บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคเช้า ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวหลังเฟคประกาศคงอัตราดอกเบี้ย

เผยแพร่ 04/11/2564 09:52
อัพเดท 09/07/2566 17:32
XAU/USD
-
GC
-

สรุป ราคาทองคําวานนี้ปิดปรับตัวลดลง 5.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในระหว่างการซื้อขายของช่วงค่ําตามเวลาไทย ราคาทองคําดีดตัวขึ้นทําระดับสูงสุดได้เพียง 1,785.57 ดอลลาร์ต่อออนซ์ก่อนที่จะเริ่ม เกิดแรงขายทํากําไร (Sel the rumor) ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)จะประกาศแผนการปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) นอกจากนี้ ราคาทองคํายังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังการเปิดเผยตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐที่ออกมา “ดีเกินคาด" ทุกรายการ ไม่ว่าจะเป็นการจ้างงานของภาคเฮกชนจาก ADF, ดัชนี PMI ภาคบริการจากทั้งมาร์กิตและ ISM รวมถึงคําสั่งซื้อภาคโรงงาน ปัจจัยดังกล่าวกดดันให้เกิดแรงขายในตลาดทองคํา ส่งผลให้ราคาทองคําร่วงหลุดระดับต่ําสุดของสัปดาห์ก่อนหน้าจนกระตุ้นแรงขายตาม ทางเทคนิค นั่นส่งผลให้ราคาทองคําร่วงลงทดสอบระดับต่ําสุดบริเวณ 1,758.69 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในช่วงก่อนเฟดเปิดเผยผลการประชุม อย่างไรก็ดี ราคาทองคำเริ่มฟื้นตัวขึ้น(Buy the news) หลังจาก เฟคประกาศคงอัตราดอกเบี้ย และประกาศปรับลดวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) เดือนละ 15,000 ล้านดอลลาร์ เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. ตามคาด ขณะที่ดัชนี ดอลลาร์กลับมาอ่อนค่า เนื่องจากเฟดยังคงระบุว่า “อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นส่วนใหญ่สะท้อนถึงปัจจัยที่คาดว่าจะเกิดขึ้นชั่วคราว(transtory)” ส่วนนายพาวเวลประธานเฟดยังคงย้ําว่า การตัดสินใจลด QE ไม่ได้หมายความถึงสัญญาณโดยตรงใดๆ เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และเฟดจะ “อดทน” ต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยดังกล่าวหนุนให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นจากระดับต่ําสุดในระหว่างวัน ด้าน กองทุน SPUR ถือครองทองคําลดลง -1.45 คัน สําหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ BoE) และการเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์

ราคาทองคำอาจทดสอบแนวต้านที่ 1,782-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากยังไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งนักลงทุนยังคง ต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเมื่อราคาทองคำมีการปรับตัวขึ้นยังคงมีแรงขายออกมา เช่นกัน อย่างไรก็ตามหากการอ่อนลงมีโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,758-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา พิจารณาโซน 1,782-1,786 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ในการเปิดสถานะขาย เพื่อรอซื้อคืนเพื่อปิดสถานะขายทํา กําไรเมื่อราคาอ่อนตัวลงเข้าใกล้แนวรับโซน 1,758-1,745 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย