เชื่อว่าทุกคนที่ได้ก้าวเข้ามาสู่โลกแห่งการลงทุนแล้วต้องเคยได้ยินคำนี้ “ซื้อถูกขายแพง (buy low sell high)” นี่เป็นหลักการณ์ (ที่จะเรียกว่าเป็นบัญญัติก็ได้) ที่นักลงทุนทุกคนท่องจำจนขึ้นใจ แต่น้อยคนมากที่จะสามารถปฏิบัติตามคำพูดนี้ได้จริงๆ
แต่สำหรับนักลงทุนระยะยาวหรือนักลงทุนที่กำลังสร้างพอร์ตเกษียณ พวกเขาไม่ได้สนใจประโยคนี้อีกต่อไป สิ่งที่พวกเขาตามหาคือหุ้นสักตัวที่มั่นใจได้ว่าจะสามารถ “ซื้อและถือ” ไปได้ยาวๆ จนพวกเขาจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าไม่มีหุ้นเหล่านี้ พวกเขาจะเอาเงินที่ไหนกินที่ไหนใช้
คุณสมบัติประการหนึ่งที่หุ้นกลุ่มนี้มักจะมีเหมือนกันคือความสามารถในการทนร้อนทนหนาว ฝ่ามรสุมโลกมามากมายไม่ว่าจะเป็น พิษเศรษฐกิจ ภัยสงคราม โรคระบาด คุณสมบัติเหล่านี้ได้เปลี่ยนบริษัทให้กลายเป็นตู้ ATM ที่เงินไม่เคยหมด ในบทความนี้เราได้นำหุ้นสามตัวที่มีลักษณะตรงตามที่ได้กล่าวไป เราเชื่อว่าหุ้นสามตัวนี้จะสามารถปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ ต่อเนื่อง ไปจนถึงทศวรรษหน้า
1. Lowe’s
บริษัทผู้เชี่ยวชาญในการปรับปรุงบ้าน ‘โลว์’ (NYSE:LOW) คือบริษัทแรกที่เรานึกถึง ในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยถูกลดลงมาอยู่ในระดับต่ำ การต่อเติมหรือการซื้อที่อยู่อาศัยกำลังเพื่องฟู สำหรับนักลงทุนระยะยาวจะมีอะไรดีไปกับการลงทุนให้หุ้นของบริษัทปรับปรุงที่อยู่อาศัยอีก
ในปี 2021 โลว์ถือเป็นหุ้นของบริษัทค้าปลีกเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยที่ทำผลงานได้ดีเป็นอันดับสอง นอกจากเรื่องอัตราดอกเบี้ยต่ำแล้ว โลว์ยังได้รับอานิสงส์จากการเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้คนที่หันมาทำงานอยู่บ้านเพราะต้องการหลีกเลี่ยงโควิดมากขึ้น นักวิเคราะห์ประเมินว่าต่อให้วิกฤตโควิดจะจบลง แต่เทรนด์การทำงานที่บ้าน ย้ายตัวเองออกมาจากชีวิตในเมืองจะเติบโตต่อไป ที่สำคัญ การทำงานอยู่ที่บ้านทำให้ผู้คนสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายลงได้ และมีเงินเพื่อมาต่อเติมบ้านมากขึ้น
โลว์ถือได้ว่าเป็นคู่แข่งคนสำคัญของบริษัทโฮมดีโป (NYSE:HD) แต่ข้อได้เปรียบของหุ้นโลว์นั้นอยู่ที่มีราคาถูกกว่าเมื่อเทียบราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิ (P/E) ปีเตอร์ ออพเพนไฮเมอร์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินของแอปเปิลได้วิเคราะห์หุ้นโลว์เอาไว้ว่า
“ผมเชื่อว่าการเปลี่ยนโครงสร้างภายในบริษัทเพื่อรองรับโลกที่เปลี่ยนไปหลังยุคโควิดจะช่วยให้บริษัทและหุ้นโลว์ปรับตัวขึ้นได้อีกมากในระยะสั้น”
ออพเพนไฮเมอร์ได้ตั้งราคาเป้าหมายของหุ้นโลว์เอาไว้ที่ $235 ต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากราคาปิดเมื่อวานนี้ 22.5% ตลอดทั้งปี 2021 หุ้นของโลว์ปรับตัวขึ้นมาแล้วประมาณ 50% จากจุดเปิดในวันที่ 1 มกราคม
2. Nextera Energy
หุ้นในกลุ่มสาธารณูปโภคคือตัวเลือกประเภทที่สองที่เราอยากนำเสนอสำหรับนักลงทุนสายถือยาว เหตุผลหลักๆ นั้นง่ายมาก บริษัทในกลุ่มนี้คือผู้ที่ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์เพื่อสร้างสาธารณูปโภคซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่เราไม่สามารถขาดได้
หุ้นในกลุ่มนี้ที่น่าสนใจคือหุ้นของบริษัท ‘เน็กซ์เอร่า เอ็นเนอจี้’ (NYSE:NEE) บริษัทชั้นนำด้านพลังงานสะอาด สร้างพลังงานไฟฟ้ามากกว่า 22 กิ๊กกะวัตต์ให้กับบ้านและธุรกิจทางอเมริกาตอนเหนือ นอกจากพลังงานไฟฟ้าแล้ว เน็กซ์เอร่ายังเป็นเจ้าของท่อส่งก๊าซธรรมชาติขนาดใหญ่และมีสถานที่จัดเก็บสต๊อกพลังงานในรูปแบบต่างๆ อยู่เป็นจำนวนมาก
สิ่งที่ทำให้เน็กซ์เอร่าแตกต่างไปจากบริษัทสาธารณูปโภคอื่นคือการเติบโตของบริษัทไม่ได้เกิดมาจากการสะสมของหนี้ เน็กซ์เอร่าเลือกที่เป็นพาร์ทเนอร์กับรัฐบาล ได้รับเงินอุดหนุนจากภาครัฐ ที่สำคัญนโยบายการพัฒนาบริษัทยังเป็นไปในทิศทางเดียวกับการรักษ์โลกของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ดังนั้นนักลงทุนระยะยาวที่เชื่อในโลกอนาคตที่เต็มไปด้วยพลังงานสะอาดควรมีหุ้นของบริษัทพลังงานโดยเฉพาะไฟฟ้าเอาไว้รองรับโลกอนาคต ในแง่ของการปันผลนั้น หุ้นเน็กซ์เอร่ามีเปอร์เซ็นต์การปันผลรายปีอยู่ที่ 2% ตัวเลขสำหรับการปันผลรายไตรมาสอยู่ที่ $0.385 ต่อหุ้น เน็กซ์เอร่ายังมีแผนที่จะเพิ่มเงินปันผลรายปีขึ้นอีก 10% คาดว่าเร็วที่สุดที่บริษัทจะเพิ่มเงินปันผลจะเกิดขึ้นในช่วงสิ้นปี 2022
3. Johnson & Johnson
บริษัทข้ามชาติในอุตสาหกรรมยา เครื่องมือแพทย์ สินค้าอุปโภคบริโภคและล่าสุดเจ้าของวัคซีนโควิดที่สามารถฉีดจบครบในเข็มเดียว ‘จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน’ (NYSE:JNJ) คือบริษัทสุดท้ายที่เราจะแนะนำ จอห์นสันแอนด์จอห์นสันถือเป็นแบรนด์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดของโลกแบรนด์หนึ่ง มีบริษัทย่อยอยู่ทั่วโลกมากถึง 260 บริษัท
ในแง่ของการปันผล มีไม่กี่บริษัทเท่านั้นที่สามารถเอาชนะจอห์นสันแอนด์จอห์นสันได้ บริษัทได้เพิ่มเงินปันผลในทุกๆ ไตรมาสติดต่อกันมาเป็นระยะเวลา 59 ปีแล้ว ด้วยความสามารถเช่นนี้จึงไม่แปลกใจที่นักลงทุนจะยกย่องให้หุ้นจอห์นสันแอนด์จอห์นสันเป็นหนึ่งในราชาแห่งการปันผล น้อยนักที่จะมีบริษัทที่สามารถปันผลต่อเนื่องได้ยาวนานถึงห้าทศวรรษติดต่อกัน
รู้หรือไม่ว่าจอห์นสันแอนด์จอห์นสันคือบริษัทที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์หลายอย่าง ตั้งแต่การคิดค้นวิธีการกายภาพบำบัดผู้ป่วยโรคมะเร็ง อุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ยาแก้ปวดไทลินอล และล่าสุดก็คือวัคซีนต้านโควิด-19
ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา จอห์นสันแอนด์จอห์นสันพึ่งจะประกาศเพิ่มเงินปันผลรายไตรมาสขึ้นอีก 5% คิดเป็น $1.06 ต่อหุ้น มีตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้นล่าสุดเพิ่มขึ้นจากปีก่อน $2.30 ขึ้นมาเป็น $2.59 ต่อหุ้นในการรายงานผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2021