ความเสี่ยงกลับมาแล้ว! อ้างอิงจากดัชนีวัดความผันผวนในตลาด (VIX) ที่มีชื่อเล่นในหมู่นักลงทุนว่า “เกจวัดความกลัวของตลาดลงทุน” กำลังปรับตัวสูงขึ้นจากจุดต่ำสุดเดือนพฤศจิกายนซึ่งสอดคล้องกับไดเวอร์เจนต์ขาลงที่กำลังเกิดขึ้น ณ บริเวณระดับราคาสูงสุดบนตลาดหุ้น แม้วัคซีนต้านโควิดจะถูกนำออกมาแจกจ่ายแล้ว แต่ความเร็วในการกระจายวัคซีนนั้นเทียบไม่ได้กับความเร็วในการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 เลย โดยเฉพาะโควิดที่กลายพันธุ์ในสหราชอาณาจักรที่มีรายงานว่าสามารถแพร่กระขายตัวได้เร็วกว่าแบบเดิมถึง 70% ข่าวร้ายนี้คือเชื้อเพลิงอย่างดีสำหรับขาขึ้นของทองคำและอาจทำให้ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงในระยะยาว
จากการสังเกตขาลงของดัชนีดอลลาร์สหรัฐยิ่งทำให้เราเชื่อว่าราคาทองคำมีโอกาสไปต่อในแนวโน้มขาขึ้น โดยธรรมชาติแล้วดอลลาร์สหรัฐกับทองคำถือเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ขาขึ้นของดอลลาร์เป็นสัญลักษณ์ของเศรษฐกิจที่ดี ในทางกลับกันหากทองคำปรับตัวขึ้นหมายความว่าเศรษฐกิจกำลังมีปัญหาเพราะผู้คนหันไปถือสินทรัพย์สำรอง (ที่เชื่อว่า) ปลอดภัยมากกว่า
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลกในตอนนี้ทำให้เรามองว่าการขึ้นจนทะลุกรอบปรับฐานลงของทองคำยิ่งกลับมามีโอกาสมากขึ้นแม้ว่าทองคำจะยังคงวิ่งอยู่ในกรอบขาลงที่ลากมาตั้งแต่จุดสูงสุดเดือนสิงหาคมก็ตาม ในบทความนี้เราจะอธิบายให้เห็นว่าทำไมทองคำจึงมีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยเริ่มจากการอธิบายกราฟระยะยาวรายสัปดาห์
หากมองจากภาพมุมนี้ต้องบอกก่อนว่าที่จริงแล้วราคาทองคำยังอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น การวิ่งลงมาจากจุดสูงสุดเดือนสิงหาคมตอนนี้เป็นเพียงการย่อลงมาทดสอบเส้นค่าเฉลี่ย 50 สัปดาห์เท่านั้น อย่างที่เห็นกราฟมีปฏิกริยากับแนวรับดังกล่าว ราคาหยุดปรับตัวลงและดีดขึ้นจากแนวรับนี้ทันที ยิ่งไปกว่านั้นอินดิเคเตอร์ RSI และ ROC ต่างส่งสัญญาณพร้อมที่จะปรับตัวกลับไปเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้ว
เมื่อเราสามารถวิเคราะห์แนวโน้มใหญ่ได้แล้ว ต่อไปก็มาดูกราฟในช่วงเวลาที่เล็กลงอย่างกราฟรายวัน
ราคาทองคำในกราฟรายวันอยู่ในขาขึ้นมาช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วนับตั้งแต่สร้างรูปแบบหัวไหล่ด้านหงาย (Inverted Head & Shoulder) ได้สำเร็จ จากรูปจะเห็นว่าตอนนี้ราคากำลังทดสอบแนวรับซึ่งเป็นเส้น neckline ที่เกิดจากจุดสูงสุดครั้งก่อนหน้า ตามทฤษฎีแล้วอิทธิพลของรูปแบบหัวไหล่จะคงอยู่ในตลาดเป็นระยะเวลาประมาณสามเดือน
จากรูปจะเห็นตอนนี้ราคาทองคำเหลืออีกเพียงก้าวเดียวเท่านั้นสำหรับการเคลื่อนไหวสำคัญ ไม่ว่าจะทะลุขึ้นหรือลง จะเป็นการเรียกนักลงทุนฝ่ายนั้นๆ กลับเข้ามายังตลาดทันที ส่วนตัวแล้วเราเอียงไปทางชาขึ้นมากกว่าเพราะแนวโน้มขาลงในช่วงสามวันล่าสุดไม่สามารถลงได้อย่างมีนัยสำคัญอย่างที่เคยทำได้มาก่อนหน้านี้ ยิ่งแท่งเทียนเมื่อวันจันทร์พยายามลงไปและถูกแนวรับสะท้อนกลับมายิ่งแสดงให้เห็นว่าความต้องการทองคำมีเพิ่มมากขึ้น
อินดิเคเตอร์ RSI กำลังทดสอบแนวรับที่เกิดจากเส้นเทรนด์ไลน์ขาขึ้นและจุดสูงสุดของยอดก่อนหน้าในขณะเดียวกันอินดิเคเตอร์ ROC ก็กำลังฟอร์มตัวเป็นรูปแบบธง แต่ที่เราอยากให้นักลงทุนโฟกัสก็คือการทดสอบที่เกิดขึ้นของอินดิเคเตอร์ที่บริเวณจุดสูงสุดของกราฟในเดือนตุลาคมพอดี
ยิ่งไปกว่านั้นการฟอร์มตัวของราคาและอินดิเคเตอร์ที่มีนัยสำคัญนี้เกิดขึ้นในกรอบราคาขาลง ที่ผ่านมาฝั่งขาขึ้นไม่เคยเอาชนะปรับตัวกลับไปเป็นขาขึ้นได้เลย เป็นที่น่าจับตามากว่าทองคำจะสามารถสร้างแนวโน้มใหม่ได้ก่อนขึ้นปีใหม่ 2021 ได้หรือไม่ นี่จะเป็นการกำหนดทิศทางราคาทองคำในช่วงไตรมาสแรกของปี 2021 เลยก็ว่าได้ การขึ้นยืนเหนือ $1,920 ครั้งนี้จึงมีความสำคัญต่อนักลงทุนทองคำเป็นอย่างมาก ในกรณีที่ขาลงชนะ นักลงทุนอาจพิจารณาการวิ่งในกรอบขาลงเป็นการปรับฐานต่อเพื่อรอสัญญาณขาขึ้นครั้งใหม่ในปีหน้า
กลยุทธ์การเทรด
เทรดเดอร์ที่ไม่ชอบความเสี่ยง จะรอจนกว่าราคาจะวิ่งทะลุแนวรับหรือแนวต้านด้านใดด้านหนึ่งเกิน 3% เพื่อให้มั่นใจว่าแรงส่งที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่ของปลอม
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้ปานกลาง มองตลาดคล้ายกับนักลงทุนในกลุ่มที่ไม่ชอบความเสี่ยง แต่จะรอสัญญาณเข้าจากการทะลุแนวรับหรือแนวต้านเพียง 2% เท่านั้นเพื่อกันสัญญาณหลอก
เทรดเดอร์ที่รับความเสี่ยงได้สูง จะเสี่ยงเทรดสวนแนวโน้มในกรอบแคบๆ เลย การลงทุนแบบนี้ต้องอาศัยความชำนาญในการเก็บกำไรระยะสั้นๆ เราไม่แนะนำวิธีนี้สำหรับนักลงทุนมือใหม่
ตัวอย่างการเทรด
- จุดเข้า: $1,869
- Stop-Loss: $1,859 (จุดต่ำสุดของวันจันทร์)
- ความเสี่ยง: $10
- เป้าหมายในการทำกำไร: $1,969
- ผลตอบแทน: $100
- อัตราความเสี่ยงต่อผลตอบแทน: 1:10