หากนับจากช่วงเวลาที่บทความนี้ถูกเขียนขึ้นมา ตอนนี้เราเหลือเวลาอีกสองวันก่อนที่การประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตและส่งออกน้ำมัน และชาติพันธมิตร (OPEC+) จะเริ่มต้นขึ้น การประชุมประจำเดือนครั้งนี้ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ นอกจากจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปี 2021 แล้ว ยังมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นก่อนหน้านี้มากมาย นำไปสู่การวิเคราะห์ต่างๆ นาๆ จากสำนักข่าวมากมาย ในบทความนี้ เราจะพาไปดูภาพรวมก่อนการประชุม OPEC+ ว่ามีเหตุการณืใดเกิดขึ้นบ้าง และอาจจะนำไปสู่เหตุการณ์ใดในอนาคต
สถานการณ์โลกก่อนการประชุม OPEC+
หากย้อนกลับไปอ่านข่าวเกี่ยวกับตลาดน้ำมันเมื่อเดือนก่อน แทบจะทุกสำนักข่าวและนักวิเคราะห์ต่างมองไปในทิศทางเดียวกันว่า ไม่มีทางอื่นเลยที่ราคาน้ำมันดิบ WTI และเบรนท์จะไปนอกจากการมุ่งหน้าขึ้นสู่ระดับราคา $100 บาร์เรล หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยข่าวที่อเมริกาอยากรวมชาติพันธมิตรให้ต่อสู้กับการกดขี่ของโอเปกด้วยการดึงน้ำมันสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) ออกมาใช้ จนทำให้องค์กรพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ออกมาเตือนว่าโลกอาจต้องเผชิญปัญหาน้ำมันล้นตลาดภายในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 นี่คือสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนการถือกำเนิดของโควิดสายพันธุ์ใหม่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว...โอไมครอน
การมาของโอไมครอนเรียกได้ว่าพอเหมาะพอเจาะจริงๆ โจ ไบเดนแทบไม่ต้องออกแรงเพิ่มในการเรียกร้องให้เพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันอีกต่อไป เพราะทันทีที่ตลาดมีความกังวล ราคาน้ำมัน WTI ก็โดนเทขายทันที 11% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา จาก $78 ต่อบาร์เรล ราคาน้ำมันดิบในปัจจุบันได้ลงมาวิ่งต่ำกว่า $70 ต่อบาร์เรลเป็นที่เรียบร้อย
สำหรับผลการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในวันพฤหัสบดีที่ 2 ธันวาคมนี้ หลายสำนักคาดการณ์ว่ากลุ่ม OPEC+ จะคงระดับการผลิตเอาไว้ดังเดิมที่ 400,000 บาร์เรลต่อวัน และถ้าจะมีใครยกเรื่องภาวะเงินเฟ้อขึ้นมา การหยิบเรื่องความเสี่ยงของโอไมครอนขึ้นมาบังหน้าก็แทบจะปัดตกข้อโต้แย้งทุกประการลงไปได้ในทันที นาย Vivek Dhar นักวิเคราะห์จากธนาคาร Commonwealth Bank แสดงความเห็นว่า
“การระบาดของโควิดกลายพันธุ์นามโอไมครอน และการเพิ่มปริมาณน้ำมันดิบสะสมในคลัง น่าจะเป็นข้ออ้างเพียงพอให้กลุ่ม OPEC+ ไม่ต้องพูดเรื่องการเพิ่มกำลังการผลิตในการประชุมครั้งนี้”
แม้ว่ากลุ่ม OPEC+ จะเลื่อนการประชุมออนไลน์ออกไป แต่เหล่าตัวท็อปของกลุ่มโอเปกอย่างรัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดิอาระเบียนายอัลดุลลาซิส บิล ซัลมาน และนายอเล็กซานเดอร์ โนวาค รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซีย ก็ออกมาพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ากลุ่ม OPEC+ ไม่ได้เป็นกังวลเกี่ยวกับการระบาดของโอไมครอนที่อาจส่งผลถึงความต้องการน้ำมันทั่วโลก ท่านอับดุลลาซิสยังพูดในเชิงประชดว่าการมาของโอไมครอนอาจส่งน้ำมันกลับขึ้นไปหาระดับราคา $80 ต่อบาร์เรลเลยด้วยซ้ำ
เอ็ดเวิร์ด โมญ่า นักวิเคราะห์จาก OANDA วิเคราะห์ว่า
“ผลการประชุมของกลุ่ม OPEC+ ในครั้งนี้อาจจบลงอย่างรวดเร็ว การคงการผลิตน้ำมันเอาไว้ดังเดิมหรือลดลงกลายเป็นเรื่องที่มีน้ำหนักขึ้นมาทันที เมื่อรัฐบาลทั่วโลกเข็นเอาน้ำมันสำรองจากคลังยุทธศาสตร์มาใช้ ประกอบกับการคุมเข้มทางสังคม แบนเที่ยวบินจากแอฟริกาเพื่อเลี่ยงความเสี่ยงจากโอไมครอน”
การวิเคราะห์ทางเทคนิคของราคาน้ำมัน
Slobodan Drvenica นักวิเคราะห์จาก Windsor Broker เขียนอธิบายกราฟราคาน้ำมัน WTI เอาไว้ละเอียดยิบบนเว็บไซต์ fxstreet.com ว่า
“ตอนนี้ราคาน้ำมันดิบ WTI ได้ลงมาสร้างจุดต่ำสุดในรอบสามเดือนที่ $67.38 ต่อบาร์เรลเมื่อวันศุกร์ ซึ่งบริเวณนั้นถือว่าเป็นแนวรับที่ Fibonacci ณ 76.4% พอดี สร้างความเป็นไปได้ที่ WTI จะกลับขึ้นไปถึง $85.39 ต่อบาร์เรลได้ อย่างไรก็ตาม กราฟรายสัปดาห์ก็ยังคงเป็นภาพของราคาน้ำมันที่ปิดต่ำกว่า $70 หรือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน”
"ตราบใดที่ WTI ยังไม่สามารถขึ้นมายืนเหนือ $73.59 ต่อบาร์เรล” เขากล่าวต่อ “ก็ยังมีโอกาสที่ขาลงจะมองว่าเป็นการขึ้นมาเพื่อลงต่อ และความคิดนี้อาจกดราคาน้ำมันให้ลงไปวิ่งต่ำกว่า $70 ต่อบาร์เรล มีเพียงการขึ้นยืนเหนือระดับราคา $74-$75 หรือเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันเท่านั้นที่จะคลายแรงกดดันจากขาลงได้”
ที่มา: skcharting.com
Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์เจ้าประจำจาก skcharting.com วิเคราะห์ว่าการที่ WTI รายสัปดาห์ร่วงลงมาจนหลุดเส้นกึ่งกลางของอินดิเคเตอร์โบลิงเจอร์ แบนด์ หรือระดับราคา $74.80 ต่อบาร์เรลลงมาได้ เปิดโอกาสให้ราคาน้ำมันดิบลงไปทดสอบแนวรับรายสัปดาห์ที่เล่นค่าเฉลี่ย 50 EMA หรือ $67.25 ต่อบาร์เรล
“อินดิเคเตอร์ SRSI ได้ลงมาวิ่งอยู่ที่โซน 16/21 ซึ่งเป็นโซน oversold เรียบร้อย สร้างความเป็นไปที่อาจเกิดไซด์เวย์ในกรอบราคาระหว่าง $67.25 และ $74.10 ต่อบาร์เรล แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ WTI สามารถยืนเหนือ $67 ต่อบาร์เรล นั่นคือสัญญาณหลุดกรอบไซด์เวย์กลายเป็นขาขึ้น และแนวต้านถัดไปที่รอรับอยู่คือ $71.20 $72.50 และ $74.50 ต่อบาร์เรล” Sunil Kumar Dixit กล่าว
เจฟฟี่ ฮัลลีย์ นักวิเคราะห์จาก OANDA มีความเห็นตรงกับ Dixit ในเรื่องของแนวต้าน $77 ของเบรนท์ และ $74 ของ WTI เขาให้ความเห็นเสริมว่าตอนนี้กราฟทั้งสองมีแนวรับอยู่ที่ $72.70 และ $70 ตามลำดับ ถ้าไม่มีสถานการณ์เซอร์ไพรส์ตลาดเกิดขึ้น แทบไม่มีเหตุผลเลยที่ RSI จะวิ่งกลับลงไปยัง oversold อีกครั้ง