การลงทุนในตลาดลงทุนโดยเฉพาะอย่างยิ่งสินค้าโภคภัณฑ์เป็นที่น่าจับตามองตั้งแต่สัปดาห์แรกของปี 2021 หลังจากที่เราได้ทราบกันไปแล้วว่าใครจะได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐอเมริกาแต่ยังเหลืออีกเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นที่จะทำให้เขามีอำนาจได้อย่างสมบูรณ์ 100% นั่นก็คือการเลือกตั้งพิเศษในรัฐจอร์เจีย หากผลการเลือกตั้งที่ออกมาเป็นชัยชนะของเดโมแครต เท่ากับว่าสี่ปีข้างหน้านับจากนี้การบริหารประเทศจะตกเป็นของพรรคสีน้ำเงินอย่างสมบูรณ์ ส่งผลให้โจ ไบแดน อยากดำเนินการในเรื่องอะไรก็สามารถทำให้อย่างไม่สะดุด รวมถึงการออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่จะทำให้สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐยิ่งอ่อนค่า และทำให้ทองคำนั้นยิ่งมีแต่โอกาสปรับตัวสูงขึ้น
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อเป้า $2,600 ของทองคำในปีนี้เป็นไปได้
จากผลสำรวจของ Kitco ที่ได้สำรวจนักลงทุนในทองคำแท่งเกือบสองพันคนในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมาได้ข้อสรุปตรงกันว่าพวกเขาเชื่อว่าทองคำจะสามารถยืนเหนือ $2,000 ต่อออนซ์ได้ภายในก่อนสิ้นปี 2021
“จากผลการสำรวจนักลงทุน 1,944 คนพบว่ามีนักลงทุนมากถึง 1,646 คนหรือคิดเป็น 84% ที่เชื่อว่าทองคำจะสามารถมีราคาซื้อขายมากกว่า $2,000 ได้ภายในสิ้นปีนี้ ราคาเฉลี่ยที่ผู้เข้าร่วมการสำรวจระบุว่าราคาทองคำจะขึ้นไปถึงนั้นอยู่ที่ $2,300 มีนักลงทุนประมาณ 14% ที่เชื่อว่าทองคำจะสามารถขึ้นไปได้มากถึง $2,500 - $2,600”
เชื่อว่าหนึ่งในแรงกระเพิ่มที่จะส่งผลกับราคาทองคำทันทีก็คือผลการเลือกตั้งพิเศษในรัฐจอร์เจียระหว่างตัวแทนจากพรรคเดโมแครตนายราฟาเอล วอร์นนอร์กจับคู่กับนายโจน ออสซอร์ฟ เจอกับเคลลี่ โลฟเฟอร์และเดวิด เพิดดรูว์จากรีพับลิกัน หากการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคเดโมแครตชนะจะเท่ากับว่าพวกเขาได้ครองทุกอย่างทั้งทำเนียบขาว สภาสูงและสภาล่าง ซึ่งจะส่งผลให้โจ ไบเดน สามารถออกมาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจที่เขาต้องการอีกสองครั้งได้ภายในปี 2021 สำหรับนักลงทุนในทองคำ การมาของโจ ไบเดนนับเป็นข่าวดียิ่ง แต่สำหรับนักลงทุนในตลาดหุ้น การได้ผู้นำคนนี้อาจเป็นข่าวร้ายสำหรับพวกเขาเมื่อต้องเจอกับนโยบายขึ้นภาษีบริษัทเอกชน
ชัยชนะของเดโมแครต = ชัยนะของนักลงทุนทองคำ
นักวิเคราะห์หลายคนมีมุมมองที่คล้ายกันว่าหากชัยชนะในการเลือกตั้งจอร์เจียนี้ตกเป็นของเดโมแครตจะส่งผลดีกับราคาทองคำอย่างมีนัยสำคัญ Ed Moya นักวิเคราะห์อาวุโสแห่งโบรกเกอร์ OANDA วิเคราะห์เอาไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า
“หากตัวแทนของพรรคเดโมแครตสามารถเอาชนะการเลือกตั้งในวันพรุ่งนี้ได้จริง การออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับโจ ไบเดนจะเป็นอะไรที่ง่ายขึ้นมาก นั่นจะยิ่งทำให้ดอลลาร์อ่อนมูลค่าลงและทำให้ทองคำสามารถกลับขึ้นมาวิ่งอยู่ในระดับราคา $1,900 กลางๆ ได้”
กราฟดัชนีดอลลาร์สหรัฐพึ่งลงมาแตะจุดต่ำสุดในรอบ 32 เดือนได้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เป็นผลต่อเนื่องมาจากมาตรการผ่อนคลายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ ไม่ว่าจะเป็นการลดอัตราดอกเบี้ยลงมาเกือบ 0% การกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ารวมสองรอบเกิน $4 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐขึ้นไปแล้ว
Raja Adnan นักวิเคราะห์จากปากีสถานมีความเห็นกับราคาทองคำว่า
“เหตุผลหลักๆ ที่ราคาทองคำปรับตัวสูงขึ้นได้ทันทีที่เริ่มปีใหม่เป็นเพราะนักลงทุนที่กลับมาจากช่วงวันหยุดยาวได้ขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการทิ้งดอลลาร์และหันไปถือสินทรัพย์สำรองปลอดภัยประเภทอื่นกันมากขึ้น ยิ่งถ้าพรรคเดโมแครตได้ชัยชนะในวันพรุ่งนี้ด้วย จะยิ่งง่ายสำคัญการควบคุมสภาของโจ ไบเดน และทีมงานรวมถึงง่ายต่อการขึ้นของทองคำอีกด้วย”
แมคคอนเนลจะเป็นก้างขวางคอสำหรับเดโมแครตหรือไม่?
อย่างไรก็ตามสถานการณ์จะเปลี่ยนไปทันทีหากว่าการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้เดโมแครตได้เก้าอี้ในสภาสูงมาเพียงเก้าอี้เดียว เพราะนั่นจะหมายความว่าผู้นำเสียงฝ่ายข้างมากนายมิตต์ แมคคอนเนลจะยังสามารถรักษาเก้าอี้ของเขาเอาไว้ได้ต่อไป รับรองได้ว่าเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อยังยั้งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ถือว่าออกมามากเกินควร
ตลอดปี 2020 มิตต์ แมคคอนเนล มีส่วนสำคัญอย่างมากกับการยื้อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในรอบที่สองและยังเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้รอบนี้สหรัฐฯ ได้เงินมาเพียง $900,000 ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้นเมื่อเทียบกับการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบแรกจำนวน $3 ล้านล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐ ที่สำคัญเขายังมีส่วนคัดค้านเงินเยียวยา $2,000 ต่อคนจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์อีกด้วย
Jeffrey Halley นักวิเคราะห์จากโบรกเกอร์ OANDA สาขาเอเชียแปซิฟิก มีความเห็นว่า
“นักลงทุนไม่ควรเทใจให้กับชัยชนะของพรรคเดโมแครตในการเลือกตั้งวันพรุ่งนี้มากนัก เพราะหากพลาดขึ้นมาแล้วมิตต์ยังได้อยู่ในตำแหน่งเดิม เกมการเมืองของสหรัฐฯ ในปีนี้จะสนุกขึ้นมากกว่าชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จของเดโมแครตหลายเท่านัก นักวิเคราะห์อาจจะได้เล่นข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเดียวยาวตลอดทั้งปี 2021 เลยก็เป็นได้”