ดอลลาร์สหรัฐดีดตัวกลับขึ้นมาก่อนที่จะมีการประกาศนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) แม้ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะทำได้ในระดับที่ดีมาก แต่นักวิเคราะห์ก็เชื่อว่าเฟดจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายทางการเงินใดๆ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมดอลลาร์สหรัฐจึงอ่อนค่าทั้งๆ ที่ข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจออกมาดีแทบจะทุกรายการ สิ่งที่นักลงทุนอยากทราบจากการประชุมของเฟดในวันนี้ก็คือพวกเขาจะออกมาแถลงตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์จริงๆ หรือไม่ เฟดจะยังต้องการรอตัวบ่งชี้ทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือจะคิดได้แล้วว่าอาจจะต้องเปลี่ยนนโยบายอะไรบางอย่างเนื่องจากเป้าหมายที่ตั้งไว้มาถึงเร็วกว่าที่คิด?
ไม่มีใครสามารถปฎิเสธความจริงได้ว่าสหรัฐฯ ทำได้อย่างดีเยี่ยมในเรื่องของการฟื้นเศรษฐกิจภายในประเทศ หลักฐานของการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพสามารถเห็นได้จากรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานที่ลดลง ระดับความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นจนสามารถแตะจุดสูงสุดได้ในรอบสิบสี่เดือน ดัชนีราคาที่อยู่อาศัยและยอดค้าปลีกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว รายงานล่าสุดจาก ISM เผยว่ากิจกรรมในภาคบริการขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วที่สุดตั้งแต่เคยมีการรายงานมา ในขณะที่ดัชนีภาคการผลิตทะยานขึ้นแตะจุดสูงสุดในรอบเกือบสี่สิบปี
สิ่งที่สหรัฐอเมริกาทำได้อย่างยอดเยี่ยมนับตั้งแต่โจ ไบเดนก้าวเข้ามารับตำแหน่งประธานาธิบดีก็คือการกระจายวัคซีน ตอนนี้ชาวอเมริกันวัยแรงงานเกินครึ่งได้รับวัคซีนไปแล้วอย่างน้อยหนึ่งโดส กรมควบคุมโรค (CDC) ของสหรัฐอเมริกาพึ่งประกาศผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด ประชาชนที่ฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้วสามารถออกไปใช้ชีวิตโดยไม่มีหน้ากากได้ (หากไปคนเดียว) หรือสามารถทำกิจกรรมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ โดยไม่ต้องมีหน้ากากได้ ข่าวดีเช่นนี้จึงทำให้นักวิเคราะห์มองว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจของอเมริกาจะยิ่งฟื้นตัวเร็วภายในช่วงหน้าร้อนที่กำลังจะมาถึง และตัวเลขการจ้างงานของเดือนเมษายนที่จะรายงานในสัปดาห์หน้านั้นจะต้องเพิ่มขึ้นตามการจ้างงานในภาคส่วนต่างๆ ที่มีความมั่นใจในการกลับมาเปิดกิจการมากขึ้น
แม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทราบข้อมูลตัวเลขเหล่านี้ดี แต่นักวิเคราะห์ก็ยังเชื่อว่าพวกเขาจะไม่เปลี่ยนแปลงนโยบายการเงินใดๆ ไปจนกว่าจะถึงเดือนมิถุนายนซึ่งจะมีการประชุมอีกครั้ง ถ้าวันนี้เฟดยังคงยืนยันคำเดิมและมองว่าอัตราเงินเฟ้อที่เร่งตัวขึ้นมาเป็นเพียงเรื่องชั่วคราว ดอลลาร์สหรัฐจะอ่อนค่าลง แต่ถ้าเฟดออกมาแถลงในทำนองที่ยอมรับว่าอัตราเงินเฟ้อเร่งตัวขึ้นมาเร็วหรือคิดที่จะมีการปรับเปลี่ยนนโยบายทางการเงิน ดอลลาร์สหรัฐจะแข็งค่าและอาจทำให้กราฟ USD/JPY วิ่งขึ้นยืนเหนือ 109 ได้แบบสบายๆ
ดอลลาร์สหรัฐจะสามารถรักษาขาขึ้นในระยะยาวเอาไว้ได้หรือไม่ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ภายนอกด้วย การกระจายวัคซีนที่ล่าช้าในยุโรปและการระบาดของโควิดในประเทศทางฝั่งเอเชียระลอกใหม่ยิ่งทำให้นักลงทุนต้องการถือครองดอลลาร์สหรัฐมากขึ้นในฐานะสกุลเงินสำรองปลอดภัย ถ้าหากการรายงานตัวเลข GDP ของสหรัฐฯ ที่จะเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้เพิ่มขึ้น ตลาดลงทุนก็จะยิ่งมีความมั่นใจกับเศรษฐกิจของสหรัฐฯ มากยิ่งกว่าเดิม ส่งผลโดยตรงกับความต้องการถือครองดอลลาร์มากขึ้นด้วย
นอกจากการประชุมของเฟดแล้ว การรายงานตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของออสเตรเลียและยอดค้าปลีกของแคนาดาก็ถือว่าน่าดูชม เมื่อเช้านี้ตัวเลข CPI รายไตรมาสของออสเตรเลียหดตัวลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ ส่วนตัวเลขค้าปลีกของแคนาดานั้นนักวิเคราะห์ประเมินว่าจะดีดตัวกลับขึ้นมาได้อย่างมีนัยสำคัญเพราะได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในสหรัฐอเมริกา