ก่อนอื่นผมต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่ฝันลม ๆ แล้ง ๆ ด้วยว่าทองคำจะสามารถขึ้นไปถึง $2000 ได้ แต่ก็อย่าพึ่งหมดหวังไป ทองคำยังมีโอกาสขึ้นได้อยู่เป็นครั้งที่สองหากสามารถพาตัวเองกลับขึ้นไปได้อย่างน้อย $1,850 ที่ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมา ผมไม่ได้ตั้งใจจะซ้ำเติมนักลงทุนทองคำในตอนนี้ ผมคิดว่าขาลงครั้งนี้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องของกระแสมากกว่าการปรับลงตามปัจจัยพื้นฐาน มันถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องมองภาพรวมของตลาดทองคำและทิศทางของเศรษฐกิจตามความเป็นจริง ก่อนที่จะไปถึงตรงนั้นเราก็คงต้องกลับไปเริ่มกันกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันพฤหัสบดี...การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ
สิ่งที่เราได้จากการประชุมครั้งนี้มีอยู่สองเรื่องหลักๆ
ประเด็นที่ 1: ธนาคารกลางสหรัฐฯ ตัดสินใจร่นระยะเวลาการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากเดิมที่เคยประกาศเอาไว้ว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปี 2024 แต่ด้วยสถานการณ์เงินเฟ้อที่กดดันตลาดอยู่ทุกวัน จึงทำให้เฟดคิดได้ว่าถึงเวลาแล้วที่พวกเขาต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อสกัดความร้อนแรงนี้ ผลที่ได้ก็คือพวกเขาตัดสินใจเลื่อนเวลาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเข้ามาเร็วขึ้น และอาจจะปรับขึ้นถึงสองครั้งติดต่อกันภายในปี 2023
ความเป็นจริง: ผมอยากให้นักลงทุนในตอนนี้มีสติกันสักนิดนึง ตลาดลงทุนเทขายทองคำในชนิดที่แบบว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในวันพรุ่งนี้แล้ว จากแผนภูมิภาพแบบจุด (dot-plot) ของเฟด เราก็เห็นแล้วว่าพวกเขาตัดสินใจจะขึ้นดอกเบี้ยจริง แต่....กว่าจะขึ้นก็ต้องรอไปจนถึงปี 2023 ซึ่งถ้าลองนับนิ้วดูจากตรงนี้ เรายังมีเวลาอีก 2 ปีครึ่ง หรืออีก 30 เดือนกว่าเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้น
ประเด็นที่ 2: สำหรับเรื่องการปรับลดวงเงินการเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลหรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่าการปรับลด QE นั้นประธานเฟดเป็นคนพูดเองว่าได้มีการพูดคุยกัน “บ้าง” แล้ว ซึ่งคำว่า “บ้าง” แล้วนี่หมายความว่าเฟดยังไม่ได้กำหนดวันและเวลาที่แน่ชัดว่าการลด QE มูลค่า $120,000 ล้านเหรียญต่อเดือนนี้จะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ ยังต้องการข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจมากกว่านี้เพื่อกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม
ความเป็นจริง: ผมขอยกคำพูดของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่แถลงในวันนั้นขึ้นมาอ้างอิงเลยละกันเพื่อที่จะไม่ได้เข้าใจเจตนารมณ์ของผมผิดว่าเข้าข้างเฟดมากเกินไป
“เรา (เฟด) จะทำทุกทางเพื่อหลีกเลี่ยงปฏิกริยาตอบสนองที่ไม่จำเป็นในตลาดลาดลงทุนจนกว่าเป้าหมายที่พวกเขาตั้งไว้จะประสบความสำเร็จ (หมายถึงการจ้างงาน) เราจะลด QE ในจังหวะที่เรา “รู้สึก” ว่าเศรษฐกิจกลับเข้ามาอยู่ในจุดที่สมดุลแล้ว”
ส่วนตัวแล้ว ผมว่าคำพูดของเฟดในครั้งนี้ค่อนข้างชัดเจนมากกว่าเขาเห็นด้วยกับสิ่งที่ตลาดลงทุนกำลังคิดอยู่ในตอนนี้ แต่ตัวเลขเศรษฐกิจที่ออกมาก็เป็นความจริงอีกเช่นกันว่าการฟื้นตัวในตอนนี้ดีแต่เพียงหน้าฉากเท่านั้น ธุรกิจที่ตายไปแล้วในช่วงโควิดยังไม่สามารถฟื้นตัวกลับมาได้ และคนที่ได้ผลกระทบจากธุรกิจที่ล้มไปก็ยังมีอยู่ คนที่ได้กำไรจากขาลงของทองคำในรอบนี้มีอยู่เพียงกลุ่มเดียวคือคนที่ปิดคำสั่งซื้อเพื่อทำกำไรที่ $1,900 และตั้งใจจะกินสั้นๆ ในช่วงย่อตัวเพื่อขึ้นต่อเท่านั้น
สิ่งที่ทำให้ขาลงของทองคำครั้งนี้ยิ่งดูเป็นเรื่องของกระแสมากกว่ายึดตามความเป็นจริงก็คือ ตลาดเทขายทองคำทั้งๆ ที่การจ้างงานสหรัฐอเมริกาชะลอตัว? แม้กระทั่งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์นี้ก็ยังปรับตัวเพิ่มขึ้นเป็น 412,000 คน เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกหลังจากที่ปรับตัวลดลงมาตลอดเจ็ดสัปดาห์ติดต่อกัน? นี่คือเรียกว่าเศรษฐกิจดีแล้ว? แทนที่เราควรจะได้เห็นทองคำทำหน้าที่เป็นหลักประกันความเสี่ยงในช่วงที่เศรษฐกิจไม่ดี กลับกลายเป็นว่าเราได้เห็นขาลง 5% หรือประมาณ $120 แทน
โอเค นั่นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นไปแล้ว และผมก็ได้ระบายความคิดที่ผมมีต่อการกระทำอันบ้าคลั่งของคนในตลาดไปแล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ในเมื่อกราฟร่วงลงมาแล้ว สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้คือต้องวิเคราะห์ว่าราคาควรจะวิ่งไปทางไหนต่อ
จากการวิเคราะห์ของ Investing.com สำหรับขาขึ้นตอนนี้แนวต้านที่จะพอสามารถเรียกความมั่นใจของฝั่งกระทิงให้กลับมาได้ก่อนคือต้องขึ้นยืนเหนือ $1,800 ให้ได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่าภาพรวมของตลาดทองคำสปอตนั้นอยู่ในแนวโน้มขาลงชัดเจน และขาขึ้นในตอนนี้เป็นอะไรไม่ได้นอกจากการย่อขึ้นเพื่อลงต่อเท่านั้น
เมื่อกางเครื่องมือ Fibonacci ออกเพื่อหาแนวรับแนวต้าน จะพบว่ากรอบราคาการวิ่งของทองคำในตอนนี้จะอยู่ระหว่าง $1,766-$1,820 โดยมีแนวต้านอยู่ที่ $1,811 $1,825 และ $1,847 ส่วนแนวรับจะมีอยู่ที่ $1,760 $1,740 และแนวรับสุดท้าย $1,700
นักวิเคราะห์คนเก่งคนเดิมนาย Sunil Kumar Dixit หัวหน้านักวิเคราะห์จาก Dixit Charting ประเทศอินเดียวิเคราะห์ว่า
“จากการวิเคราะห์กราฟรายวันด้วยอินดิเคเตอร์ Stochastic ที่ตั้งค่าเอาไว้ 13 และ 16 ระบุว่าตอนนี้ราคาทองคำได้ลงมาถึงโซน oversold แล้ว และมีโอกาสที่ราคาจะดีดกลับจากจุดต่ำสุดบริเวณนี้ได้ โดยมีเงื่อนไขว่าต้องไม่หลุดลงไปวิ่งต่ำกว่า $1,770”
“ส่วนฝั่งขาลงนั้น” เขาวิเคราะห์ต่อ “ขึ้นอยู่กับว่าแนวรับ $1,770 จะตรึงราคาเอาไว้ได้หรือไม่ หากไม่แล้วมีโอกาสที่ทองคำจะลงต่อไปยัง $1,753 - $1,735 อินดิเคเตอร์ stochastic ที่ตั้งค่าเอาไว้ 49 และ 73 ในกราฟรายสัปดาห์ระบุว่า การดีดตัวขึ้นครั้งนี้อาจไปได้ไม่ไกลเกินกว่า $1,868 ขาลงครั้งนี้ทำให้นักลงทุนฝั่งกระทิงบางคนเสียขวัญและกำลังใจเป็นจำนวนมาก ต้องรอดูว่าหากขึ้นไปถึง $1,868 แล้วพฤติกรรมราคาทองคำตอนนั้นจะเป็นเช่นไรต่อไป”