🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

ภาวะเงินเฟ้อกดดันให้เหล่าผู้วางนโยบายการเงินต้องรีบเร่งการลด QE ให้จบไวที่สุด

เผยแพร่ 14/12/2564 10:27

สำหรับการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ในสัปดาห์นี้ ตลาดลงทุนส่วนใหญ่เชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) จะต้องร่นระยะเวลาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) และนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ต้องบอกใบ้เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในถ้อยแถลงหลังจากเสร็จสิ้นการประชุม ถ้าเป็นไปได้ นักลงทุนก็หวังว่าจะได้เห็นข้อมูลคาดการณ์เศราฐกิจอื่นๆ ในปีหน้าอีกด้วย 

สิ่งที่ทำให้ตลาดลงทุนเชื่อว่าผลการประชุมจะต้องออกมาเป็นไปตามที่กล่าวข้างต้นคือข้อมูลตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน ที่เพิ่มขึ้นแตะ 6.8% เป็นตัวเลขสูงที่สุดในรอบสามสิบเก้าปี ตัวเลขดังกล่าวได้มาถึงจุดที่ธนาคารกลางต้องดำเนินมาตรการอะไรบางอย่าง มิเช่นนั้นเงินเฟ้ออาจจะกลายเป็นปัญหาถาวร ไม่ใช่ชั่วคราวอย่างที่ประธานเฟดเคยกล่าวเอาไว้

นิตยสาร The Financial Times ตีข่าวเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่านักการเมืองจากพรรคเดโมแครตบางส่วน เริ่มกดดันธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ดำเนินการบางอย่างเพื่อจัดการกับเงินเฟ้อ พวกเขาเป็นกังวลว่าพรรคของตนและประธานาธิบดีโจ ไบเดนจะกลายเป็นแพะรับบาป และมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นกับการเลือกตั้งในช่วงกลางเทอม หรือก็คือปีหน้า

เจค ออชินโคลส สมาชิกผู้แทนราษฎรจากพรรคเดโมแครตให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอังกฤษว่า

“เฟดจำเป็นต้องเริ่มร่นระยะเวลาการทำ QE เดี๋ยวนี้ เพื่อที่พวกเขาจะสามารถเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้สักที เชื่อไหมว่าทั้งสองอย่างสามารถทำได้ภายในเดือนมีนาคม”

ตามคำร้องขอของพรรครีพับลิกัน สำนักงานงบประมาณรัฐสภา (ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด) ได้จัดทำฉบับปรับปรุงของผลกระทบจากการขาดดุลของกฎหมายการใช้จ่ายเพื่อสังคมมูลค่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ของไบเดน ข้อมูลนี้ตั้งอยู่บนสมมติฐานที่ว่าหากยืดระยะเวลาการชำระหนี้ของรัฐบาลขยายออกไป พบว่าการขาดดุลจะเพิ่มขึ้น 3 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 10 ปี แทนที่จะเป็นตัวเลขคาดการณ์การขาดดุลที่เพิ่มขึ้น 367 พันล้านดอลลาร์

ความกังวลของนักลงทุนในตอนนี้อยู่ที่การเปลี่ยนนโยบายอย่างฉับพลันของธนาคารกลางสหรัฐฯ พวกเขากังวลว่าธนาคารกลางฯ จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเร็วเกินไป และจะก่อให้เกิดการเทขายในตลาดหุ้นอย่างฉับพลัน นายเจอรามี สเตน นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาเวิร์ด ให้ความเห็นต่อสถานการณ์ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในตอนนี้ว่า 

“พวกเขา (เฟด) กำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก เฟดจำเป็นต้องรีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจริงๆ แล้ว และถ้าพวกเขาทำอะไรรุนแรง คุณสามารถจินตนาการได้ทันทีเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับตลาดบ้าง”

ธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ก็จะมีการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์นี้เช่นกัน นางคริสตีน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรปกล่าวว่าธนาคารกลางจะจบโครงการซื้อพันธบัตรรัฐบาลตามกำหนดการณ์เดิมคือภายในช่วงสิ้นเดือนมีนาคม ถึงกระนั้น คริสตีนก็ไม่ได้พูดถึงการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเลย

ฌัก เดอ ลาโรซีแยร์ อดีตผู้จัดการกองทุนของ IMF และอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางฝรั่งเศสได้ออกมาเตือนถึงความจำเป็นว่า ECB ต้องรีบดำเนินการภายในเดือนหน้า เขากล่าวว่าใครก็ตามที่คิดว่าเงินเฟ้อเป็นเรื่องชั่วคราว ตอนนี้ต้องคิดใหม่ได้แล้ว ธนาคารกลางควรเลี่ยงแรงกดดันที่จะเกิดขึ้นในอนาคต และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนว่าจะรักษาเสถียรภาพทางการเงินเอาไว้ได้ นอกจากนี้ ฌักยังได้ยกกรณีของธนาคารกลางสหรัฐฯ ขึ้นมาเป็นตัวอย่าง ว่ากล้าที่จะเปลี่ยนนโยบายการเงินของตัวเองทันที ที่ผ่านมา ECB ชอบดำเนินนโยบายการเงินตามเฟด ดังนั้นเขาจึงหวังว่าครั้งนี้ ECB ก็จะทำเช่นนั้นด้วยเหมือนกัน

กลับมาที่สหรัฐอเมริกา แม้ว่าเราจะทราบแล้วว่าเจอโรม พาวเวลล์จะได้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อ และคู่แข่งของเขานางเลล์ เบร์บาร์ดจะได้เป็นรองประธานธนาคารกลาง แต่โจ ไบเดนยังต้องประกาศแต่งตั้งบอร์ดผู้ว่าการธนาคารกลางอีกสามคน 

คนแรกเป็นคนที่มีชื่อถูกพาดพิงกับข่าวเก้าอี้ตำแหน่งนั้นตำแหน่งนี้อยู่บ่อยๆ และครั้งนี้ก็ไม่พลาดที่จะมีข่าวของเธออีกเช่นกัน นาง Saule Omarova ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานสำนักงานควบคุมเงินตรา คนที่สองคือ Richard Cordray ประธานสำนักคุ้มครองการเงินผู้บริโภคคนแรก เขาถูกเสนอชื่อให้คำรงตำแหน่งแทนรองประธานธนาคารกลางนาย Randal Quales และคนสุดท้ายคือ Sherrod Brown ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นประธานคณะกรรมการการธนาคาร

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย