สรุป ราคาทองคําช่วงเช้าที่ตลาดเอเชียแกว่งตัวในกรอบแคบ 1,809.40-1,815.95 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากเมื่อวานนี้ ADP Non-Farm สหรัฐออกมาแย่เกินคาดใน เดือนส.ค.ช่วยหนุนทองไว้ แต่ PMI ภาคการผลิตจาก SM ออกมาดีเกินคาด กดดันราคาทองให้ย่อตัวอีกครั้ง ขณะที่ช่วงเช้า ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าผันผวน หลังออสเตรเลีย เกินดุลการค้าสูงเป็นประวัติการณ์ ไม่ส่งผลต่อราคาทองคํามากนัก ส่วนดอลลาร์ยังอยู่ในโซนอ่อน ช่วยพยุงทองไว้ สําหรับประเด็นที่น่าสนใจให้จับตาเพิ่ม เป็นเรื่องของ WHO เฝ้าจับตาเชื้อโควิดกลายพันธ์ “มิว” พบเชื้อแล้วอย่างน้อย 39 ประเทศทั่วโลก แม้จะไม่ส่งผลบวกต่อราคาทองคําให้พุ่งขึ้น แต่แนะนําติดตามเพราะหากระบาดเป็นวง กว้างจะกลับมาหนุนทองได้ อย่างไรก็ดี ทั่วโลกกําลังต่อสู้กับการระบาดโดยเร่งฉีดวัคซีน ทําให้ความกังวลเกี่ยวกับเศรษฐกิจไม่มากเท่าปีที่แล้ว ล่าสุดสหรัฐฉีดวัคซีนป้องกัน โควิดเข็มกระตุ้นให้กับประชาชนแล้วกว่า 1 ล้านราย หลังจากหน่วยงานกํากับดูแลได้อนุญาตให้ฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้แก่กลุ่มประชาชนที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอ อย่างไรก็ ตามระยะนี้ปัจจัยที่ส่งผลต่อราคาทองคํามากที่สุด มองเป็นเรื่องตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ เพราะจะส่งผลโยงไปในเรื่องของนโยบายการเงินของเฟด จึงแนะนําติดตามการ เปิดเผยตัวเลขสหรัฐวันนี้ ได้แก่ จํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ประสิทธิภาพการผลิตต่อหน่วย, ประสิทธิภาพต้นทุนแรงงานต่อหน่วย และยอดสั่งซื้อภาค โรงงาน ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคําสามารถยืนเหนือโซน 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ขณะที่ในรายวันราคามีการยกระดับต่ำสุดและสูงสุดขึ้น โดยราคายังมีโอกาสปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้านโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อย่างไรก็ตามหากยืนไม่ได้ ยังคงต้องระวังแรงขายทํากําไรสลับเข้ามาเพิ่มเมื่อราคา ปรับตัวขึ้น
คําแนะนํา เก็งกําไรระยะสั้น โดยอาจต้องพิจารณาโซน 1,801-1,796 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดซื้อ อย่างไรก็ตามหากราคา ปรับตัวขึ้นไปไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านโซน 1,823-1,833 ดอลลาร์ต่อออนซ์ อาจทยอยแบ่งขายทํากําไรตามแนวต้านต่างๆ
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th