เมื่อคืนวันอังคารที่ 30 พฤศจิกายน เกิดเหตุการณ์สำคัญในตลาดการเงินโลกขึ้น เมื่อประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวลล์ ได้แถลงต่อสภาคองเกรสถึงการดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา ไฮไลท์ของการประชุมครั้งนี้คือการยอมรับของเขาว่าเงินเฟ้อไม่ใช่เรื่องชั่วคราวอย่างที่เขาเคยกล่าวเอาไว้มาตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบันอีกต่อไป
เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ประกอบกับความเสี่ยงจากการระบาดใหม่ของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์ใหม่นาม “โอไมครอน” เจอโรม พาวเวลล์จึงได้แถลงต่อที่ประชุมว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ ว่าจะทบทวนนโยบายการเงินใหม่ และจะประกาศในการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 14-15 ธันวาคมนี้ การทบทวนนโยบายของเขารวมถึงความเป็นไปได้ที่จะร่นระยะเวลาการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ให้จบเร็วขึ้น เพื่อที่จะได้รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้ได้ภายในช่วงครึ่งปีแรกของ 2022
การตัดสินใจกลับลำของเฟดครั้งนี้ทำให้ตลาดลงทุนอดสงสัยไม่ได้ว่าที่ผ่านมาตลอดทั้งปีเฟดไม่รู้จริงๆ หรือว่าประเทศกำลังประสบกับภาวะเงินเฟ้อ หรือนี่เป็นเพียงความเห็นแก่ตัวของคนไม่กี่กลุ่มที่ต้องการได้ตำแหน่งเก้าอี้ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สมัยที่สอง และเมื่อได้แล้ว ก็รีบตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายการเงินอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ท่าทีของเฟดที่จะรีบจัดการลด QE และเริ่มต้องการขึ้นอัตราดอกเบี้ยให้เร็วที่สุดถือเป็นแรงสนับสนุนของดอลลาร์สหรัฐและสร้างแรงกดดันให้กับราคาทองคำ
ตามทฤษฎีแล้วดอลลาร์สหรัฐและทองคำเป็นสินทรัพย์ที่ถือว่าเป็นปริปักษ์ต่อกัน เมื่อดอลลาร์แข็งค่าที่หมายถึงเศรษฐกิจดี ทองคำจะอ่อนค่า และมีทองคำปรับตัวขึ้นที่หมายถึงเศรษฐกิจกำลังมีปัญหา ดอลลาร์จะอ่อนค่าลง ถ้อยแถลงของเจอโรม พาวเวลล์ถือเป็นการสนับสนุนให้ดอลลาร์แข็งค่า แต่จังหวะที่ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ เปิดทำการในช่วงค่ำของเมื่อวานนี้ตามเวลาประเทศไทย ราคาทองคำกลับสามารถปรับตัวขึ้นมาได้ คำถามคือเกิดอะไรขึ้น?
จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ปัจจัยแวดล้อมที่อาจสร้างผลกระทบกับราคาทองคำคือกราฟเปรียบเทียบอัตราผลตอบแทนระยะสั้นและระยะยาว ในตอนนี้กราฟเทียบอัตราผลตอบแทนฯ กำลังปรับตัวลดลงเข้าใกล้กับระดับศูนย์ แสดงให้เห็นว่านักลงทุนในตลาดมีการลดความเสี่ยงกับสินทรัพย์ปกติเช่นหุ้น พันธบัตรรัฐบาลลง ถือว่าสอดคล้องกับพฤติกรรมของราคาทองคำที่เหมือนจะกลับมาเป็นขาขึ้นในปัจจุบัน
เมื่อพิจารณากราฟของราคาทองคำ จะพบว่าขาลงในตอนนี้ได้ลงมาทดสอบกับกรอบราคาขาขึ้นด้านล่าง (หรือจะเรียกว่าเป็นแนวรับสุดท้ายของขาขึ้นรอบนี้ก็ว่าได้) ก่อให้เกิดการต่อสู่ของแรงขาขึ้น ที่ต้องการจะพาทองคำกลับขึ้นไปยังกรอบราคาด้านบนให้ได้อีกครั้ง ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อนำเอาอินดิเคเตอร์มาพิจารณาร่วมด้วย จะเห็นว่า ROC กำลังส่งสัญญาณว่าพร้อมที่จะปรับตัวกลับขึ้นมา
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะยังไม่เสี่ยงลงทุนในตอนนี้ เพราะพฤติกรรมกราฟไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตลาดทุน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง จะเสี่ยงวางคำสั่งซื้อสวนเทรนด์ขึ้นไป แต่มีเงื่อนไขว่าจุดปิดของแท่งเทียนวันนี้ต้องสูงกว่าจุดปิดของแท่งเทียนเมื่อวาน
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะวางคำสั่งซื้อในตอนนี้ทันที แต่จะตั้งจุดตัดขาดทุนเอาไว้สั้นมากคือบริเวณจุดต่ำสุดของเมื่อวาน
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $1,785
- Stop-Loss: $1,770
- ความเสี่ยง: $15
- เป้าหมายในการทำกำไร:$1,860
- ผลตอบแทน: $75
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:5