เชื่อว่าตอนนี้นักลงทุนในตลาดกำลังใจจดใจจ่อรอเวลา 21 นาฬิกาตามเวลาประเทศไทยเพื่อลุ้นผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่แจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง (ที่จริงแล้วประชุมออนไลน์) ว่าผลจะออกมาเป็นเช่นไร การประชุมเมื่อวานซึ่งเป็นวันแรกยังไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่สำคัญ ราคาทองคำยังคงปรับฐานอยู่ที่บริเวณแนวต้าน $1,800 เพื่อรอดูว่านายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีถ้อยแถลงในคืนนี้ว่าท้ายที่สุดจะตัดสินใจลดวงเงิน QE $120,000 ล้านเหรียญสหรัฐลงตามที่นักวิเคราะห์หลายสำนักคาดการณ์หรือไม่
ถึงแม้ว่าหลายคนจะเห็นด้วยว่าเงิน $120,000 ล้านเหรียญสหรัฐต่อเดือนนี้คือเงินช่วยเศรษฐกิจอเมริกาไม่ให้จมลงไปกับวิกฤตโควิด แต่ก็เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าการช่วยเหลือครั้งนี้แลกมากับราคาสินค้ารอบตัวที่แพงขึ้น หรือเรียกสั้นๆ ว่า “เงินเฟ้อ” ในวันที่เศรษฐกิจฟื้นตัวกลับคืนมาได้แล้ว จากพระเอกก็กลายเป็นแพะรับบาปไปทันที นักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้ออกมาโจมตีถึงความผิดพลาดของธนาคารกลาง ทั้งๆ ที่เฟดเองก็คาดการณ์เอาไว้ว่าในปี 2021 เศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเติบโตได้มากถึง 6.5% แต่ทำไมถึงไม่ปรับลด QE ลงตั้งแต่แรก
สาเหตุที่เฟดไม่อาจจะโต้เถียงกับนักวิเคราะห์ได้อย่างเต็มปากเต็มคำเพราะรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้องกับเงินเฟ้อ บ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันหมดว่าภาวะเงินเฟ้อกำลังเกิดขึ้น เป้าหมายเงินเฟ้อ 2% ที่เฟดเคยตั้งไว้ ตอนนี้ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ก็ได้ทำสถิติใหม่ไปแล้วที่ 5.4% ในเดือนมิถุนายน เกิดขึ้นภายในปีเดียวหลังจากการประกาศ อีกหนึ่งตัวบ่งชี้อย่างตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคลในเดือนมิถุนายนก็ขยายตัวเพิ่มขึ้นเป็น 3.5% สูงที่สุดในรอบ 30 ปี
นอกจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของธนาคารกลางแล้ว รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดนก็ได้เสริมทัพอัดเงินกระตุ้นเศรษฐกิจอีก $1.3 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่เข้ามารับตำแหน่งได้ไม่นาน และตอนนี้ก็มีแผนที่จะยกระดับโครงสร้างพื้นฐานอีก $3.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ประธานธนาคารกลางแห่งสาขาดัลลัส เซนต์หลุยส์ และเคนซัสซิตี้ ก็ได้ออกมากดดันเจอโรม พาวเวลล์เมื่อคืนนี้แล้วว่าเฟดจำเป็นที่จะต้องลดวงเงิน QE ให้เร็วที่สุด
นักวิเคราะห์บางสำนักคาดผลการประชุมครั้งนี้เฟดจะยังไม่ลด QE
ถึงแม้ว่าเจอโรม พาวเวลล์จะเจอแรงกดดันมากเพียงใด แต่สำนักวิเคราะห์บางแห่งก็ยังคิดว่าเฟดจะยังไม่ลดวงเงินการซื้อพันธบัตรในวันนี้ แต่จะให้รายละเอียดมากขึ้นเหมือนเป็นการปูฟื้นสำหรับทำ QE จริงๆ ในเดือนหน้าหรือในไตรมาสที่สี่
Candice Bangsund นักวิเคราะห์จาก Fiera Capital ประเทศแคนาดาให้ความเห็นว่า
“ในการประชุมที่แจ็คสัน โฮลวันนี้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยังคงดึงเกมออกไปก่อน เขาอาจจะให้รายละเอียดที่ชัดเจนขึ้นเกี่ยวกับกรอบเวลาการลด QE ส่วนเหตุผลที่จะให้นั้น ก็จะเป็นประเด็นการระบาดของโควิดในสหรัฐฯ ตอนนี้ และอาจจะขอเวลาตัดสินใจใหม่ในการประชุมเดือนกันยายน”
นายซูซูกิ เคียวซึเกะ ประธานบริษัทการเงิน Ryobi Systems ให้ความเห็นไปในทิศทางเดียวกับนักวิเคราะห์จากแคนาดาว่า
“เจอโรม พาวเวลล์อาจจะตั้งใจไปประกาศลด QE ในไตรมาสที่สี่เลย ส่วนการประชุมวันนี้และอีกรอบในเดือนหน้าจะเป็นเพียงการปูทางสำหรับการลดวงเงินเท่านั้น อาจเป็นไปได้ที่เขาจะยังไม่ระบุกรอบเวลาการลดที่ชัดเจนออกมาด้วย หากเป็นเช่นนั้น นักลงทุนในตลาดหุ้นจะดีใจมาก และช่วยกันดันตลาดให้ปรับตัวขึ้นต่อ”
สำหรับนักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์ มีความเป็นไปได้ที่ดัชนีดอลลาร์สหรัฐและสกุลเงินที่อ่อนไหวง่ายกับความเสี่ยงจะปรับตัวขึ้นในตอนที่มีการประชุม ในช่วงเวลานั้น สกุลเงินเยนจะอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์ แล้วอนาคตของตลาดทองคำในค่ำคืนนี้จะเป็นอย่างไร?
