Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET สัปดาห์นี้ (31 ม.ค. ถึง 4 ก.พ.) จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,655 จุด โดยสัปดาห์ที่ ผ่านมา SET ปิดที่ 1,639.51 จุด ลดลง 13.22 จุด (-0.8%) โดยมีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 8.37 หมื่นล้านบาท ลดลง 7.9%WoW ตลาดยังเผชิญแรงกดดันจากการดําเนินนโยบายการเงินของเฟดที่ Hawkish มากกว่าที่ตลาดคาด แม้ SET จะปรับลงน้อยกว่าภูมิภาค แต่ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากแรงหนุนของราคาน้ํามันดิบที่ปรับเพิ่ม ทําให้หุ้นในกลุ่มพลังงานยังมีแรง ซื้อหนุนตลาด อย่างไรก็ตามการเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทที่กลับมาอ่อนค่าอย่างรวดเร็วในช่วงปลายสัปดาห์ สะท้อนถึงการ เคลื่อนไหวของ Fund flow ที่เริ่มไหลออก หลังการประชุม FOMC เราเชื่อว่าแรงกดดันจากการรายงานเงินเฟ้อสหรัฐฯ (PCE) เดือน ธ.ค. ที่ยังคงปรับเพิ่มทําจุดสูงสุดในรอบ 30 ปี จะยิ่งทําให้เฟต ดําเนินนโยบายการเงิน Hawkish มากขึ้น กลยุทธ์ การลงทุน เราแนะนําเก็งกําไร หุ้นในกลุ่ม Oil Play เราเลือก PTTEP และ SPRC และแนะนําลงทุนหุ้นในกลุ่มที่อิงเศรษฐกิจ ในประเทศเป็นหลักของพอร์ต โดยเฉพาะหุ้นที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและกําลังซื้อในประเทศ เราเลือก KBANK (BK:KBANK) HMPRO CPALL (BK:CPALL) CPN TU AOT (BK:AOT) wa SHR สศค. มีมุมมองเป็นบวกต่อเศรษฐกิจไทยปี 65 เราเลือก KBANK HMPRO CPALL CPN TU AOT และ SHR เป็นหุ้นต่น - สํานัก นโยบายเศรษฐกิจมหภาค (สศค.) รายงานภาวะเศรษฐกิจการคลัง ประจําเดือน ธ.ค. 64 ฟื้นตัวต่อเนื่องจากเดือน พ.ย. มาจากการ บริโภคภาคเอกชน การท่องเที่ยวภายในประเทศ และนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ รวมถึงการส่งออกสินค้าที่ยังคงขยายตัวใน ระดับสูงต่อเนื่อง ด้านมูลค่าการส่งออกสินค้าขยายตัวต่อเนื่อง มูลค่าการส่งออกสินค้ารวม ในเดือน ธ.ค. 60 อยู่ที่ 24,930.3 ล้าน เหรียญ ขยายตัว 24.29%YoY สําหรับเสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี พิจารณาจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไป ในเดือน ธ.ค. 64 อยู่ที่ 2.17% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.29% ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือน พ.ย. 64 อยู่ที่ 59.696 ต่อ GDP สําหรับเสถียรภาพ ภายนอกยังอยู่ในระดับที่มั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสํารองระหว่าง ประเทศ ณ สิ้นเดือน ธ.ค. 64 อยู่ในระดับสูงที่ 246 พันล้านเหรียญ มุมมองต่อภาพรวมเศรษฐกิจปี 2565 สศค. ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยจะขยายตัว 4.0% ขยายตัวในอัตราเร่งเมื่อเทียบกับประมาณการ GDP ปี 2564 ที่ สศค. คาตขยายตัว 1.29% ส่วน หนึ่งเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของการใช้จ่ายในประเทศ และภาคการท่องเที่ยวที่กลับมาขยายตัว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจาก สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิต-19 ที่คลี่คลาย และการดําเนินมาตรการทางการคลังและการเงินที่เหมาะสม เรามองประเด็น ดังกล่าวเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Domestic play อย่างกลุ่มธนาคาร (KBANK และ BBL) กลุ่มค้าปลีก กลุ่มอุปโภคบริโภค (HMPRO CPN CRC MBK และ CPALL) หุ้นในกลุ่มอาหาร (CPF GFPT TU และ TFMAMA) รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว (AOT BAFS AAV ERW MINT CENTEL SHR) ราคาน้ํามันดิบยังปรับเพิ่ม หนุน OIL Play ติดตามประชุม OPEC+ วันที่ 2 ก.พ. คาตคงแผนเพิ่ม 4 แสนบาร์เรลต่อวัน เช่นเดิม เลือก PTTEP และ SPRC เป็นหุ้นเด่น - ราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่มรายสัปดาห์ติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6 จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ตามฤดูกาล ขณะที่อุปทานยังคงตึงตัว จากความไม่สงบในตะวันออกกลาง รวมไปถึงสถานการณ์ในยูเครน และการควบคุมการผลิต ของกลุ่ม OPEC+ โดยเรายังคงต้องติดตามการประชุม OPEC+ ที่มีกําหนดประชุมวันที่ 2 ก.พ. โดยเราคาดว่า กลุ่ม OPEC+ จะมี มติเพิ่มกําลังผลิตน้ํามันเพียง 400,000 บาร์เรลต่อวัน สําหรับการผลิตในเดือน มี.ค. แม้ถูกกดดันจากสหรัฐฯ และประเทศพันธมิตร ที่ต้องการให้ OPEC+ เพิ่มการผลิตน้ํามันมากกว่านี้ โดยก่อนหน้านี้ OPEC+ มีมติ ในเดือน ก.ค. 2554 ที่จะเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในแต่ละเดือน ไปจนถึง เม.ย. 2555 เรามองประเด็นดังกล่าวจะเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Oil play ได้แก่ PTT (BK:PTT) PTTEP SPRC และ TOP
บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Company Update: PTTEP / Earnings Preview: BCP Company Update PTTEP (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 140 บาท) คาดปี 65 กําไรเติบโตแข็งแกร่ง - คาดกําไรสุทธิ 1Q65 ยังมีโอกาส ปรับเพิ่มทั้ง QoQ และ YoY ปี 65 ยอดขายและราคาขายปรับเพิ่ม ทําให้ประมาณการกําไรสุทธิปี 65 เติบโต 43% YoY มีความ เป็นไปได้ Demand น้ํามันดิบปี 65 เกิน 100 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ระยะสั้นมีปัจจัยฤดูกาลหนุน Sentiment เชิงบวก หนุนราคาหุ้น จากราคาน้ํามันที่ยังแข็งแกร่ง เรายังแนะนํา “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 140 บาท • Earnings Preview: BCP (ซื้อ., ราคาเป้าหมาย 34 บาท) ราคาน้ํามันดิบ และค่าการกลั่นฟื้นตัว หนุนกําไรสุทธิ 4Q64 - คาดกําไรสุทธิ 4Q64 เพิ่มขึ้นทั้ง QoQ และ YoY ค่าการกลั่น และราคาน้ํามันดิบปรับเพิ่ม เป็นปัจจัยหนุนธุรกิจการกลัน และธุรกิจ EP แนวโน้มกําไรสุทธิ 1Q65 เติบโตต่อเนื่อง ผลจากมาตรการรัฐฯ ยังกดดันกําไรธุรกิจ คาร 2Q65 ฟื้นตัว ยังคงแผนนํา BBG! เข้า ตลาดฯ ใน 1H65 ถือหุ้น BCP ได้สิทธิ 20.8939 หุ้น BCP ต่อ 1 หุ้น BBG! แนะนํา “ซื้อ” คงราคาเป้าหมาย 34 บาท รายงานข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) พื้นฐาน (ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน) เพิ่มขึ้น 0.59% MoM และเพิ่มขึ้น 4.99%YoY ในเดือน ธ.ค. เป็นการปรับตัวขึ้นมาก ที่สุดนับ ตั้งแต่เดือน ก.ย. 2526 หลังจากเพิ่มขึ้น 0.59% MoM และเพิ่มขึ้น 4.79%YoY ในเดือน พ.ย. โดย PCE เป็นมาตรวัดอัตราเงิน เฟ้อที่เฟดให้ความสําคัญ ต้านตัชนี PCE ทั่วไป (รวมหมวดอาหารและพลังงาน) เดือน ธ.ค. เพิ่มขึ้น 0.4% MoM และเพิ่มขึ้น 5.89%YoY เป็นการปรับตัวขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่เดือน มิ.ย. 2525 หลังปรับเพิ่มขึ้น 0.6% MoM และเพิ่มขึ้น 5.7%YoY ในเดือน พ.ย. / ผลสํารวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกน รายงานตัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือน ม.ค. ปรับลงสู่ระดับ 672 จุด เป็น ระดับต่ําสุดนับตั้งแต่ เดือน พ.ย. 2554 ต่ํากว่า Market Consensus ที่ระดับ 68.5 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐฯ เดือย ม.ค. 65 ลดลงจากเดือน ธ.ค. 60 ที่ 70.6 จุด โดยดัชนีความเชื่อมั่นได้รับผลกระทบจากความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่ปรับ เพิ่มขึ้น / กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ รายงานตัชนีต้นทุนการจ้างงาน (ECI) ในช่วง 4Q64 เพิ่มขึ้น 1.06QoQ และเพิ่มขึ้น 4.0%YoY เป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ปี 25644 หลังจากช่วง 3Q64 เพิ่มขึ้น 1.3%QoQ และเพิ่มขึ้น 3.7%YoY อย่างไรก็ตามตัวเลข ECI ช่วง 4Q64 ยังต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 1.2%QoQ ทั้งนี้ ตัขนี้ EC ถือเป็นมาตรวัตที่น่าเชื่อถือในการชีวัดตลาดแรงงาน และเป็นตัชนีคาดการณ์ที่ดีสําหรับอัตราเงินเฟ้อซึ่งธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสําคัญ • มุมมองทางเทคนิค - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,625-1,650 จุด หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก AOT CENTEL และ SHR
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities