การย่อตัวกลับลงมายัง $1,800 ของทองคำในคืนวันอังคารอาจสร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนไม่ใช่น้อย อย่างไรก็ตามก็ยังถือว่าโชคดีที่ราคายังสามารถยืนเหนือ $1,800 ได้ ผู้เชี่ยวชาญบางคนมองว่าตราบใดที่ราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ $1,767 หรือ $1,790 ขึ้นไป ถือว่าเป็นสัญญาณขาขึ้นที่ดี ถึงกระนั้นนักลงทุนยังไม่อาจวางใจได้เพราะอินดิเคเตอร์ RSI ที่ถือได้ว่าขึ้นมาในระดับที่สูงแล้ว
ที่มา: S.K. Dixit Charting
ผลการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงินเมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา เราต่างก็ทราบกันดีถึงข้อสรุปที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างเร็วที่สุดภายในช่วงสิ้นปี 2022 แผนภูมิภาพแบบจุด (dot-plot) ที่เฟดนิยมใช้ได้ข้อสรุปว่าอัตราดอกเบี้ยอาจถูกปรับขึ้นเป็น 0.6% การประกาศดังกล่าวส่งราคาทองคำลงมาจาก $1,860 ถึงจุดต่ำสุดที่ $1,767.90
นอกจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแล้ว เหล่าบรรดาผู้วางนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังได้พูดถึงการถอนสภาพคล่องมูลค่า $120,000 ต่อเดือนออกจากตลาดด้วย เงินก้อนนี้ถูกแบ่งออกไปสองส่วน ส่วนหนึ่ง $80,000 ล้านเหรียญสหรัฐถูกนำไปซื้อพันธบัตรรัฐบาล ส่วน $40,000 ล้านเหรียญนั้นถูกนำไปใช้กับหลักทรัพย์ที่ได้รับกระแสเงินสดจากสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ (MBS) นักวิเคราะห์หลายคนมีความเห็นตรงกันว่า MBS อาจจะเป็นเงินส่วนที่ถูกเฟดถอนออกก่อนเพราะราคาที่อยู่อาศัยในอเมริกาในตอนนี้ที่แพงมากเกินไป
สิ่งที่นักลงทุนเฝ้ารอจะได้เห็นจากรายงานผลการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ คือรายละเอียดเชิงลึกที่ถูกคำนวณออกมาเป็นตัวเลขซึ่งระบุชัดเจนถึงการดึงสภาพคล่องออกจากระบบ แต่สิ่งที่ออกมาเมื่อคืนนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่นอกจากการระบุถึงท่าทีที่เหล่าบรรดาผู้วางนโยบายการเงินดูผ่อนคลายขึ้น และพูดถึงความหวังของผู้วางนโยบายว่าต้องการลดวงเงิน QE ให้ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้จากการประชุมในรอบก่อนเดือนมิถุนายน
ถึงแม้ว่าผลการประชุมจะหนุนมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาเป็นอย่างมาก แต่ราคาทองคำก็ยังสามารถขยับตัวขึ้นมาเรื่อยๆ จนสามารถขึ้นไปสร้างจุดสูงสุดในรอบสองสัปดาห์ได้ที่ $1,815.70 และอีกหนึ่งสาเหตุที่เป็นแรงผลักดันให้กับทองคำคือการต่อสู้กันเองระหว่างมูลค่าของผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปีและดอลลาร์สหรัฐ
นักวิเคราะห์จาก TD Securities วิเคราะห์สถานการณ์ทองคำในตอนนี้ว่า
“นับตั้งแต่วิกฤตโรคระบาดเกิดขึ้น ธนาคารกลางของทุกประเทศต่างมีบทบาทสำคัญในการช่วยพยุงเศรษฐกิจของประเทศตนเองอย่างสุดความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยหรือการเข้าซื้อสินทรัพย์ของรัฐบาลทุกประเภท แต่ในตอนนี้ ในปีที่เรากำลังก้าวออกจากเงื้อมมือโควิด สิ่งที่เราได้ติดกลับออกมาด้วยคือหนี้ในจำนวนมหาศาล ซึ่งธนาคารกลางก็ทราบเรื่องนี้ดี และเป็นเหตุผลให้พวกเขาได้ทำการสะสมทองคำมากยิ่งขึ้น”
นาง Dhwani Metha นักวิเคราะห์จาก FXStreet ให้ความเห็นว่า
“การย่อตัวลงมาของดัชนีดอลลาร์สหรัฐเมื่อคืนวันอังคารช่วยเปิดโอกาสให้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นเมื่อวานนี้ อย่างไรก็ตามรายงานการประชุมเมื่อคืนนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อราคาทองคำมากนักเนื่องจากตลาดทำใจเอาไว้อยู่แล้วว่าจะต้องเจอกับรายละเอียดที่เน้นถึงเรื่องการดึงมูลค่าของดอลลาร์สหรัฐขึ้น แต่ทองคำจะได้รับแรงสนับสนุนมากขึ้นเรื่อยๆ จากการระบาดของสายพันธุ์เดลตาที่จู่โจมทางเอเชียอย่างหนัก”
ในส่วนของการวิเคราะห์ทางเทคนิคด้วยทองคำสปอตนั้น ราคาทองคำยังคงวิ่งอยู่ต่ำกว่าเส้น EMA 50 วันและเส้นค่าเฉลี่ย SMA 200 วัน ที่ระดับราคา $1,815 โดยประมาณ นาย Sunil Kumar Dixit นักวิเคราะห์จาก S.K. Dixit Charting ประเทศอินเดียประเมินว่า
“พฤติกรรมราคาทองคำในตอนนี้สามารถยืนเหนือระดับราคา $1,790 และ $1,768 ได้เป็นอย่างดี เมื่อวัดด้วยเครื่องมือ Fibonacci Retracement แล้วพบว่าเป้าหมายถัดไปของราคาทองคำต่อจากนี้อยู่ที่ $1,815 ถึง $1,825 และถ้าแรงพอ ก็อาจสามารถขึ้นถึง $1,850 - $1,868 และจากการวิเคราะห์ด้วยอินดิเคเตอร์ stochastic รายสัปดาห์ก็ยังสนับสนุนให้ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อ”
เมื่อพูดถึงการวิเคราะห์ทางเทคนิค นาง Dhwani Metha ก็ได้เสนอความเห็นว่า
“ตราบใดที่ราคาทองคำยังสามารถยืนเหนือ $1,800 ได้ ตราบนั้นราคาก็ยังได้แรงสนับสนุนจากฝั่งขาขึ้น เส้นค่าเฉลี่ย 21 วันที่ระดับราคา $1,804 ยังสามารถทำหน้าที่เป็นแนวรับชั้นแรกได้เป็นอย่างดี ประกอบกับแนวรับชั้นสองที่ $1,789 ของเส้นค่าเฉลี่ย 100 วันยิ่งทำให้แนวโน้มขาขึ้นค่อนข้างแข็งแกร่ง ในกรณีที่รายงานการประชุมฉุดราคาทองคำลงมาจนหลุด $1,789 ให้พิจารณาแนวรับถัดไปที่ $1,785 และ $1,780”