🔥 ฟีเจอร์การคัดเลือกหุ้นระดับพรีเมียมโดย AI จาก InvestingPro ตอนนี้ลดสูงสุดถึง 50% รับส่วนลด

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ ภาคบ่าย ทองคำเจอแรงเทขาย สกัดราคา $1800

เผยแพร่ 08/07/2564 12:21
อัพเดท 09/07/2566 17:32
XAU/USD
-
GC
-
US10YT=X
-

สรุป ราคาทองคําช่วงเช้าแกว่งตัวในกรอบ 1,795.60-1,805.56 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ทองคําเผชิญแรงขายทํากําไร แต่การร่วงของราคาอยู่ในระดับจํากัด หลัง บอนด์ยีลด์ สหรัฐอายุ 10 ปี เคลื่อนไหวไม่ไกลจากระดับต่ําสุดรอบ 4 เดือน โดยเช้านี้อยู่ที่ 1.316% ยิ่งกดดันให้อัตราผลตอบแทนที่แท้จริง (Real Yield) ติดลบหนักขึ้นล่าสุดติดลบที่ ระดับ -0.95% สร้างแรงดึงดูดให้กับทองคํา ท่ามกลางความวิตกจากการระบาดของ COMID-19 สายพันธุ์เดลต้าที่เร่งขึ้นทั่วโลกและในสหรัฐ รวมไปถึง รายงานการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจําเดือนมิ.ย. โดยรวมเฟดบ่งชี้ว่ายังไม่บรรลุ substantial progress ซึ่งถือเป็นเงื่อนไขสําคัญในการเริ่มกลับมาดําเนินนโยบายคุมเข้มด้าน การเงิน แต่ในอีกทางหนึ่ง ดอลลาร์ได้แข็งค่าขึ้นอย่างมากจากแรงซื้อสกุลเงินปลอดภัย จึงทําให้ทองคําถูกแรงขายสลับออกมา อย่างไรก็ตาม ด้านค่าเงินบาทอ่อนค่าอย่าง มาก แตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 14 เดือนครั้งใหม่บริเวณ 32.49 บาท/ดอลลาร์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าและปัจจัยภายในประเทศกดดัน ทั้งยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ในไทยที่ เพิ่มขึ้นกว่า 7,000 ราย รวมทั้ง หนังสือพิมพ์นิกเคอิจัดทําดัชนีฟื้นตัวจากโควิด-19 บ่งชี้ว่า ประเทศไทยติดอันดับเกือบท้ายตาราง 118 จากกว่า 120 ประเทศและดินแดน ฟื้นตัวต่ําสุดในอาเซียน ส่งผลหนุนราคาทองคําในประเทศ แนวโน้ม Gold Spot ประเมินว่า แม้ว่าแรงขายจะลดลงแต่แรงซ้อนซื้อสลับเข้ามาก็ไม่มาก หากราคาทองคําไม่ สามารถยืนเหนือ 1,815 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ อาจมีผลให้ราคาปรับตัวลงเพื่อสะสมกําลัง หากราคาทองย่อตัวลงมาพยายามทรงตัวเหนือระดับ 1,787-1,774 ดอลลาร์ต่อ ออนซ์ ได้มีโอกาสเกิดแรงซื้อดันราคาฟื้นตัวขึ้นอีกครั้ง กลยุทธ์การลงทุน เน้นการเก็งกําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัว โดยเปิดสถานะซื้อเมื่อราคาอ่อนตัวลงมาใกล้ 1,7871,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หรือ หากถือครองทองคําอยู่แล้วอาจเลือกแบ่งทองคําออกขายทํากําไรหากราคาไม่ผ่านแนวต้าน บริเวณ 1,815-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์

คําแนะนํา สถานะซื้อสามารถถือทองคําต่อได้หากราคา ไม่หลุดแนวรับ 1,787-1,774 ดอลลาร์ต่อออนซ์ และไปรอลุ้น ขายทํากําไรบริเวณแนวต้าน 1,815-1,831 ดอลลาร์ต่อออนซ์

ข่าวสารประกอบการลงทุน

• (+) โควิดสายพันธุ์เดลตาเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐ-พบผู้ติดเชื้อกว่า 50% ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐคาดการณ์จากการจําลองข้อมูลว่าโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา (Delta) จากอินเดียกลายเป็นสายพันธุ์หลักในสหรัฐแล้ว โดยคิดเป็นสัดส่วนถึง 51.7% ของยอดผู้ติดเชื้อ ของสหรัฐในรอบ 2 สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 3 ก.ค. แทนที่สายพันธุ์อัลฟา (Alpha) จากอังกฤษ ซึ่งมีสัดส่วนลดลงเหลือ 28.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน ทั้งนี้ หลายรัฐในสหรัฐกําลังเผชิญปัญหาผู้ป่วยโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น และผู้ที่ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลพุ่งสูงขึ้น ขณะโรคโควิด-19 สายพันธุ์เดลตา แพร่ ระบาดอย่างรวดเร็วในประเทศ โดยขณะนี้พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาในทุกรัฐ ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐ และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ระบุว่า เชื้อไวรัสสายพันธุ์เดลตาติดต่อได้ง่ายกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ซึ่งมีความเสี่ยงอย่างมากต่อผู้ที่ไม่ได้เข้ารับการฉีดวัคซีน พร้อมเชิญชวนให้ชาวอเมริกันรีบ ฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของสายพันธุ์นี้ เมื่อเดือนพ.ค. ปธน.ไบเดนตั้งเป้าฉีดวัคซีนอย่างน้อยหนึ่งโดสแก่ผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 70% ภายในวันที่ 4 ก.ค. ซึ่งเป็นวันชาติสหรัฐ แต่มีเพียง 18 รัฐ และกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เท่านั้นที่บรรลุเป้าหมายดังกล่าว สถานีโทรทัศน์เอบีซี รายงานว่า 30% ของผู้ใหญ่ในสหรัฐไม่ได้เข้ารับการวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 และไม่มีแผนที่จะฉีดวัคซีน โดยในบรรดาผู้ที่ปฏิเสธการฉีดวัคซีน 73% ระบุว่า เจ้าหน้าที่ของสหรัฐกล่าวเกินจริงเกี่ยวกับความเสี่ยงของไวรัสสายพันธุ์เดลตา และ 79% คิดว่าพวกเขามีความเสี่ยงเพียงเล็กน้อยหรือไม่มีโอกาสที่จะป่วย ด้วยโรคโควิด-19 เลย

ดูกราฟราคาทองคำ SPOT XAU/USD

https://th.investing.com/currencies/xau-usd

กระทู้พูดคุยเกี่ยวกับราคาทองคำ SPOT

https://th.investing.com/currencies/xau-usd-commentary

บทความนี้จัดทำขึ้นโดย YLG Bullion International

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ 02-687-9888 กด 1 หรือเว็บไซต์ ylgbullion.co.th

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย