- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ฟื้นตัวหลังจากถูกเทขายในวันจันทร์
- การฟื้นตัวในยุโรปสะดุดหลังสหราชอาณาจักรต้องใช้มาตรการคุมโควิดที่เข้มงวดขึ้น
- ดอลลาร์ยังอ่อนค่าส่วนทองคำปรับตัวขึ้น
ตลาดซื้อขายสัญญาล่วงหน้าบนดัชนีดาวโจนส์ S&P 500 (NASDAQ:NDAQ)และรัสเซล 2000 ปรับตัวขึ้นในการซื้อขายวันอังคารหลังจากปิดติดลบมาก่อนหน้านี้ในวันจันทร์ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นเพราะตลาดเชื่อว่าผลการเลือกตั้งพิเศษรัฐจอร์เจียเมื่อคืนนี้จะสามารถช่วยหนุนตลาดหุ้นให้อยู่ในขาขึ้นต่อ ในขณะเดียวกันสถานการณ์ตลาดลงทุนในยุโรปยังไม่ฟื้นตัวหลังจากโดนโควิด-19 ถล่ม แม้จะมีวัคซีนต้านโควิดออกมาแล้ว แต่ความเร็วในการกระจายวัคซีนยังไม่สามารถสู้ความเร็วในการแพร่ระบาดได้เลยแม้แต่น้อย
ภาพรวมตลาดลงทุนทั่วโลก
ดัชนี STOXX 600ของอังกฤษปรับตัวลดลงทันทีที่ตลาดเปิดหลังจากได้ยินข่าวเตือนอย่างเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสันว่าหากไม่ล็อกดาวน์ประเทศอย่างจริงจัง ภายใน 21 วันนับจากนี้ระบบสาธารณสุขของประเทศจะล่มสลาย นอกจากนี้ดัชนี FTSE 100 ได้มีการปรับตัวลดลงเล็กน้อย คาดว่าได้รับผลกระทบมาจากการอ่อนค่าของสกุลเงินปอนด์เป็นไปได้ว่าราคาอาจจะลงไปถึง 1.34
อย่างไรก็ตาม ตลาดซื้อขายเสื้อผ้ารายย่อยของสหราชอาณาจักร (LON:NXT) ปรับตัวขึ้น 8% เพราะตัวเลขยอดขายในช่วงวันหยุดยาวปีใหม่ที่ผ่านมาดีขึ้น
ทางฝั่งตลาดหุ้นเอเชียนั้นส่วนใหญ่สามารถปิดบวกได้เกือบทั้งหมด ขานรับการประกาศข่าวดีจากหุ้นนิวยอร์ก (NYSE) ที่จะไม่นำหุ้นของสามบริษัทใหญ่สัญชาติจีนออกจากตลาด ในขณะเดียวกันตลาดหุ้นของเกาหลีใต้ KOSPI ปรับตัวขึ้น 1.7% สร้างจุดปิดใหม่สูงที่สุดเป็นวันที่หกวันติดต่อกัน ขานรับการคงอัตราดอกเบี้ยเอาไว้ดังเดิมของธนาคารกลางเกาหลีใต้ที่ 0.50% ดัชนีที่ใช้วัดหุ้นของตลาดในเอเชียแปซิฟิก MSCI ปรับตัวขึ้นในขณะที่นิคเคอิมีราคาซื้อขายลดลงเพราะการประกาศล็อกดาวน์จากรัฐบาลญี่ปุ่น
กลับมาที่ตลาดลงทุนสหรัฐฯ พบว่าดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปรับตัวลดลงตั้งแต่วันแรกของการซื้อขายของปี 2021 ไม่มี January Effect เกิดขึ้น หุ้นของบริษัทใหญ่ๆ ไม่ว่าจะเป็นแอปเปิล (NASDAQ:AAPL) อะเมซอน (NASDAQ:AMZN) โบอิ้ง (NYSE:BA) ต่างพากันปรับตัวลดลงเมื่อวันจันทร์ มีเพียงเทสลา (NASDAQ:TSLA) เท่านั้นที่สามารถกระโดดขึ้นได้ 5% และมีราคาปิดเป็นบวกที่ 3.5% ขานรับการส่งมอบรถได้ตามเป้า 500,000 คันในปี 2020
ประเด็นที่นักลงทุนให้ความสนใจมากที่สุดเมื่อคืนนี้คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของการเลือกตั้งพิเศษในรัฐจอร์เจีย ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวกำหนดว่าต่อจากนี้ไปอีกสี่ปีข้างหน้า พรรคเดโมแครตจะได้ครองสภาแบบเบ็ดเสร็จหรือไม่ อย่างไรก็ตามเดโมแครตจำเป็นจะต้องได้เก้าอี้ทั้งหมดสองที่นั่งเท่านั้นจึงจะทำให้ความฝันสีฟ้ากลายเป็นจริงเพราะหากได้เพียงตำแหน่งเดียว หมายความว่าผู้นำเสียงส่วนใหญ่นายมิตต์ แมคคอนเนลจากฝั่งรีพับลิกันจะยังสามารถทำหน้าที่ในสภาสูงต่อไปได้ การโหวตมติใดๆ ก็ตามของไบเดนในอนาคตก็จะไม่สามารถทำได้ง่ายดั่งใจนึก อย่างเช่น การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่เขาตั้งใจว่าในปี 2021 นี้จะกระตุ้นอีกอย่างน้อยสองรอบ
แม้ว่ากราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีจะยังสามารถไต่ขึ้นได้ แต่กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐกลับปรับตัวลดลงเป็นวันที่สองติดต่อกัน
ดอลลาร์ยังคงอ่อนค่าลงอย่างต่อเนื่อง สังเกตได้จากการที่ราคาวิ่งอยู่ในบริเวณที่ใกล้เคียงกับการทดสอบแนวรับที่เกิดจากจุดต่ำสุดของแท่งเทียนรูปค้อนตั้งแต่วันจันทร์
เมื่อดอลลาร์อ่อนค่า แน่นอนว่าทองคำต้องปรับตัวสูงขึ้น เมื่อวันจันทร์ทองคำได้ปรับตัวขึ้นอีก 2.4%
หลังจากสร้างรูปแบบหัวไหล่ (Head & Shoulder) ขึ้นมาแล้ว กราฟราคาทองคำก็ได้ปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ห้าติดต่อกันจนสามารถทะลุกรอบราคาขาลงขึ้นมาได้สำเร็จ
ราชาสกุลเงินดิจิทัลบิตคอยน์ปรับตัวลดลงมาเป็นวันที่สองติดต่อกันแล้่ว อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จากเจพี มอร์แกนประเมินว่าในระยะยาวราคาบิตคอยน์อาจสามารถขึ้นไปถึง $146,000 ต่อหนึ่งเหรียญบิตคอยน์ได้ แต่สำหรับตอนนี้หากบิตคอยน์สามารถลงมาต่ำกว่า $29,178 จะเปิดทางให้กับแนวโน้มขาลงในระยะสั้น
ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นหลังจากการประชุมของกลุ่มโอเปกได้ข้อสรุปว่ารัสเซียยอมไม่ขึ้นกำลังการผลิตเพิ่มแล้ว เพราะเข้าใจความกังวลของสมาชิกที่เหลือ เกี่ยวกับเรื่องไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่กำลังระบาดอยู่ในปัจจุบัน
การดีดตัวขึ้นมาของราคาน้ำมันดิบจากแนวรับในวันที่ 27 ธันวาคมเป็นการยืนยันว่ารูปแบบ double bottom ได้เกิดขึ้นอย่างสมบูรณ์แล้ว
ข่าวและเหตุการณ์สำคัญประจำสัปดาห์
- ประชุมของสภาคองเกรสเพื่อนับคะแนนโหวตจากคณะผู้เลือกตั้งและประกาศผู้ชนะการเลือกตั้งสหรัฐฯ แห่งปี 2020 อย่างเป็นทางการ
- รายงานการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) วันนี้
- การรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรของเดือนธันวาคมในวันศุกร์
สรุปภาพรวมความเคลื่อนไหวในตลาด
ตลาดหุ้น
ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 0.2%
ดัชนี STOXX 600 ปรับตัวขึ้น 0.1%
ดัชนีวัดตลาดหุ้นในประเทศแถบเอเชียแปซิฟิก MSCI ปรับตัวขึ้น 0.5%
ดัชนีตลาดเกิดใหม่จาก MSCI ปรับตัวขึ้น 0.5%
ตลาดสกุลเงิน
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลดลง 0.2% มีราคาอยู่ที่ 89.67
สกุลเงินยูโรเทียบดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.2% มีราคาอยู่ที่ 1.2269
สกุลเงินปอนด์เทียบดอลลาร์ปรับตัวขึ้น 0.1% มีราคาอยู่ที่ 1.3589
สกุลเงินดอลลาร์เทียบหยวนมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยเป็น 6.462 ต่อดอลลาร์
สกุลเงินดอลลาร์เทียบเยนปรับตัวขึ้น 0.2% มีราคาอยู่ที่ 102.90 ต่อดอลลาร์
ตลาดบอนด์
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปีปรับขึ้นหนึ่งจุดเบสิสเป็น 0.92%
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ 2 ปีปรับขึ้นน้อยกว่าหนึ่งจุดเบสิสเป็น 0.12%
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลเยอรมันอายุ 10 ปีปรับขึ้นหนึ่งจุดเบสิสเป็น -0.60%
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลญี่ปุ่นอายุ 10 ปีปรับขึ้นหนึ่งจุดเบสิสเป็น 0.011%
กราฟผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักร อายุ 10 ปีปรับขึ้นหนึ่งจุดเบสิสเป็น 0.181%
ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์
ราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นยืนเหนือ $50 ต่อบาร์เรล
สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันเบรนท์สามารถขึ้นไปแตะ $53.44 ต่อบาร์เรล
ทองคำมีราคาซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.215% คิดเป็น $1,951.20 ต่อออนซ์