Investment Ideas:
ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,630-1,650 จุด เราคาดว่า SET จะ ยังเคลื่อนไหวในกรอบ Sideway ถึง Sideway down สะท้อนความกังวลต่อการดําเนินนโยบายการเงิน ของเฟดที่เข้มงวดมากขึ้น ซึ่งคาดว่าจะส่งสัญญาณออกมาในการประชุม FOMC ที่จะเริ่มวันนี้ (25 ม.ค.) คาดว่าจะทราบผลเช้าวันพฤหัส 27 ม.ค. ตามเวลาไทย แม้ดัชนีความผันผวน CBOE Volatility Index (VIX) เริ่มปรับลดลง แต่ยังทรงตัว (ล่าสุด VIX Index เช้านี้อยู่ที่ 28.4 จุด) ปัจจัยดังกล่าวจะยังกดดันหุ้น กลุ่ม Growth stock รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้รับแรงกดดันจากราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลง กลยุทธ์การลงทุน เราให้น้ําหนักหุ้นที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และหุ้นในกลุ่ม Domestics play ที่ได้ ประโยชน์มาตรการรัฐฯ ที่มีการผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด รวมไปถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ครม. อนุมัติวานนี้ (24 ม.ค.) เลือก CPALL (BK:CPALL) ERW SHR AAV และ AOT (BK:AOT) เป็นหุ้นเด่น • เราเชื่อว่า SET จะกลับมาฟื้นตัว หลังประชุม FOMC - ติดตามการการประชุมนโยบายการเงินของเฟด เริ่มวันนี้ (25 ม.ค.) หลังเจ้าหน้าที่เฟดหลายท่าน แสดงความเห็นสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ในเดือน มี.ค. เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงนางลาเอล เบรนาร์ด หนึ่งในคณะผู้ว่าการเฟด นายชาร์ลส์ อีแวนส์ ประธาน เฟด สาขาชิคาโก นายแพทริก ฮาร์เกอร์ ประธานเฟด สาขาฟิลาเดลเฟีย และนางแมรี ดาลี ประธานเฟด สาขาซานฟรานซิสโก ขณะที่ FedWatch Tool ของ CME Group ระบุว่า นักลงทุนให้น้ําหนัก 100% ที่เฟด จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงิน ในเดือน มี.ค. ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติโครงการ ซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) พร้อมกับคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 4 ครั้งใน ปี 2565 (รวมไม่เกิน 1%) สอดคล้องกับมุมมอง Base Case ของเรา ซึ่งหากเป็นไปตามที่คาดเราเชื่อว่า SET จะฟื้นตัวและกลับมาเคลื่อนไหวในกรอบ 1,650 จุด ถึง 1,670 จุด เราให้น้ําหนักกรณีดังกล่าวมากสุด อย่างไรก็ตาม หากเฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบียมากกว่า 4 ครั้งในปี 2565 และเริ่มปรับลดขนาดงบดุล ในเดือน ก.ค. หรือเร็วกว่า จากปัจจุบันที่ Balance sheet ของเฟดปรับเพิ่มสูงกว่า 8 ล้านล้านเหรียญ (มุมมองของ โกลด์แมน แซคส์) เราคาดว่า SET มีโอกาสปรับลงทดสอบ 1,600 จุด ถึง 1,585 จุด (ตามกรณี Worst case) แต่หากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) จะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัว (Hawkish) น้อยกว่าที่คาด SET จะมีโอกาสปรับขึ้นทดสอบระดับ High เดิมที 1,680 จุด (ตามกรณี Best Case)
• ครม. อนุมัติ 3 โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เป็นบวกต่อ CPALL ERW SHR AAV และ AOT
- ครม. อนุมัติโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ 3 โครงการ ได้แก่ (1) โครงการคนละครึ่ง เฟส 4 (1 ก.พ. ถึง 30 เม.ย. 65) จํานวน 29 ล้านสิทธิ โดยผู้มีสิทธิจะได้รับวงเงินคนละ 1,200 บาท เพื่อใช้จ่ายในระยะเวลา 3 เดือน วงเงินกว่า 3.5 หมื่นล้านบาท (2) เพิ่มสิทธิ ในโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 อีก 2 ล้านสิทธิ วงเงินรวม 1.3 หมื่นล้าน บาท และ (3) เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการวงเงิน 8,070 ล้านบาท และความช่วยเหลือพิเศษ 1,352 ล้านบาท เรามองเป็นบวกหุ้นในกลุ่มที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว และหุ้นในกลุ่ม Domestics play ได้แก่ CPF CPALL CPN ERW MINT SHR AAV BAFS HAZ AOT
ราคาน้ำมันดิบ มีปัจจัยลบกระทบระยะสั้น แนะทยอยสะสม Oil play เน้นเก็งกําไรระยะสั้น
- ราคา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTIล่าสุดปรับลดลง 1.83 เหรียญต่อบาร์เรล (-2.156) สะท้อนความกังวลต่อการที่เฟดจะดําเนิน นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นเพื่อสกัดเงินเฟ้อ กระทบการเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และความต้องการใช้ น้ํามัน รวมไปถึงผลกระทบจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และแรงขายทํากําไรหลังราคาน้ํามันดิบในปี 2565YTD ปรับเพิ่มกว่า 10% หลังสํานักงานพลังงานสากล (IEA) ปรับเพิ่มคาดการณ์ความต้องการใช้น้ํามัน ในตลาดโลกปี 2565 ขณะที่ภาวะอุปทานตึงตัว หลัง OPEC+ ปรับเพิ่มกําลังผลิตแบบค่อยเป็นค่อยไป รวมไป ถึงเหตุระเบิดท่อส่งน้ํามันของตุรกี และกําลังผลิตของลิเบียที่ลดลง เรามองราคาน้ํามันดิบในช่วง ม.ค.-ก.พ. 65 ยังคงอยู่ในระดับสูง จากปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ทั้ง Seasonal Demand และอุปทานที่ตึงตัว รวมไปถึง ความวิตกเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดในยูเครน แนะนําทยอยสะสมหุ้นในกลุ่ม Oil play ที่ราคาหุ้นอ่อนตัว เพื่อลงทุนในลักษณะเก็งกําไร อย่างไรก็ตามราคาน้ํามันดิบที่ปรับลดลงก่อนการประชุม FOMC ที่จะเกิดขึ้นจะทําให้หุ้นในกลุ่ม Anti-oil ได้แก่ TASCO EPG PTG OR GPSC และ BGRIM กลับมาหน้าสนใจในระยะสั้น
• บทวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานวันนี้ - Earnings Preview - FSMART และ FORTH • รายงานข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - ไอเอชเอส มาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐฯ ในเดือน ม.ค. อยู่ที่ 50.8 จุด เป็นระดับต่ำสุดในรอบ 18 เดือน และลดลงจากเดือน ธ.ค. ที่ระดับ 57.0 จุด • มุมมองทางเทคนิค หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก CPF TU และ GPSC
บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities