สรุป ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบ 1,800.70-1,804.63 ดอลลาร์ต่อออนซ์ รับแรงหนุนต่อเนื่องจากการเปิดเผยตัวเลข CPI เดือน ส.ค.ของสหรัฐเมื่อ คืนที่ผ่านมาเพิ่มขึ้น 5.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว น้อยกว่าคาดการณ์ที่ 5.4% ขณะที่เมื่อเทียบกับรายเดือนพบว่าเพิ่มขึ้น 0.3% ซึ่งเป็นการ เพิ่มขึ้นน้อยสุดในรอบ 7 เดือน ปัจจัยสําคัญที่ทําให้ตัชนี CPI สหรัฐฯเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้นั้นเป็นผลมาจากการระบาดของไวรัสโควิต-19 สาย พันธุ์เดลต้ากระทบธุรกิจท่องเที่ยว ส่งผลให้ราคารถยนต์มือสองลดลง 1.5% ราคาตั๋วเครื่องบินที่ลดลง 9.1% และราคาประกันภัยรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 2.8% ขณะที่ราคาโรงแรม และค่าเช่ารถยนต์ก็ลดลงเช่นเดียวกัน ซึ่งเป็นสัญญานที่บ่งชี้ว่าอุปสงค์ของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางลดลง นอกจากนี้ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สังกัดพรรคเดโมแครต ได้เสนอให้ปรับเพิ่มภาษีเงินได้นิติบุคคล (Corporate tax rate) จากระดับ 21% สู่ระดับ 26.5% รวมทั้ง เสนอให้ปรับขึ้นภาษีกําไรที่ได้จากการลงทุน (capital gains tax) และเงินปันผลขึ้นสู่ระดับ 28.8% โดยนักลงทุนกังวลว่าการปรับเพิ่มอัตราภาษีดังกล่าวอาจ ส่งผลกระทบกับบริษัทจดทะเบียนของสหรัฐฯในอนาคต เป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้าสู่ตลาดทองคํา ด้านแนวโน้ม Gold Spot ประเมินว่า ระยะสั้นราคา ทองคํายังมีลุ้นดีดขึ้นทดสอบแนวต้าน หากราคาสามารถรักษาระดับได้ แต่เมื่อราคาปรับตัวขึ้นอาจมีแรงขายทํากําไรสลับออกมาเพิ่มขึ้น ซึ่งหากไม่สามารถ ผ่านแนวต้านที่ 1,809-1,816 ตอลลาร์ต่อออนซ์ได้ โดยราคาอาจปรับตัวลงทดสอบแนวรับที่ 1,789-1,775 ติอลลาร์ต่อออนซ์เพื่อสร้างฐานราคา
คําแนะนํา เก็งกําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว หากราคาไม่ สามารถทะลุแนวต้านด้านบนโซน 1,809-1,816 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้เปิดสถานะขายทํากําไร และปิดสถานะขายทํากําไรหากราคายืน เหนือโซน 1,789-1,775 ดอลลาร์ต่อออนซ์
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th