นักวิเคราะห์จากเว็บไซต์ชื่อดังและมุมมองที่มีต่อราคาทองคำ
นายเดวิด ซอง นักวิเคราะห์ตลาดแร่โลหะมีค่าของ Daily FX วิเคราะห์เอาไว้เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่าทองคำมีแรงส่งให้สามารถยืนเหนือแนวรับ $1,790 หรือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันก็จริง แต่กลับไม่มีแรงพอที่จะยืนเหนือแนวรับนี้ได้อย่างมั่นคง
“ขาขึ้นของทองคำรอบนี้ดูเหมือนว่าจะหยุดกลางคันก่อนขึ้นไปถึง $1,832 ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเดือน หากเฟดตัดสินใจเปลี่ยนนโยบายการเงินให้มีการตึงตัวมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงนี้จะกดดันขาขึ้นของทองคำทันที และหากแนวรับที่เส้นค่าเฉลี่ย 50 วันหรือ $1,790 ไม่สามารถรั้งเอาไว้ได้ จะเป็นการยืนยันเทรนด์ขาลงอย่างเป็นทางการ”
“ในกรณีที่ทองคำเข้าสู่ขาลง” เดวิดกล่าวต่อ “แนวรับถัดจาก $1,790 ที่นักลงทุนต้องพิจารณาคือ $1,786 หรือที่ 38.2% ของเครื่องมือ Fibonacci หลังจากนั้นก็จะเป็น $1,763 (50% ของ Fibo) และ $1,743 (23.6% ของ Fibo) หากระดับ $1,700 ยังหยุดขาลงครั้งนี้ของทองคำไม่ได้ นักลงทุนต้องพิจารณาแนวรับในโซนถัดไปที่ $1,695, $1,690 และ $1,670 ตามลำดับ”
นาย Rekha Chauhan นักวิเคราะห์ทองคำจาก FXStreet ประเมินว่าราคาทองคำจะวิ่งกลับลงไปทดสอบแนวรับ $1,785 หรือที่เส้นค่าเฉลี่ย 21 วันอีกครั้ง
“หากแท่งเทียนรายวันสามารถลงมาทำจุดปิดต่ำกว่า $1,785 จะเป็นการยืนยันว่า $1,810 หรือเส้นค่าเฉลี่ย 200 วันเป็นแนวรับที่แข็งแกร่ง เมื่อลงมาแล้ว เป้าหมายถัดไปของราคาทองคำคือ $1,771 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดในรอบสัปดาห์ ในทางกลับกัน หากว่าวันนี้ทองคำสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ย 50 วันหรือ $1,791 ได้ ก็มีโอกาสที่ราคาจะกลับตัวขึ้นไปยืนเหนือ $1,800 ได้อีกครั้ง”
บริษัทหลักทรัพย์ชื่อดังเครดิตสวิสได้เขียนบทวิเคราะห์เกี่ยวกับทองคำออกมาเมื่อวานนี้ว่า
“เพราะทองคำสามารถดีดตัวกลับขึ้นมาจากจุดต่ำสุด $1,679.80/ $1,677.83 ขึ้นไปยัง $1,810 ได้ ดังนั้นเราจึงประเมินว่าทองคำยังมีแรงส่งขาขึ้นเพียงพอที่จะพาตัวเองขึ้นยืนเหนือ $1,800 ได้อย่างมั่นคง สำหรับนิยามของคำว่า “ย่อ” ในตอนนี้เราประเมินแนวรับเอาไว้ไม่เกิน $1,750 ซึ่งเป็นจุดต่ำสุดของทองคำในวันที่ 29 มิถุนายน ในระยะสั้นความเสี่ยงอาจจะมีมากกว่า แต่ในระยะยาวแล้วก็ยังเชื่อว่าทองคำจะสามารถสร้างขาขึ้นได้”
“สรุปก็คือ” เครดิตสวิสปิดท้าย “เรามองแนวต้านเอาไว้สามระดับคือ $1,834 $1,856/57 และ $1,874 ส่วนแนวรับเราประเมินเอาไว้ที่ $1,679/77 $1,670 และ $1,587”