPO ที่ $29 ในเดือนกันยายนปี 2019

ในช่วงของการระบาดโควิดเมื่อสองปีก่อน ผู้ใช้บริการของเพโลตอนเคยเติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก ในวันที่ผู้คนถูกล็อกดาวน์ ไม่สามารถออกไปฟิตเนสได้ มีท่อนหนึ่งที่รายงานอยู่ใน WSJ เขียนเอาไว้ว่า

“ในช่วงเวลาที่เลวร้ายนี้ เป็นไปได้ที่เพโลตอนอาจจะยอมให้แอมาซอนหรือบริษัทที่จะดีลด้วยสามารถเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานหลักล้านคนของพวกเขาได้ หากเป็นเช่นนั้นจริง วงการสุขภาพก็จะสามารถพัฒนาเทคโนโลยี ที่ตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ถูกต้องแม่นยำมากขึ้นไปอีก”

นอกจากข่าวความเป็นไปได้ในการควบรวมบริษัท เพโลตอนจะรายงานผลประกอบการแบบปีงบประมาณของไตรมาสที่ 2 ปี 2022 ในวันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ หลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิดทำการ นักวิเคราะห์คาดว่าตัวเลขกำไรในไตรมาสนี้จะอยู่ที่ $1,160 ล้านเหรียญสหรัฐ และมีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ $1.18

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย