รับส่วนลด 40%
ใหม่! 💥 รับ ProPicks เพื่อดูกลยุทธ์ที่ให้ผลตอบแทน ชนะดัชนี S&P 500 มากกว่า 1,183% รับส่วนลด 40%

ECB มองอย่างไรเมื่อยูโรแข็งค่าขึ้นสวนทางกับตัวเลข PMI 

เผยแพร่ 27/10/2563 11:51
อัพเดท 09/07/2566 17:31

เมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว ฉันได้วิเคราะห์เอาไว้เกี่ยวกับสามปัจจัยหลักๆ อย่างการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯและข้อมูลตัวเลขทางเศรษฐกิจจะส่งผลกระทบต่อสกุลเงินอย่างไรบ้างซึ่งผลที่ออกมาก็คือดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ยกเว้นแต่ปอนด์สเตอร์ลิง อย่างไรก็ตามดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ของเดือนตุลาคมในหลายๆ ประเทศกลับไม่ได้ชะลอตัวอย่างที่คาดการณ์ สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุนค่อนข้างมาก

ดัชนี PMI ภาคการผลิตของเยอรมันออกมาดีขึ้นอย่างชัดเจนซึ่งช่วยหักล้างความเสียหายจากตัวเลขในภาคบริการที่ออกมาต่ำกว่าคราวก่อนและตัวเลขคาดการณ์ได้ ในขณะที่ของสหรัฐอเมริกาและออสเตรเลีย ตัวเลขในภาคการผลิตและบริการถือว่าดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเพราะภาคบริการสามารถช่วยชดเชยตัวเลขของภาคการผลิตได้ แต่ก็ไม่ใช่ว่าสถานการณ์ที่ดีเช่นนี้จะเกิดขึ้นกับทุกประเทศเพราะหากดูที่ประเทศญี่ปุ่น จะเห็นว่าดัชนี PMI ภาคการผลิตเพิ่มขึ้นแต่ภาคบริการกลับลดลง มีเพียงสหราชอาณาจักรเท่านั้นที่ตัวเลขทั้งสองออกมาชะลอตัว ทำไมตัวเลข PMI ของภาคการผลิตและบริการถึงสำคัญนักถึงขนาดต้องมาแจงดูของแต่ละประเทศไป? เพราะตัวเลขทั้งสองสามารถบอกผลกระทบจากโควิด-19 รอบที่สองในประเทศเหล่านั้นได้เป็นอย่างดี

อีกหนึ่งสาเหตุที่นักลงทุนควรรู้ข้อมูลตัวเลขเหล่านี้เอาไว้ก่อนเพราะสัปดาห์นี้จะมีการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนนี้ตลาดกำลังให้ความสนใจกับท่าทีของธนาคารกลางแห่งสหภาพยุโรป (ECB) ซึ่งเชื่อกันเหลือเกินว่าจะต้องมีการผ่อนคลายการเงินนโยบายก่อนสิ้นปี 2020 แม้ว่าดัชนี PMI ในภาพรวมของยูโรโซนจะชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจกำลังวิ่งกลับเข้าไปสู่การหดตัวอีกครั้ง แต่ข่าวข้อมูลตัวเลขที่ดีขึ้นในวันพฤหัสบดีก็ดีพอที่จะทำให้ตลาดคลายความกังวลและทำให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นได้ชั่วคราว กราฟ EUR/USD ไม่เพียงแค่สามารถขึ้นไปจนเกือบสร้างจุดสูงสุดใหม่ในรอบหนึ่งเดือน แต่ยังเป็นคู่สกุลเงินที่ทำผลงานได้ดีที่สุดของวันศุกร์ด้วย 

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือตลาดพยายามทำเป็นเหมือนกับไม่สนใจข่าวโควิด-19 ที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในยุโรปจนเกือบจะควบคุมไม่ได้อยู่แล้ว แต่รัฐบาลก็พยายามที่จะทำทุกอย่างให้ไม่ต้องประกาศเป็นการล็อกดาวน์แบบสมบูรณ์แต่ใช้มาตรการเข้มงวดและเคอร์ฟิวแทน หากท่าทีของนางคริสตีน ลาการ์ด ประธาน ECB ในสัปดาห์นี้ไม่แสดงความเป็นกังวลประกอบกับนักลงทุนที่หนีออกจากตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก่อนการเลือกตั้งก็มีโอกาสให้สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์

ในขณะเดียวกัน นักเศรษฐศาสตร์ก็มองว่าการเงินนโยบายของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BoJ) และธนาคารกลางแคนาดา (BoC) จะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแต่ BoJ อาจปรับลดความช่วยเหลือในการเข้าไปอุ้มธุรกิจของธนาคารกลางลง สถานการณ์ของสหราชอาณาจักรยังไม่ดีขึ้นและอาจจะค่อนไปทางแย่ลงเพราะนอกจากตัวเลข PMI ในภาคการผลิตและบริการของวันพฤหัสบดีจะออกมาชะลอตัวแล้ว ตลาดก็เริ่มเบื่ิอหน่ายและหมดหวังกับการเจรจา Brexit ซึ่งนั่นทำให้สกุลเงินปอนด์อาจจะเริ่มอ่อนมูลค่าลง

