🏃 คว้าข้อเสนอ Black Friday ก่อนใคร รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ตอนนี้!รับส่วนลด

คาด SET มีโอกาสพักตัว จาก Valuation ที่จํากัด

เผยแพร่ 05/01/2565 09:58
อัพเดท 09/07/2566 17:32
SETI
-
PTT
-

Investment Ideas:

ภาพรวมการลงทุน - เราคาดว่า SET วันนี้ จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,655-1,680 จุด เราคาดว่า SET มีโอกาสพักตัว จาก Valuation ที่จํากัด และความเสี่ยงที่ต้องติดตามจาก

(1) การระบาดของเชื้อไวรัส โควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่

(2) การไถ่ถอนกองทุน LTF ที่ครบอายุสามารถขายได้ (ผู้ซื้อ LTF ในปี 2559 จะเริ่มขายได้ตั้งแต่ปี 2565 โดยในปี 2559 มียอดซื้อรวม 6 หมื่นล้านบาท)

(3) การคาดหมาย ผลประกอบการของกลุ่มธนาคารที่ย่ําแย่ ในช่วง 4Q64 และ

(4) ปัญหาการค้าโลก กลยุทธ์การลงทุน เรายังเน้นลงทุนหุ้นในกลุ่ม Domestic Play โดยเฉพาะกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากกําลังซื้อในประเทศฟื้นตัว กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการสนับสนุน EV Car ของภาครัฐฯ กลุ่มที่ได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจของภาครัฐ รวมไปถึงหุ้นในกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากสงครามการค้า ตาม Core Investment ที่เราแนะนํา กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนําคงสัดส่วนหุ้น 50% และรอซื้อหุ้นที่มีราคา Laggard มีผลประกอบการหนุนเพิ่ม ขณะที่วันนี้ (5 ม.ค.) ติดตามรายงานการประชุม FOMC Minutes (รอบ 14 ถึง 15 ธ.ค. 2564) ที่มีการส่งสัญญาณเร่ง QE Tapering ตามคาด และปรับท่าที่เป็น hawkish มากขึ้นในการส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ย และการประชุม ศปก. ศบค. จะมีการประเมินสถานการณ์ และข้อเสนอต่อที่ประชุม ศบค. ชุดใหญ่ วันที่ 7 ม.ค. FedWatch สะท้อนความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นต่อการที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด คาดจะเป็น แรงกดดันต่อ SET ในระยะอันใกล้ FedWatch Tool ของ CME Group (เครื่องมือวิเคราะห์การซื้อขาย สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐฯ) สะท้อนว่านักลงทุนคาดหมายว่าเฟดมีแนวโน้มมากกว่า 60% ที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงิน เดือน มี.ค. 65 ซึ่งเป็นเดือนที่เฟดยุติ โครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว ทําให้ตลาด กลับมากังวลต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดที่เร็วกว่าคาด ขณะที่การประชุม FOMC ล่าสุด (รอบ 14 ถึง 15 ธ.ค. 2564) มีการส่งสัญญาณเร่ง QE Tapering ตามคาด และปรับท่าที่เป็น hawkish มากขึ้นในการส่งสัญญาณเร่งขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565 ไม่น้อยกว่า 3 ครั้ง โดยคาดว่าจะเริ่มในเดือน พ.ค. 65 ขณะที่การประชุม BOE รอบเดือน ธ.ค. 60 มีมติ 8-1 เสียง ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 0.25% เพื่อลดแรงกดดันจากภาวะเงินเฟ้อ ขณะที่ Market Consensus คาดหมายว่า BOE จะทยอยปรับ เพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีก 0.15% ทั้งในการประชุมนโยบายการเงิน เดือน ก.พ. 65 และ มี.ค. 65 แนะนําเก็งกําไรระยะสั้น หุ้นในกลุ่ม Oil play เราเลือก PTTEP PTT (BK:PTT) และ SPRC

- ราคาน้ำมันดิบตอบรับ เชิงบวกจากการประชุม OPEC+ ที่มีมติตามข้อตกลงเดิม ในการเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในเดือน ก.พ. ตามที่เรา และ Market Consensus คาดไว้ก่อนหน้านี้ แม้การเพิ่มกําลังผลิตดังกล่าวจะต่ํากว่า ที่ สหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรเรียกร้อง ให้เพิ่มกําลังผลิตมากกว่าแผน โดย OPEC+ มีมติตั้งแต่เดือน ก.ค. 2564 ในการเพิ่มกําลังผลิตน้ํามัน 400,000 บาร์เรลต่อวัน ในแต่ละเดือน จนถึง เดือน เม.ย. 2565 โดย OPEC+ จะจัดให้มีการประชุมครั้งต่อไป วันที่ 2 ก.พ. เพื่อพิจารณานโยบายการผลิตสําหรับเดือน มี.ค. 65 เรามองประเด็นดังกล่าวจะเป็นบวกต่อราคาน้ํามันดิบในช่วงต้นเดือน ม.ค. ทําให้หุ้นในกลุ่ม Oil play ยังคง น่าสนใจ โดยคาดว่าราคาน้ํามันดิบ (Dubai) จะยังเคลื่อนไหวในกรอบ 70-75 เหรียญต่อบาร์เรล จาก Seasonal Demand ที่แข็งแกร่ง ขณะที่การเพิ่มขึ้นของอุปทานยังส่งผลไม่มากต่อราคาน้ํามันดิบใน ระยะสั้น จนกว่าจะถึงช่วงปลาย 1Q65 ที่คาดว่าตลาดน้ํามันดิบจะกลับมาเข้าสู่ภาวะอุปทานส่วนเกิน เรายังคงสมมติฐานราคาน้ํามันดิบ (Dubai) ไว้ที่ 70 เหรียญต่อบาร์เรล ติดตามรายงานปริมาณสํารอง น้ํามันดิบจากสํานักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) วันนี้ (5 ม.ค.) เวลา 22.30 น. ตามเวลาไทย โดย Market Consensus คาดว่าปริมาณสํารองน้ํามันดิบจะลดลงติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 6

ติดตามข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจ - กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ มีกําหนดรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร ประจําเดือน ธ.ค. ในวันศุกร์ (7 ม.ค.) เวลาประมาณ 20.30 น. ตามเวลาไทย ขณะที่ Market Consensus คาดว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตร เดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น 362,000 ตําแหน่ง เป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากเดือน พ.ย. ที่ 210,000 ตําแหน่ง • ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจที่สําคัญ - สถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) รายงานดัชนีภาคการผลิตของสหรัฐฯ เดือน ธ.ค. ปรับตัวลงสู่ระดับ 58.7 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ําสุดในรอบ 1 ปี และต่ํากว่าที่ Market Consensus คาดไว้ที่ 60.1 จุด และลดลงจากเดือน พ.ย. ที่ 61.1 จุด โดยดัชนีภาคการผลิตได้รับผลกระทบ

จากการชะลอตัวของอุปสงค์และคําสั่งซื้อใหม่ • มุมมองทางเทคนิค - หุ้นแนะนําปัจจัยทางเทคนิค เราเลือก SAT M และ TIDLOR

บทวิเคราะห์นี้จัดทำขึ้นและเผยแพร่โดยทีมนักวิเคราะห์ของ Asia Wealth Securities

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย