🥇 กฎข้อแรกของการลงทุนหรือ? รู้ว่าเมื่อใดควรประหยัด! รับส่วนลดสูงสุด 55% สำหรับ InvestingPro ก่อนโปรโมชั่น BLACK FRIDAY จะหมดเขตรับส่วนลด

การเพิ่มขึ้นของยอดผู้สมัครสมาชิกยังเป็นปัจจัยหลักในการเติบโตของ Netflix

โดยInvesting.com
ผู้เขียนHaris Anwar
เผยแพร่ 21/04/2564 15:07
DIS
-
NFLX
-
IXIC
-

- บริษัทรายงานผลประกอบการไปเมื่อวันที่ 20 เมษายนหลังจากตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ปิด
- ตัวเลขผลประกอบการ: $7,160 ล้านเหรียญสหรัฐ
- ตัวเลขการปันผลกำไรต่อหุ้น: $3.75

หากจะพูดว่าทุกวันนี้ธุรกิจการรับชมภาพยนตร์แบบสตรีมมิ่งนับวันยิ่งอยู่ยากขึ้นก็คงจะไม่ผิดนัก เมื่อมาตรฐานของผู้บริโภคสูงขึ้น การที่จะทำให้พวกเขารู้สึกตื่นเต้นได้กับหนังทุกเรื่องที่ออกมาจึงกลายเป็นเรื่องที่ท้าทายมากยิ่งขึ้นสำหรับบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้สร้างบริการสตรีมมิ่งขึ้นมาเป็นเจ้าแรกอย่าง ‘เน็ตฟลิกซ์’ (NASDAQ:NFLX)

ศึกภายในคิดว่าหนักหน่วงแล้ว ตอนนี้เน็ตฟลิกซ์ยังต้องเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่สร้างรูปแบบการให้บริการแบบเดียวกันขึ้นมาอีกจากทั้งในและนอกประเทศ เกิดเป็นคำถามตัวใหญ่ๆ ว่า “แล้วแบบนี้หุ้นเน็ตฟลิกซ์จะยังสามารถรักษาระดับการเติบโตเอาไว้ได้อยู่หรือไม่” ดังนั้นสิ่งที่นักลงทุนจะมองหาจากการรายงานผลประกอบการครั้งนี้คือเน็ตฟลิกซ์จะมีวิธีพิสูจน์ตัวเองอย่างไรว่าพวกเขายังไม่มาถึงทางตันของวงการภาพยนตร์สตรีมมิ่งNFLX Weekly TTM

นับตั้งแต่เริ่มต้นปี 2021 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน หุ้นเน็ตฟลิกซ์ยังคงวิ่งทรงตัวอยู่ในกรอบราคาประมาณ $540 ทั้งๆ ที่ปีที่แล้วสามารถวิ่งขึ้นมาได้ตลอดทั้งปี 67% ขนาดว่าดัชนีแนสแด็กในปีนี้ยังปรับตัวขึ้นนำเน็ตฟลิกซ์ไปแล้วมากถึง 8%

ก่อนหน้านี้ในปี 2019 เน็ตฟลิกซ์เคยมีปัญหาเกี่ยวกับการบริหารเงินภายในบริษัท พวกเขาใช้วิธีกู้เงินมาทำภาพยนตร์เพื่อต่อยอดการเติบโตของตัวเอง ทำให้กลายเป็นปัญหาเรื้อรังที่ในตอนนั้นมีแต่คนบอกว่านี่เป็นปัญหาที่ไม่มีทางแก้ไขให้จบสิ้นได้โดยง่าย ในปี 2019 เน็ตฟลิกซ์เคยมีรายงานตัวเลขสภาพคล่องติดลบมากถึง $3,300 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม เน็ตฟลิกซ์ก็ได้พยายามแก้ไขปัญหานี้มาโดยตลอด พวกเขาเลิกกู้เพื่อเอาเงินมาทำภาพยนตร์และสามารถปรับตัวเลขสภาพคล่องให้ดีขึ้นมาเรื่อยๆ ได้ในทุกๆ ไตรมาส ที่สำคัญ เน็ตฟลิกซ์ยังสามารถรักษามาตรฐานการผลิตภาพยนตร์ของตัวเองเอาไว้เป็นอย่างดี เพราะถึงแม้จะมีคู่แข่งเกิดขึ้นมาใหม่ แต่จากการรายงานผลประกอบการเมื่อปีที่แล้ว เน็ตฟลิกซ์ก็ยังสามารถทำยอดผู้สมัครสมาชิกให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้ ทำให้หุ้นของบริษัทยังเป็นที่น่าสนใจอยู่ในระยะยาว

การขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ทำให้ธุรกิจภาพยนตร์สตรีมมิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นเพราะผู้คนต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจากการออกไปทำงานข้างนอกมาเป็นการทำงานอยู่บ้าน ทำให้ปีที่แล้วเน็ตฟลิกซ์ยังมียอดผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้นมากถึง 36.6 ล้านคน ถึงกระนั้นการแพร่ระบาดนี้ก็สร้างการเติบโตให้กับคู่แข่งคนสำคัญอย่างดิสนีย์ (NYSE:DIS) ด้วย หลังจากเปิดตัวสตรีมมิ่งของตัวเองในชื่อ ‘ดิสนีย์พลัส (Disney+)’ พวกเขาก็มียอดผู้สมัครสมาชิกภายในสหรัฐอเมริกาทันที 87 ล้านคน

สิ่งที่เน็ตฟลิกซ์ยังได้เปรียบคู่แข่งคนอื่นๆ อยู่คือการเป็นผู้ริเริ่มทำก่อนจึงทำให้เน็ตฟลิกซ์มีตลาดที่หลากหลายกว่าในหลายๆ พื้นที่ทั่วโลก แม้ว่าตลาดของเน็ตฟลิกซ์จะเริ่มถึงจุดอิ่มตัวแล้วในพื้นที่แถบอเมริกาเหนือ แต่พวกเขายังได้รับความนิยมต่อเนื่องจากผู้ชมในยุโรปและลาตินอเมริกา ข้อมูลจากสำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่าลูกค้าของเน็ตฟลิกซ์ 60% เป็นผู้ที่อาศัยอยู่นอกสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ยอดผู้สมัครสมาชิกใหม่ 83% มาจากต่างประเทศ ยุโรปมีผู้สมัครเป็นสมาชิกใหม่ประมาณ 15 ล้านคนหรือคิดเป็น 41% ในขณะที่เอเชียมียอดผู้สมัครสมาชิกเพิ่มขึ้น 9.3 ล้านคน

ที่สำคัญ ดูเหมือนว่าเน็ตฟลิกซ์จะเข้าใจกลยุทธ์การทำตลาดกับผู้คนในพื้นที่ท้องถิ่นเป็นอย่างดี ยกตัวอย่างเช่นภาพยนตร์ซีรีส์เรื่อง ‘ลูแปง’ ก็สามารถเรียกยอดผู้สมัครสมาชิกจากพื้นที่ยุโรปได้ หรือซีรีส์เรื่อง ‘วินเชนโซ่ ทนายมาเฟีย’ ก็ได้รับเสียงตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคในเกาหลีใต้และโซนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีข้อมูลออกมาว่าทันทีที่ลูแปงเริ่มฉายก็มีผู้รับชมมากถึง 70 ล้านคนภายในระยะเวลาเพียง 28 วัน

โดยสรุปแล้ว

จริงอยู่ว่าทุกวันนี้สถานการณ์การระบาดโควิดในอเมริกาเหนือนับวันยิ่งดีขึ้นเรื่อยๆ หมายความว่าผู้บริโภคจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติและเริ่มลดการชมภาพยนตร์จากสื่อสตรีมมิ่งลง แต่ตราบใดที่เน็ตฟลิกซ์ยังมีความเข้าใจถึงความต้องการของผู้บริโภคที่มีความแตกต่างกันในแต่ละพื้นที่ ตราบนั้นเน็ตฟลิกซ์ก็ยังสามารถยืนระยะในการสู้กับยักษ์ใหญ่แห่งวงการภาพยนต์รายใหญ่ได้ เพราะการที่จะเข้าใจว่าผู้บริโภคในแต่ละพื้นที่ ถือเป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลาอีกพอสมควร

หมายเหตุ: การรายงานผลประกอบการล่าสุดของเน็ตฟลิกซ์ที่ออกมา ถึงแม้กำไรในไตรมาสแรกของปี 2021 สามารถเอาชนะตัวเลขคาดการณ์ไปได้ แต่ยอดผู้สมัครสมาชิกกลับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นักวิเคราะห์หลายสำนักตั้งเป้าว่าเน็ตฟลิกซ์จะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้ 6.2 ล้านคน แต่ยอดสมาชิกที่ได้กลับอยู่ที่ 3.98 ล้านคนทั่วโลก ส่งผลให้หุ้นในตลาดปรับตัวลดลงมากถึง 11% ในเวลาเพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังมีรายงานผลประกอบการออกมา

ความคิดเห็นล่าสุด

กำลังโหลดบทความถัดไป...
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย