สรุป ราคาทองคําค่อยๆปรับตัวสูงขึ้นในระหว่างการซื้อขายวันนี้ โดยดีดจากระดับต่ําสุดบริเวณ 1,781.70 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ขึ้นสู่ระดับสูงสุดบริเวณ 1,794.51 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ รับแรงหนุนจาก จีนประณามการแสดงความมุ่งมั่นของประธานาธิบดีโจ ไบเดนแห่งสหรัฐที่จะปกป้องไต้หวัน อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยสกัดช่วงบวกของราคาไว้ จาก การปรับตัวขึ้นของตลาดหุ้น ขานรับหนังสือพิมพ์ซีเคียวริตีส์ ไทม์สของรัฐบาลจีนรายงานว่า บริษัทไชน่า เอเวอร์แกรนด์ กรุ๊ป ได้ส่งเงินสําหรับการชําระหนี้ดอกเบี้ยหุ้นกู้ที่ครบ กําหนดเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว ก่อนถึงกําหนดเส้นตายของระยะเวลาผ่อนผัน 30 วันซึ่งจะสิ้นสุดลงในวันพรุ่งนี้ (23 ต.ค.) ส่วนทางด้านราคาทองคําในประเทศ
ปรับตัวขึ้นไม่มาก เนื่องจากเงินบาทแข็งค่าขึ้น จากข่าวที่ว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อํานวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ลงนามยกเลิก เคอร์ฟิว 17 จังหวัด มีผลตั้งแต่ 5 ทุ่ม ของวันที่ 31 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป ส่งผลให้ค่าเงินบาทแข็งค่าจาก 33.43 บาท/ดอลลาร์ สู่ระดับ 33.28 บาท/ดอลลาร์ในระหว่างวัน สําหรับวันนี้ติดตามการเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคการบริการจากมาร์กิต รวมถึงถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดคืนนี้ สําหรับปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า แรงขายยังคงกดดันแม้ว่าไม่มาก แต่หากการดีดตัวของราคายังไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านระดับ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้แข็งแกร่ง อาจทําให้เกิดแรงขายกดดันให้ปรับตัวลงสู่แนวรับระดับ 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์
คําแนะนํา ราคาทองคํามีการดีดตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน บริเวณ 1,792 ดอลลาร์ต่อออนซ์ แนะนําจับตาความเคลื่อนไหว ของราคาอย่างใกล้ชิด ดูแรงซื้อที่เข้ามาหากไม่แข็งแกร่ง แนะนํา นักลงทุนที่ถือทองคําไว้ทยอยขายทํากําไรออกมาบ้าง เพื่อรอซื้อ คืนหากราคาไม่หลุดโซนแนวรับ 1,766-1,760 ดอลลาร์ต่อออนซ์
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th