🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ทองคำทรงตัวรอผลการประชุมเฟด น้ำมันยังสลัดข่าวโอมิครอนไม่หลุด

เผยแพร่ 14/12/2564 13:59
XAU/USD
-
DX
-
GC
-
LCO
-
CL
-
US10YT=X
-

ไม่มีสำนักวิเคราะห์ไหนในตอนนี้ที่กล้าฟันธงว่าราคาทองคำจะวิ่งเช่นไรหากว่าสุดท้ายแล้วเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ตัดสินใจที่จะร่นระยะเวลาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ให้จบไว้ขึ้นพร้อมกับความเป็นไปได้ที่จะเริ่มขึ้นอัตราดอกเบี้ยตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2022 

นั่นจึงเป็นเหตุผลให้ราคาทองคำล่วงหน้าที่จะส่งมอบในเดือนกุมภาพันธ์ ณ เวลา 06:00 GMT เมื่อวานนี้ขยับตัวขึ้นเพียง 0.1% หรือคิดเป็น $2.15 และยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวที่ชัดเจนมาจนถึงปัจจุบัน นี่คือสภาพตลาดที่เงียบจนน่ากลัวก่อนการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะเริ่มขึ้นในช่วงเช้าของวันพรุ่งนี้ตามเวลาประเทศไทย และจะมีแถลงการณ์จากประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในวันพุธGold Daily

นอกจากการประชุมของเฟด สัปดาห์นี้ถือได้ว่าเป็นสัปดาห์ที่สำคัญที่สุดของเดือนธันวาคมแล้ว เพราะจะมีการประชุมของธนาคารกลางอีกสามแห่ง ทั้งธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) ผลสำรวจจากสำนัดข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ECB จะเริ่มหยุดการซื้อพันธบัตรนับตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2022 เป็นต้นไป

สำหรับการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในช่วงกลางสัปดาห์นี้ ตลาดลงทุนเชื่อมั่นเป็นอย่างมากว่าเจอโรม พาวเวลล์จะเห็นด้วยกับเหล่าคณะกรรมการผู้มีสิทธิ์วางนโยบายการเงินในการจบการลด QE ให้เร็วที่สุด หากว่าเฟดตัดสินใจเปลี่ยนจากการลดวงเงินเดือนละ $15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเป็น $30,000 ล้านเหรียญสหรัฐ นั่นจะทำให้การร่นระยะเวลาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณจบลงได้ภายในระยะเวลาเพียงสามเดือนเท่านั้น

ฝั่งที่สนับสนุนทองคำกลับไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ พวกเขาให้เหตุผลว่าความคิดที่จะได้เห็นอัตราดอกเบี้ยถูกปรับขึ้นในช่วงเดือนมีนาคมหรือเมษายนนั้นไม่มีผลกับตลาดมาสักพักแล้ว ถ้าหากตลาดเชื่อเช่นนั้นจริง ตอนนี้ราคาทองคำจะไม่สามารถทรงตัวอยู่ที่ระดับราคาบริเวณ $1,780 ได้แน่นอน

Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์จ้าวประจำของ Investing.com ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ตลาดทองคำในตอนนี้ว่า

“สัปดาห์นี้ทองคำจำเป็นที่จะต้องยืนเหนือ $1,768 ให้ได้เพื่อลดความเสี่ยงการลงไปยัง $1,700 หรือต่ำกว่านั้น ถ้าหากมีแรงส่งขาขึ้นเซอร์ไพรส์ตลาดจากผลการประชุม มีโอกาสที่ทองคำจะวิ่งขึ้นยืนเหนือ $1,797 ได้ หากเป็นเช่นนั้น มีโอกาสที่เราจะได้เห็น $1,825 ในอนาคตอันใกล้”

สาเหตุที่ยังคงสนับสนุนขาขึ้นของราคาทองคำอยู่คือภาวะเงินเฟ้อ ทั้งๆ ที่นักลงทุนทองคำต่างรู้ดีว่าการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนั้นยิ่งเร็วเท่าไหร่ ยิ่งเป็นข่าวร้ายต่อทองคำมากขึ้นเท่านั้น แต่ถึงกระนั้นพวกเขาก็ยังอยากจะเชื่อว่าทองคำยังสามารถทำหน้าที่เป็นสินทรัพย์คานเงินเฟ้อได้ อย่างที่เคยเป็นมาตลอด 3,000 ปีของประวัติศาสตร์มนุษยชาติ ยิ่งข้อมูลตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค ที่เป็นมาตรวัดเงินเฟ้อในเดือนพฤศจิกายนทะยานขึ้นสู่ 6.8% สูงที่สุดในรอบสามสิบเก้าปี ยิ่งทำให้ฝั่งที่เชียร์ทองคำยังเชื่อว่าไม่มีทางที่การขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะแก้ปัญหาดังกล่าวนี้ได้ในทันที

Ed Moya นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA วิเคราะห์ภาพรวมของตลาดทองคำเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเอาไว้ว่า

“รายงานตัวเลขเงินเฟ้อก็ยังคงสามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้อีกครั้ง ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป ทองคำมีแต่จะได้แรงสนับสนุนมากขึ้น เงินเฟ้อครั้งนี้จะอยู่นานกว่าที่ใครหลายคนต้องการ และนั่นจึงทำให้ภาพรวมในระยะกลางและยาวยังสนับสนุนขาขึ้นของราคาทองคำอยู่”

“อย่างไรก็ตาม” เขากล่าวต่อ “การขึ้นอัตราดอกเบี้ยถือเป็นเรื่องใหญ่ และเป็นความเสี่ยงสูงที่อาจทำให้ทองคำถูกเทขายได้อย่างรวดเร็วจากความกังวล และจากแรงกดดันที่เฟดต้องรับในตอนนี้ มีโอกาสสูงมากที่การประชุมในสัปดาห์หน้า (หมายถึงสัปดาห์นี้) เขาจะยอมทำตามที่ต้องการ ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดสำหรับนักลงทุนทองคำในตอนนี้คือปีหน้าเฟดจะประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยกี่รอบ จนกว่าจะถึงการประชุมของ FOMC ราคาทองคำจะวิ่งอยู่ในกรอบราคา $1,760 - $1,800”

ความผันผวนของทองคำจะมากหรือน้อย นักลงทุนสามารถดูได้จากปรปักษ์ตัวสำคัญอย่างอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปีและดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ กราฟอัตราผลตอบแทนฯ ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยจาก 1.34% ขึ้นไปยัง 1.49% และดัชนีดอลลาร์สหรัฐยังพยายามทรงตัวด้วยการปรับตัวขึ้นเพียง 0.1% ขึ้นมายัง 96.18 จุด

นักลงทุนต้องการที่จะถือครองสินทรัพย์สำรองปลอดภัยทั้งดอลลาร์และทองคำมาตั้งแต่สองสามสัปดาห์ก่อน ทั้งๆ ที่มีรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าโอมิครอนหรือโควิดสายพันธุ์ใหม่อาจจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิด Greg Anderson นักวิเคราะห์จาก BMO Capital Markets วิเคราะห์ว่า 

“ถ้าหากตัดเรื่องโอมิครอนออกไป ตอนนี้การที่ตลาดลงทุนจะวิ่งเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัยก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เราได้เดินทางมาถึงกลางสัปดาห์ของเดือนสุดท้ายของปี 2021 กันแล้ว ไม่ใช่นักลงทุนทุกคนที่พร้อมจะรับความเสี่ยงในเดือนที่เต็มไปด้วยเทศกาลและการท่องเที่ยวเช่นนี้ นั่นจึงเป็นเหตุผลดอลลาร์สหรัฐแข็งค่ามานานในช่วงหลายเดือน และถ้ายิ่งโอมิครอนไม่เป็นภัยต่อมนุษยชาติจริง นั่นถือได้ว่าเป็นของขวัญวันคริสต์มาสที่ดีเลยทีเดียว”

การถกเถึยงกันในเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย อาจจะต้องพิจารณาร่วมกับตัวเลขเศรษฐกิจที่เชื่อว่าช่วงนี้คนไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก รู้หรือไม่ว่าสัปดาห์ที่แล้วจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกปรับตัวลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 52 ปี อัตราการว่างงานยืนอยู่เหนือตัวเลขคาดการณ์ของเฟดเพียง 0.2% เท่านั้น ถึงแม้ว่าจะต้องแลกมาด้วยภาวะเงินเฟ้อ แต่ก็เห็นได้ว่าการตัดสินใจของเฟดนั้นช่วยให้อเมริกาสามารถฟื้นเศรษฐกิจกลับมาได้อย่างมีนัยสำคัญ แต่เงินเฟ้อนั้นจะเป็นภัยคุกคามมากน้อยแค่ไหน เราจะได้รู้กันในสรุปผลการประชุมจากแถลงการณ์ของประธานเฟดวันพรุ่งนี้

ภาพรวมตลาดน้ำมันดิบ

ในช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ ราคาน้ำมันดิบสามารถปรับตัวกลับขึ้นมาได้จนเกือบจะชดเชยขาลงที่ทำมาทั้งหมดในสัปดาห์ที่แล้ว สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะข่าวการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอนเริ่มเบาลง Oil Daily

ราคาน้ำมันดิบ WTI เมื่อวานนี้ปรับตัวขึ้น 1.4% คิดเป็น $1.03 มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $72.70 ต่อบาร์เรล สัปดาห์ที่แล้ว WTI ปรับตัวขึ้น 8.1% ยังคงมีจุดสูงสุดในรอบเจ็ดปีอยู่ที่ $85.41 ต่อบาร์เรลในช่วงกลางเดือนตุลาคม Dixit นักวิเคราะห์ทองคำก่อนหน้านี้ให้ความเห็นกับราคาน้ำมันดิบว่ามีแนวรับอยู่ที่ $62.40 ต่อบาร์เรล ราคานี้ถือเป็นแนวรับที่แข็งพอตัว เพราะยืนหยัดมาได้ตั้งแต่เดือนมีนาคมปี 2021 หากขาขึ้นยังสามารถรักษาทรงได้ดี มีโอกาสเห็น WTI ที่ $76.60 และ $80 ต่อบาร์เรลตามลำดับ

ความผันผวนใน WTI เกิดขึ้นเช่นเดียวกันกับราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ที่ปรับตัวขึ้นเมื่อวาน 1.5% มีราคาซื้อขายอยู่ที่ $76.28 ต่อบาร์เรล สัปดาห์ที่แล้วเบรนท์สามารถปรับตัวขึ้น 7.7% สร้างจุดสูงสุดเอาไว้ที่ $86.70 ต่อบาร์เรล

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย