สรุป ราคาทองคํา ช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบ 1,803.50-1,813.91 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีแรงซื้อทองคําสลับเข้ามาเป็นระยะ แต่การปรับตัวขึ้นของราคาทองคํายังอยู่ในกรอบ จํากัด โดยมีปัจจัยกดดันเข้ามาเพิ่ม หลังสหรัฐประกาศตัวเลข CPI เดือนมิ.ย.พุ่งขึ้น 5.4% เมื่อเทียบรายปีซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปีนับตั้งแต่ปี 2008 และสูงกว่าที่ นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 5.0% ขณะที่สัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นของสหรัฐ (US FEDFUND FUTURES) สะท้อนการคาดการณ์ถึงโอกาส 90% ที่เฟดจะ ขึ้นดอกเบี้ยในเดือนธ.ค.2022 และคาดการณ์ถึงโอกาส 100% ที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือนม.ค.2023 นอกจากนี้ นายเจมส์ บุลลาร์ด ประธานเฟดสาขาเซนต์หลุยส์ ให้ สัมภาษณ์กับ The Wall Street Jouma ระบุว่า เขาสนับสนุนการเริ่มต้นลดมาตรการ QE เนื่องจากมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐเติบโตดี ขณะที่การระบาดของไวรัสโควิด-19อยู่ ภายใต้การควบคุมที่ดีขึ้น ปัจจัยที่กล่าวมาส่งผลให้ดอลลาร์และบอนด์ยีลด์สหรัฐพุ่งขึ้น จนสกัดช่วงบวกของราคาทองคํา ดังนั้นคาดว่าคืนนี้เวลา 23.00 น.ตามเวลาไทย นักลงทุนในตลาดจะรอดู การ Testimony ของ Jerome Powell ประธานเฟดต่อสภาคองเกรส ซึ่งเป็นแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐ ว่า Powell จะมีมุมมองต่อเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมานี้อย่างไร หากพาวเวลระบุว่าเงินเฟ้อยังชั่วคราวและจะทยอยปรับลงได้ คาดหนุนทองไว้ แต่หาก Powell ส่งสัญญาณใดๆที่บ่งชี้ถึงการเตรียมลด QE หรือเร่งขึ้นดอกเบี้ย จะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคําได้ ด้านแนวโน้ม Gold Spot ประเมินว่า ราคาเคลื่อนไหวในกรอบ แม้แรงขายจะลดลงแต่แรงซ้อนซื้อสลับเข้ามาก็ไม่มาก ซึ่งหากราคาทองคําไม่สามารถยืนเหนือ 1,795-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจมีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อปรับฐาน ราคาต่อ เบื้องต้นหากการดีดตัวกลับไม่มาก หรือไม่สามารถยืนเหนือ 1,818-1,834 ดอลลาร์ต่อออนซ์ มีโอกาสเกิดแรงขายกลับลงมาอีกครั้ง แนะนํากลยุทธ์การลงทุน รอ จังหวะเข้าซื้อ บริเวณแนวรับ 1,795-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และราคาทองคําดีดตัวขึ้นไม่ผ่านโซน 1,818-1,834 ดอลลาร์ ต่อออนซ์ ทยอยแบ่งขายทํากําไรเพื่อลดความเสี่ยง
คําแนะนํา เน้นทํากําไรระยะสั้น ซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,795-1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,791 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือหากรับความเสี่ยงได้ไม่มาก หรือ หากถือ ครองทองคําอยู่แล้วอาจเลือกชะลอการเข้าซื้อ
ข่าวสารประกอบการลงทุน
(+) สหรัฐขาดดุลงบฯ 9 เดือนแรก 2.24 ล้านล้านดอลลาร์ กระทรวงการคลังสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขาดดุลงบประมาณพุ่งขึ้นแตะระดับ 2.24 ล้าน ล้านดอลลาร์ในช่วง 9 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2564 ซึ่งจะสิ้นสุดในวันที่ 30 ก.ย.นี้ แถลงการณ์ของกระทรวงระบุว่า รายได้ของรัฐบาลกลางสหรัฐ ในช่วง 9 เดือนแรกเพิ่มขึ้นแตะ 3.05 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่รายจ่ายเพิ่มสู่ระดับ 5.29 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งมาจากการจ่ายสวัสดิการสําหรับผู้ว่างงาน และโครงการเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สํานักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสสหรัฐ (ซีบีโอ) เปิดเผยตัวเลขประมาณการ ในช่วงต้นเดือนก.ค.ว่า ยอดขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐในปีงบประมาณ 2564 จะอยู่ที่ระดับ 3 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งใกล้เคียงกับสถิติเดิมที่ ระดับ 3.13 ล้านล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณ 2563 ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากที่สุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 สํานักข่าวซินหัวรายงานว่า ทําเนียบขาวได้ เปิดเผยข้อเสนองบประมาณมูลค่า 6 ล้านล้านดอลลาร์สําหรับปีงบประมาณ 2565 ซึ่งทําให้เกิดเสียงคัดค้านจากสมาชิกสภานิติบัญญัติของพรรครีพับลิ กันและผู้ตรวจสอบงบประมาณ มายา แมคกินนี่ส์ ประธานคณะกรรมการที่รับผิดชอบด้านงบประมาณของรัฐบาลกลางสหรัฐ (ซีอาร์เอฟบี) กล่าวว่า "มาตรการเยียวยาเศรษฐกิจของรัฐบาลสหรัฐมีขนาดใหญ่ขึ้น การใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น 3 ล้านล้านดอลลาร์, 4 ล้านล้านดอลลาร์ หรือแม้แต่ 6 ล้านล้าน ดอลลาร์โดยไม่มีการเพิ่มรายได้อย่างเพียงพอหรือปรับลดรายจ่ายลงนั้น ถือเป็นเรื่องที่น่ากังวลอย่างมาก"
(+) รองผอ.CDC สหรัฐชี้วัคซีนกระตุ้นภูมิกันโควิดอาจมีผลข้างเคียงรุนแรง นายเจย์ บัตเลอร์ รองผู้อํานวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐกําลังทบทวนความจําเป็นในการฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ซึ่งเป็นวัคซีนกระตุ้นภูมิคุ้มกันโควิด-19 ให้กับประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบสอง โดสแล้ว โดยขณะนี้กําลังรอข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อดูว่า วัคซีนกระตุ้นภูมินั้นมีความเสี่ยงที่จะก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่รุนแรงหรือไม่ นายบัตเลอร์แถลงว่า "เรา สนใจอย่างยิ่งที่จะรู้ให้ได้ว่า การฉีดวัคซีนโดสที่ 3 นั้นมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียงต่างๆ หรือไม่ โดยเฉพาะกลุ่มอาการที่รุนแรง แม้จะเกิดขึ้นได้ น้อยก็ตาม" นายบัตเลอร์ระบุว่า การฉีดวัคซีนโดสที่สองตามปกตินั้นมีความเชื่อมโยงกับการเกิดผลข้างเคียงในระดับที่สูง การฉีดวัคซีนโดสที่ 3 จึงอาจมี ความเสี่ยงที่มากขึ้นไปอีก
https://th.investing.com/currencies/xau-usd
กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT
https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary
บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th