เมื่อบินข้ามทวีปกลับมายังสหรัฐอเมริกา นางแนนซี่ เพโลซี่ก็ยังให้ความหวังกับตลาดต่อไปโดยกล่าวเหมือนเปิดประตูนิดๆ เอาไว้ว่ามาตรการเยียวยาทางเศรษฐกิจอาจจะได้เห็นก่อนการเลือกตั้งหากว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หนุนเรื่องนี้อีกนิด แต่ตลาดดูเหมือนว่าจะเชื่อคำพูดของนายสตีฟ มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังมากกว่าที่บอกว่า “ยังมีช่องว่างของความเป็นไปได้ที่จะได้เห็นเงินเยียวยาเปิดกว้างอยู่อย่างมีนัยสำคัญ” ที่สำคัญกว่านั้นหากมองตามความเป็นจริงแล้วตอนนี้คือสัปดาห์สุดท้ายก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ และจากข้อมูลโพลหลายสำนักบอกตรงกันว่าโจ ไบเดนมีคะแนนนิยมมากกว่าทรัมป์ แล้วเขาจะมีเวลามาสนใจเงินกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างไร ถึงกระนั้น หากดูพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดหุ้นกับตลาดฟอเร็กซ์จะเห็นความแตกต่างกันอย่างชัดเจน ในขณะที่ตลาดหุ้นรอข่าวดีเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียวแต่นักลงทุนฟอเร็กซ์พร้อมที่จะสลับไปมาระหว่างดอลลาร์กับยูโรอยู่เสมอ แม้ยอดผู้ติดเชื้อโควิดในสหรัฐฯ จะยังเพิ่มสูงขึ้นแต่สหรัฐฯ กลับไม่ได้คุมเข้มหรือมีมาตรการใหม่เหมือนกับในยุโรปซึ่งส่งผลกระทบต่อตัวเลขการจับจ่ายใช้สอยและสร้างความแตกต่างให้กับการเติบโตทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองทวีป ยิ่งใกล้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เข้ามามากเท่าไหร่ สิ่งที่นักลงทุนต้องพึงระวังเอาไว้ในสัปดาห์นี้คือความผันผวนจะยิ่งเพิ่มสูงขึ้น

 

 

ความคิดเห็นล่าสุด

ขอบคุณครับ
การเปิดเผยความเสี่ยง: การซื้อขายตราสารทางการเงินและ/หรือเงินดิจิตอลจะมีความเสี่ยงสูงที่รวมถึงความเสี่ยงต่อการสูญเสียจำนวนเงินลงทุนของคุณบางส่วนหรือทั้งหมดและอาจไม่เหมาะสมกับนักลงทุนทั้งหมด ราคาของเงินดิจิตอลแปรปรวนอย่างมากและอาจได้รับผลกระทบจากปัจจัยภายนอกต่าง ๆ เช่น เหตุการณ์ทางการเงิน กฎหมายกำกับดูแล หรือ เหตุการณ์ทางการเมือง การซื้อขายด้วยมาร์จินทำให้ความเสี่ยงทางการเงินเพิ่มขึ้น
ก่อนการตัดสินใจซื้อขายตราสารทางการเงินหรือเงินดิจิตอล คุณควรตระหนักดีถึงความเสี่ยงและต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายในตลาดการเงิน ควรพิจารณาศึกษาอย่างรอบคอบในด้านวัตถุประสงค์การลงทุน ระดับประสบการณ์ และ การยอมรับความเสี่ยงและแสวงหาคำแนะนำทางวิชาชีพหากจำเป็น
Fusion Media อยากเตือนความจำคุณว่าข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้ไม่ใช่แบบเรียลไทม์หรือเที่ยงตรงแม่นยำเสมอไป ข้อมูลและราคาที่แสดงไว้บนเว็บไซต์ไม่ใช่ข้อมูลที่ได้รับจากตลาดหรือตลาดหลักทรัพย์เสมอไปแต่อาจได้รับจากผู้ดูแลสภาพคล่องและดังนั้นราคาจึงอาจไม่เที่ยงตรงแม่นยำและอาจแตกต่างจากราคาจริงในตลาดซึ่งหมายความว่าราคานี้เป็นเพียงราคาชี้นำและไม่เหมาะสมสำหรับวัตถุประสงค์เพื่อการซื้อขาย Fusion Media และผู้ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้จะไม่รับผิดชอบใด ๆ สำหรับความเสียหายหรือการสูญเสียที่เป็นผลมาจากการซื้อขายของคุณหรือการพึ่งพาของคุณในข้อมูลที่มีในเว็บไซต์นี้
ห้ามใช้ จัดเก็บ ทำซ้ำ แสดงผล ดัดแปลง ส่งผ่าน หรือ แจกจ่ายข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้โดยไม่ได้รับการอนุญาตล่วงหน้าอย่างชัดแจ้งแบบเป็นลายลักษณ์อักษรจาก Fusion Media และ/หรือจากผู้ให้ข้อมูล ผู้ให้ข้อมูลขอสงวนสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและ/หรือการแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ให้ข้อมูลที่มีอยู่ในเว็บไซต์นี้
Fusion Media อาจได้รับผลตอบแทนจากผู้โฆษณาที่ปรากฎบนเว็บไซต์โดยอิงจากปฏิสัมพันธ์ของคุณที่มีกับโฆษณาหรือผู้โฆษณา
เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษของเอกสารฉบับนี้เป็นเวอร์ชั่นหลักซึ่งจะเป็นเวอร์ชั่นที่เหนือกว่าเมื่อใดก็ตามที่มีข้อขัดแย้งไม่สอดคล้องตรงกันระหว่างเอกสารเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษกับเอกสารเวอร์ชั่นภาษาไทย