รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

เจเน็ต เยลเลนออกโรงหนุนคำเตือนประธานเฟดเกี่ยวกับการระบาดของเดลตา

เผยแพร่ 23/08/2564 16:53
อัพเดท 02/09/2563 13:05

การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ดูจะมีประเด็นให้น่าติดตามมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางช่วงเวลาที่ยอดผู้ติดเชื้อโควิดใหม่ในสหรัฐอเมริกาปรับตัวสูงขึ้น นักลงทุนเริ่มเป็นกังวลว่ารายงานสภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นมาต่อเนื่องก่อนหน้านี้อาจไม่มีน้ำหนักพอที่จะโน้มน้ามธนาคารกลางสหรัฐฯ ให้ลดวงเงินการทำ QE 

นายโรเบิร์ต เคปแลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ สาขาดัลลัสให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าการระบาดของเชื้อไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตาในปัจจุบันอาจทำให้เขาเปลี่ยนมุมมองต่อการลด QE ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาคือคนที่สนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ รีบปรับลดวงเงินซื้อพันธบัตรรัฐบาล

“การเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นเร็วกว่าที่เราคิด การระบาดของโควิดรอบใหม่ทำให้ผู้คนยังไม่สามารถกลับไปทำงานในเมืองได้อย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ดีผมยังสนับสนุนให้มีการลด QE ในเดือนหน้าอยู่ แต่ผลกระทบทางเศรษฐกิจนับจากนี้อาจจะทำให้ผมจำเป็นต้องเปลี่ยนใจ” - ประธานธนาคารกลางสาขาดัลลัสกล่าว

การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ระลอกนี้ยังส่งผลกระทบไปถึงการประชุมใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แจ็คสัน โฮล รัฐไวโอมิง ประธานธนาคารกลางแห่งเคนซัส ซิตี้ ได้ประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันศุกร์ว่าการประชุมใหญ่ที่แจ็คสัน โฮลที่ปกติแล้วทุกคนต้องไปประชุมร่วมกัน จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการประชุมเป็นปีที่สองติดต่อกัน ในการประชุมประจำปีนี้ยังจำเป็นต้องดำเนินการผ่านออนไลน์เหมือนปีที่แล้ว


สัญญาณเตือนเศรษฐกิจชะลอตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ถึงไม่ต้องมีตัวเลขเศรษฐกิจ เราเชื่อว่าทุกคนคงสามารถสัมผัสได้ว่าสัญญาณเศรษฐกิจชะลอตัวได้เกิดขึ้นรอบๆ ตัวเราแล้ว เราเห็นจุดตรวจเช็คผู้คนที่สนามบินลดลง ยอดจองโต๊ะอาหารในภัตตาคารน้อยลง นั่นจึงเป็นเหตุผลให้การประชุมที่แจ็คสัน โฮลในช่วงปลายสัปดาห์นี้น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีความเป็นไปได้ว่าผลกระทบที่พึ่งเกิดขึ้นอาจทำให้ประธานเฟดมีข้ออ้างคงนโยบายการเงินเอาไว้ดังเดิม

ที่ผ่านมา นายเจอโรม พาวเวลล์ยืนยันมาโดยตลอดว่าเพราะเศรษฐกิจอเมริกายังไม่ได้ฟื้นตัวจนถึงระดับที่ธนาคารกลางประเมิน ดังนั้นจึงมีความจำเป็นต้องคงนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายเอาไว้ แต่ในช่วงไตรมาสที่ 3 ตัวเลขทางเศรษฐกิจของอเมริกาแสดงหลักฐานที่ว่าเศรษฐกิจมีการฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งส่งแรงกดดันมาถึงพาวเวลล์ทุกครั้ง แต่เขาก็ยังยืนหยัดว่าจำเป็นต้องคงนโยบายการเงินต่อไป

อันที่จริงนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่าการลดวงเงิน QE จะเกิดขึ้นในการประชุมครั้งถัดไปเดือนกันยายน แต่การระบาดโควิดในอเมริกาตอนนี้ทำให้เฟดมีข้ออ้างคงดอกเบี้ยนโยบายเอาไว้ดังเดิม และทำให้ความกดดันจากรายงานการประชุม FOMC ในเดือนกรกฎาคมลดลงอย่างไม่สามารถหาเหตุผลมาโต้เถียงได้ อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์เชื่อว่าการประชุมจะยังได้ข้อสรุปออกมาเป็นลด QE 

“เรา (นักวิเคราะห์) ยังเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะเริ่มปรับลด QE ตามแผนเดิมคือภายในการประชุมครั้งนี้หรือไม่ก็เดือนกันยายน เพราะเมื่อดูจาก KPI ของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ตั้งไว้เกี่ยวกับการปรับนโยบายการเงิน ตอนนี้ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าปรับตัวขึ้นจนถึงเป้า KPI เกือบหมดทุกอย่าง เหลือเพียงการจ้างงานเท่านั้นที่ใกล้จะแตะตัวเลขที่เฟดต้องการแล้ว”

ที่น่าสนใจคือการวิเคราะห์ของนักลงทุนนี้ออกมาท่ามกลางความสงสัยเกี่ยวกับสถานการณ์การระบาดของเดลตาที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้กระทั่งในเดือนกรกฎาคมเอง ในรายงานการประชุมของ FOMC ครั้งล่าสุดของเดือนกรกฎาคมยังระบุไว้ว่า “การระบาดของโควิดเดลตาอาจทำให้การจ้างงาน และการกลับมาเปิดเมืองเปิดพื้นที่ทางเศรษฐกิจชะลอตัวออกไป”

หากการระบาดระลอกนี้ในสหรัฐฯ ยังมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จะเท่ากับว่าการตัดสินใจคงนโยบายการเงินที่ผ่านมา และการคาดการณ์ที่เจอโรมมีต่อเศรษฐกิจนั้นถูกต้อง ความดีความชอบนี้อาจจะทำให้เจเน็ต เยลเลน เสนอต่อประธานาธิบดีโจ ไบเดนให้เจอโรม พาวเวลล์เป็นประธานเฟดต่อไป นักวิเคราะห์คาดว่าโจ ไบเดนจะตัดสินใจเรื่องประธานเฟดก่อนวันวันแรงงาน

ท่ามกลางกระแสสนับสนุนให้มีการลด QE นายเจอโรม พาวเวลล์ก็ยังยึดมั่นกับความคิดของเขาที่ว่าควรจะคงนโยบายทางการเงินแบบผ่อนคลายต่อไป ในการให้โอวาทกับนักศึกษามหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้ เจอโรม พาวเวลล์ได้บอกกับนักศึกษาเหล่านั้นว่า “การระบาดของโควิดได้เปลี่ยนรูปแบบของเศรษฐกิจไปโดยสิ้นเชิงแล้ว”

“เป็นความจริงที่ต้องยอมรับว่าต่อให้การระบาดระลอกนี้จบลง มนุษยชาติจะไม่มีทางกลับไปใช้ชีวิตได้อย่างในปี 2019 ได้อีกแล้ว เราจะต้องจับตาดูการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจที่เปลี่ยนไปตามปัจจัยการระบาด พยายามทำความเข้าใจ ยอมรับความเปลี่ยนแปลง และปรับใช้นโยบายให้เข้ากับนโยบายทางเศรษฐกิจให้เหมาะสมที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้”

หากต้องการทราบผลกระทบที่โควิดมีต่อเศรษฐกิจ ในสัปดาห์นี้นักลงทุนสามารถตรวจสอบได้ผ่านการรายงานตัวเลขยอดขายที่อยู่อาศัยมือสอง ยอดคำสั่งซื้อสินค้าคงทน รายงานตัวเลขการบริโภคส่วนบุคคล และดัชนี PMI ภาคการผลิต

ความคิดเห็นล่าสุด

การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย