ถือเป็นตลกร้ายในวงการสกุลเงินดิจิทัลอย่างหนึ่งที่แม้ตลาดแห่งนี้จะเติบโตขึ้นมาได้นานกว่า 10 ปีแล้ว แต่ทันทีที่แพลตฟอร์มตัวกลางการแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐเมริกาอย่าง ‘คอยน์เบส’ (NASDAQ:COIN) เปิดตัวในวันที่ 14 เมษายน ราคาหุ้นของแพลตฟอร์มคอยน์เบสกลับไม่เคยได้สร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าราคาเปิดในวันแรกวันเลยสักครั้ง ตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนเมษายน ตอนนี้ราคาหุ้นคอยน์เบสปรับตัวลดลงมาแล้วมากกว่า 40% และยังไม่มีสัญญาณใดๆ ที่บ่งบอกว่าเมื่อไหร่ที่คำสาปนี้จะถูกถอนออก
แม้เรื่องราวของคอยน์เบสจะฟังดูน่าสงสาร แต่ในมุมมองของนักลงทุน นี่คือโอกาสดีที่จะได้เข้าไปถือครองหุ้นของแพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดของอเมริกา ไม่เคยสงสัยบ้างหรือว่าทำไมทั้งๆ ที่บิทคอยน์ซึ่งเป็นสกุลเงินที่มีมาร์เก็ตแคปใหญ่ที่สุดในคริปโตร่วงลงมาจากจุดสูงสุด $60,000 กว่า แต่กลับมีนักลงทุนสถาบันและนักลงทุนรายย่อยต่างพากันเข้าตลาดนี้มากขึ้นเรื่อยๆ? และทำไมจำนวนเหรียญและมาร์เก็ตแคปของโลกสกุลเงินดิจิทัลทั้งหมดกลับมีจำนวนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ?
ข้อมูลจากรายงานผลประกอบการในไตรมาสล่าสุดของคอยน์เบสยิ่งเป็นหลักฐานยืนยันการเติบโตของโลกสกุลเงินดิจิทัล ในรายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2 ปี 2021 เมื่อเดือนที่แล้ว คอยน์เบสเปิดเผยว่ามียอดผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นเกือบ 38% ทั้งๆ ที่บิทคอยน์มีมูลค่าลดลงมาจากจุดสูงสุดตลอดกาล กำไรสุทธิที่ได้จากไตรมาสที่สองคิดเป็น $1,600 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์ที่ $683.3 ล้านเหรียญสหรัฐสองเท่า ยอดขายทั้งหมดเพิ่มขึ้น $2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มากกว่าตัวเลขคาดการณ์อีกเช่นกัน
ในรายละเอียดนั้น คอยน์เบสระบุว่ามีปริมาณการซื้อขายจากนักลงทุนสถาบันเพิ่มขึ้น 47% และนักลงทุนรายย่อยเพิ่มขึ้น 21% นักลงทุนรายย่อยยอมจ่ายค่าธรรมเนียมที่แพงกว่านักลงทุนสถาบัน และกำไรจากพวกเขาก็คิดเป็นเกือบ 95% ของกำไรจากการทำธุรกรรมผ่านคอยน์เบสในไตรมาสที่สอง กำไรที่ได้มานั้นมากพอจนทำให้คอยน์เบสสามารถเพิ่มตัวเลือกการลงทุนขึ้นเป็น 83 ตัวเลือก
กลยุทธ์การรับมือกับความผันผวนในโลกสกุลเงินดิจิทัล
นอกจากโปรไฟล์ที่ยอดเยี่ยมจนคอยน์เบสได้รับการยอมรับว่าเป็นบริษัทเทคฯ เพียงไม่กี่แห่งที่สามารถทำกำไรได้ตั้งแต่วันแรกที่เปิดให้ลงทุน คอยน์เบสยังมีแผนรองรับความเสี่ยงในโลกคริปโตฯ เป็นอย่างดีอีกด้วย แพลตฟอร์มคริปโตฯ อันดับหนึ่งของสหรัฐอเมริกามีเงินสดสำรองมากกว่า $4,000 ล้านเหรียญสหรัฐเพื่อรับมือในวันที่ตลาดสกุลเงินดิจิทัลผันผวนอย่างหนัก ถูกโจมตีโดยผู้ไม่ประสงค์ดีในโลกไซเบอร์ หรือมีความจำเป็นต้องเผชิญหน้าทางกฎหมายกับภาครัฐ
นิตยสาร Wall Street Journal ระบุว่า กลต. ของสหรัฐอเมริกากำลังตรวจสอบแพลตฟอร์มคอยน์เบสเกี่ยวกับฟีเจอร์สที่อนญาตให้ผู้ใช้งานสามารถกู้ยืมเงินกับผ่านสกุลเงินดิจิทัลได้ แม้ว่าคอยน์เบสจะมีเงินสดสำรองมากพอสมควร แต่นักลงทุนก็ไม่ควรประมาทความเสี่ยงในเรื่องทางกฎหมายนี้ อย่างไรก็ตามนายไบรอัน อาร์มสตรอง CEO ของคอยน์เบสได้ออกมาทวีตโจมตีการกระทำของ กลต. ว่าเป็น “การกล่าวหาแบบลอยๆ” พร้อมทั้งยืนยันว่าการปล่อยกู้แบบนี้แพลตฟอร์มสกุลเงินดิจิทัลไหนๆ ก็ทำกันหมด
ถึงกระนั้นนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ก็ยังเชียร์ให้นักลงทุนมีหุ้นของคอยน์เบสเอาไว้ในพอร์ต โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ต้องการรับความเสี่ยงในโลกคริปโตฯ โดยตรง ก็สามารถถือหุ้นของแพตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลแทนได้ ออพเพนไฮม์ได้ปรับหุ้นของคอยน์เบสขึ้นเป็น “โดดเด่น” พร้อมทั้งตั้งราคาเป้าหมายของหุ้นคอยน์เบสเอาไว้ที่ $444 พวกเขาให้ความเห็นว่า
“ไม่ว่าต่อจากนี้โลกคริปโตฯ จะต้องเผชิญกับข่าวดีหรือร้ายอย่างไร ในระยะยาวเรามองว่ากระแสการยอมรับคริปโตฯ จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเรา คอยน์เบสเปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถเข้าถึงนวัตกรรมใหม่ในโลกการเงินได้อย่างง่ายดาย และการเติบโตของบริษัทแห่งนี้จะเป็นเสียงสะท้อนการเติบโตที่ดังออกมาจากโลกคริปโตฯ โดยตรงด้วยเช่นกัน”
โดยสรุปแล้ว
ขอย้ำอีกครั้งว่าสำหรับคนที่สนใจในโลกสกุลเงินดิจิทัลแต่ไม่ต้องการลงทุนในคริปโตฯ โดยตรง โอกาสของคุณมาถึงแล้ว!! จะมีช่วงเวลาไหนที่ดีไปกว่าขาลงของหุ้นคอยน์เบส ที่มีราคาซื้อขายล่าสุดอยู่ที่ $258.20 ในตอนนี้อีก การถือหุ้นคอยน์ถือเป็นการลดความเสี่ยงจากการลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่คุ้มค่าที่สุด ณ เวลานี้